ตำนานบทใหม่ ‘มาเซราติ กรันทูริสโม’ โฉมใหม่ ที่สุดของประติมากรรมยานยนต์

Share This Post

- Advertisement -

พร้อมให้คุณได้ยลโฉมแล้ววันนี้กับการเปิดตัว มาเซราติ กรันทูริสโม (GranTurismo) โฉมใหม่ อย่างเป็นทางการ นับเป็นการเปิดตำนานบทใหม่ ที่เริ่มขึ้นจาก มาเซราติ A6 1500 เมื่อ 77 ปีที่ผ่านมาโดยเป็นยนตรกรรมสไตล์จีที (GT) ที่เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของสมรรถนะแบบรถสปอร์ต เข้ากับความสะดวกสบายเพื่อรองรับการขับทางไกล

ที่สำคัญมีด้วยกันถึง 3 รุ่นย่อย คือ Modena, Trofeo และสุดยอดนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่น Folgore ซึ่งแปลว่าสายฟ้าในภาษาอิตาเลียน ซึ่งมาในภายใต้คอนเซปต์
‘The Others Just Travel’ ที่ต้องการมอบประสบการณ์สุดพิเศษ มากกว่าการเดินทาง

นอกจากภายนอกจะหล่อแล้ว เรามาดูกันที่เครื่องยนต์กันบ้างว่าจะขนาดไหนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน วี6 สูบ 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ เน็ททูโน (V6 Nettuno) ซึ่งบล็อกเดียวกับที่ใช้ในซูเปอร์คาร์ รุ่น เอ็มซี20 (MC20) ติดตั้งในสองรุ่นย่อย คือ Modena กับความแรง 490 แรงม้า (HP) แรงบิด 600 นิวตันเมตร  และ Trofeo ที่ผ่านการอัพเกรดเพิ่มกำลังเป็น 550 แรงม้า (HP) แรงบิด 650 นิวตันเมตร ส่วนรุ่น GranTurismo Folgore ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ส่งกำลังผ่านมอเตอร์ 402 แรงม้า (HP) จำนวน 3 ตัว (หน้า 1 หลัง 2) ผสานเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800 โวลต์ ความจุ 92.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง เทคโนโลยีของรถแข่งฟอร์มูลา อี (Formula E) ทำได้ 761 แรงม้า (HP) แรงบิด 1,350 นิวตันเมตร 

นอกจากนี้แล้วสถาปัตยกรรมเชิงเทคนิคของรถรุ่นใหม่นี้ คือ การนำวัสดุที่เบากว่าเดิมมาใช้ อาทิเช่นการนำเอาอะลูมิเนียมหรือแมกนีเซียม ร่วมกับโลหะเกรดสูง ทำให้ได้วัสดุที่เบาแต่มีประสิทธิขั้นสูง และที่ยิ่งไปกว่านั้นกับระบบ Atlantis High อันล้ำสมัยภายใต้มาตรฐาน canFD ที่มีความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลได้เร็วสุดถึง 0.002 วินาที มาพร้อมระบบ cyber-security ระดับ 5 และฟีเจอร์ flash-over-the-air และศูนย์กลางในการควบคุมระบบ Vehicle Domain Control Module (VDCM) ประกอบไปด้วยซอฟต์แวร์ที่พร้อมมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่ ในการควบคุมระบบที่สำคัญทั้งหมดของรถยนต์แบบ 360 องศา เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีทีสุดในทุกที่ ทุกเวลา

หากดูจากรูปลักษณ์แล้ว ต้องบอกเลยว่าใครเห็นก็เหลียวมองกันแน่นอน ดีไซน์โฉบเฉี่ยว ที่ความงามกับสมรรถนะเข้ากันอย่างลงตัว พร้อมรักษาเอกลักษณ์ไว้ได้อย่างครบถ้วน โดยฝากระโปรงหน้าทรงยาว ตำแหน่งผู้ขับที่อยู่กึ่งกลางระหว่างล้อทั้ง 4 พร้อมหลังคาลาดต่ำสู่ด้านหลัง เน้นให้เห็นความโค้งมนของเสาซี ที่มีโลโก้ตรีศูลติดตั้งอยู่ ห้องโดยสารติดตั้งนวัตกรรมล้ำสมัย ด้วยระบบมัลติมีเดีย Maserati Intelligent Assistant (MIA),หน้าจอ comfort display ที่รวมฟังก์ชั่นหลักของทัชสกรีนอเนกประสงค์, นาฬิกาดิจิทัลอัจฉริยะ (Digital Smart Clock) และเฮด-อัพ ดิสเพลย์ (เป็นออปชั่น) และนอกจากนั้น ‘all-round sound experience’ การันตีด้วยสุ้มเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ มาเซราติ รวมทั้งเวอร์ชั่นรถไฟฟ้า อันเกิดจากฝีมือการพัฒนาของวิศวกรจาก Maserati Innovation Lab มอบประสบการณ์สมบูรณ์แบบผ่านระบบเครื่องเสียง Maserati Sound Audio Systemและมีออปชั่นพิเศษกับสุดยอดเครื่องเสียงสัญชาติอิตาลี ‘Sonus Faber’ ลำโพง 12 ตำแหน่ง และ 19 ตำแหน่งให้เลือก

ต้องบอกเลยว่าการที่ไม่หยุดพัฒนาของ มาเซราติ ทำให้เกิด กรันทูริสโม โฉมใหม่ ที่ผ่านการพัฒนาจาก Maserati Innovation Lab และผลิตที่โรงงาน มิราฟิออรี เมืองตูริน ประเทศอิตาลี สะท้อน ‘ความหรูหราและสมรรถนะแบบอิตาเลียน’ หากใครกำลังมองหารถสปอร์ต ที่มีความหรูหราและสะดวกสบายแล้ว คันนี้รอบรองว่าตอบโจทย์เลยทีเดียว โดยสามารถพบกันได้ที่โชว์รูมมาเซราติทุกสาขาทั่วประเทศ และเว็บไซต์ http://Thailand.Maserati.com/ 




- Advertisement -