Author: Sethapong Pawwattana
Photography: Courtesy of Seiko
สองผลงานดีไซน์ใหม่จากไซโก (ประเทศไทย) Storm (พายุ) และ Sunshine (แสงแดด) ภายใต้ตัวเรือนยอดฮิตที่แฟนๆ ทั่วโลกขนานนามว่า ‘มอนสเตอร์’ โดยสองเรือนเวลาพิเศษนี้ได้เกิดจากการรวบรวมแรงบันดาลใจของปรากฏการณ์จากธรรมชาติที่เกิดขึ้นและพบเจอได้บ่อยครั้งบนท้องฟ้า ผ่านปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงของก้อนเมฆจากพายุ และยามที่ท้องฟ้าสดใสหลังพายุผ่านไป
Storm ถูกออกแบบมาภายใต้รหัส SRPK51K นาฬิกาเรือนสีดำสนิท Black IP ที่มาจากความมืดมิดของท้องฟ้าในช่วงที่พายุพัดโหม หน้าปัดมีพื้นผิวคล้ายก้อนเมฆที่กำลังก่อตัว ทำจากเทคนิคพิเศษ เสริมความเด่นด้วยขอบหน้าปัดแสดงสเกลนาทีแบบทูโทน ขาว – ฟ้า โดยนาทีที่ 1 – 25 เป็นสีฟ้าตัดกับตัวเรือน และสายสีดำสนิท ประดับหน้าต่างย่อยบอกวัน และวันที่ ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา เคลือบสารเรืองแสงลูมิไบรท์ที่เข็มและขีดบอกเวลา จับคู่กับสายสเตนเลสสตีลเคลือบ Black IP พิเศษ ฝาหลังสีโรสโกลด์
Sunshine ถูกออกแบบมาภายใต้รหัส SRPK53K ดังเช่นก้อนเมฆบนท้องฟ้าเปลี่ยนไปเป็นความสดใสโดยสิ้นเชิงหลังอาทิตย์สาดส่อง หน้าปัดสีฟ้าที่สร้างสรรค์อย่างมีมิติเหมือนกับปุยเมฆละมุน ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าอันสดใส เติมสีสันที่ขอบหน้าปัดด้านในสีขาว – ส้ม และขอบตัวเรือนแบบทูโทนสีไวโอเล็ตและน้ำเงิน ประกอบกับสีของชุดเข็มทั้งสามที่แตกต่างกัน โดยเข็มชั่วโมงสีทอง เข็มนาทีใช้สีน้ำเงินเข้ม และเข็มวินาทีเป็นสีเขียว เสมือนปรากฏการณ์เมื่อแสงตกกระทบละอองน้ำบนท้องฟ้าจะเกิดสีสันต่างๆ
มีหน้าต่างย่อยบอกวัน และวันที่ ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา เคลือบสารเรืองแสงลูมิไบรท์ที่เข็มนาที เข็มชั่วโมง ปลายเข็มวินาที ขีดบอกเวลา ฝาหลังสีเยลโลว์โกลด์
นาฬิกา Seiko Prospex Cloud Phenomenon Thailand Limited Edition ทั้งสองเรือนมาพร้อมกล่องดีไซน์พิเศษแบบเดียวกัน โดยด้านนอกออกแบบเป็น
สีดำของบรรยากาศยามพายุโหมกระหน่ำ และเมื่อเปิดกล่องจะเจอ 3D pop up die cut รูปก้อนเมฆสีฟ้าสดใสของท้องฟ้าหลังพายุ และข้อความสร้างแรงบันดาลใจ ‘After the dark rainy sky, comes a beautiful sun shining day’ ซึ่งมีความหมายว่า ‘ท้องฟ้าหลังพายุฝนอันมืดมิดย่อมสดใสสวยงามเสมอ’ นาฬิกาถูกผลิตในจำนวนจำกัด รุ่นละ 1,500 เรือน