เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา แบรนด์นาฬิกา TAG Heuer ร่วมเปิดตัวนาฬิกาคอลเล็กชั่นใหม่ 4 รุ่นล่าสุดแห่งปี 2024 ในงาน LVMH Watch Week โดยเริ่มต้นด้วยนาฬิกานาฬิกาสมาร์ทวอชรุ่นล่าสุดอย่างนาฬิกา Connected “TAG Heuer Connected Calibre E4″ ขนาด 45 มม. ที่มาในเฉดสีเขียวสะกดทุกสายตา ตัวเรือนสตีลที่แข็งแรงทนทาน พร้อมกรอบขัดเงาเซรามิกสีเขียว เสริมด้วยสายยางสีเขียวที่เข้ากันอย่างลงตัว นอกจากนี้ ยังมาพร้อมหน้าปัดนาฬิกาสีเขียวหลากหลายเฉดเข้ากับตัวเรือนถึงสามแบบ ได้แก่ Mirage, Prism และ Chromatic มอบสัมผัสแห่งแอนิเมชั่นโดยไม่บดบังความสง่างาม
ยิ่งไปกว่านั้นยังปรับให้เข้ากับลุคและสไตล์ของทุกคน นาฬิกาเรือนนี้จึงสามารถเข้ากับทุกลุคอีกด้วย รวมไปถึงการเชื่อมต่อในช่วงเวลาทำงานหรือการบันทึกช่วงเวลาการออกกำลังกาย ในขณะเดียวกันก็ยัง สามารถติดตามกิจวัตรประจำวันได้อีกเช่นกัน นาฬิกา Connected Watch: Watch Faces หน้าปัดนาฬิกาแบบใหม่หลากหลายแบบ เช่น รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น และสัญลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของนาฬิการุ่น Connected หรือ TAG Heuer Aquaracer หนึ่งในนาฬิกาในอุดมคติสำหรับการดำน้ำและกิจกรรมกลางแจ้ง และ TAG Heuer Formula 1 สุดไอคอนิก เป็นเรือนเวลาที่ถูกนิยามเสมือนกับการแข่งรถ สะท้อนผ่านประสบการณ์บนหน้าปัดนาฬิกา Connected อีกด้วย
โดยในปี 2024 นี้ TAG Heuer ได้เริ่มต้นปีใหม่อย่างมีสไตล์ด้วยการเปิดตัวนาฬิกา TAG Heuer Carrera Chronograph โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก DATO สุดไอคอนิก แ และยังได้เผยโฉม TAG Heuer Carrera Chronograph Tourbillon ที่ใจกลางของนาฬิการุ่นนี้มีกรงทูร์บิญอง 6 นาฬิกา ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงงานฝีมืออันประณีตของ TAG Heuer โดยกลไกทูร์บิญองเป็นกรงที่หมุนได้อย่างต่อเนื่องซึ่งล้อมรอบด้วยเฟืองแกว่ง ซึ่งเป็นส่วนเสริมที่น่าหลงใหลของคอลเล็กชั่น Carrera ที่มาหน้าปัดสี Teal Green อันหรูหรา ซึ่งผลงานชิ้นเอกเหล่านี้ผสมผสานดีไซน์ Glassbox อันเป็นเอกลักษณ์แห่งปี 2023
ในคอลเลกชั่นนี้ยังมี TAG Heuer Aquaracer Professional 200 Solargraph เนื่องจากนาฬิกาสามารถชาร์จได้ด้วยแสงแดดหรือแสงไฟ ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ของนาฬิกามาในขนาดใหม่ล่าสุด 34 มม. มีหน้าปัดใหม่ด้วยกัน 5 แบบ อาทิเช่น สี Polar Blue, สีน้ำเงินเข้ม และหน้าปัแบบ Mother of pearl นับเป็นครั้งแรกในซีรีส์ Solargraph ประกอบด้วยเรือนเวลาอันวิจิต 3 เรือน สร้างนิยามใหม่ของความหรูหราในวงการกีฬา โดยรุ่นแรกประดับด้วยเพชรบนหลักเวลา และรุ่นที่สามประดับเพชรที่ทั้งบนหลักเวลาและรอบขอบหน้าปัด นอกจากนี้ TAG Heuer ได้ปรับความยาวของนาฬิกาและสาย เพื่อให้มีขนาดกะทัดรัดรองรับขนาดข้อมือที่หลากหลาย โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิง ซึ่งมีความหนาของตัวเรือนเพียง 9.5 มม. จึงเป็นตัวเลือกที่มอบความสะดวกสบายและมีสไตล์เหมาะสำหรับทุกโอกาส
ปิดท้ายด้วยด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยของ TAG Heuer Carrera Date Plasma Diamant d’Avant-Garde ที่ตัวเรือนมาพร้อมกับการประดับเพชรสังเคราะห์หรือ ‘Lab-grown Diamonds’ น้ำหนักรวม 4.8 กะรัต รวมถึงเพชรสีเหลืองสะกดสายตา 1.4 กะรัต ซึ่งนับเป็นสีที่สองที่ช่างนาฬิกาได้รังสรรค์ขึ้น จากความสำเร็จของรุ่นก่อนกับนาฬิกา TAG Heuer Carrera Date Plasma Diamant d’Avant-Garde ที่ประดับด้วยเพชรสีชมพู บอกได้เลยว่านาฬิการุ่นนี้สามารถดึงดูดสายตาผู้ชมในงาน Watches and Wonders ในปี 2023 ที่ผ่านมา และสำหรับรุ่นเพชรสีเหลืองนี้ถือเป็นอีกก้าวแห่งการบุกเบิกในอุตสาหกรรมนาฬิกา โดยตัวเรือนนาฬิกามาพร้อมสายนาฬิกาหนังจระเข้สีขาว เข้าคู่กับตัวล็อคบานพับที่ทำจากทองคำขาว ขับเคลื่อนด้วยกลไกคาลิเบอร์ 7 อัตโนมัติ ภายใต้ฝาหลังที่ทำจากกระจกแซฟไฟร์อีกด้วย