Author: Sethapong Pawwattana
Photography: Courtesy of Louis Vuitton
Speedy มาจากจินตนาการโดย Gaston-Louis Vuitton ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 1930 ในชื่อ ‘Express’ ซึ่งเป็นการรับทราบถึงความนิยมในด้านความเร็วและรถยนต์ในยุคนั้น จึงเป็นกระเป๋าแคนวาสที่ใช้งานง่ายสะดวกกว่าหีบเดินทางหรือกระเป๋าเดินทางทรงหีบซึ่งเป็นวิถีการเดินทางในยุคทองที่เต็มไปด้วยบริวาร แต่ Speedy ออกแบบมาเพื่อไม่กินพื้นที่การจัดเก็บ เพราะยุคนั้นการเดินทางด้วยการขับรถยนต์เองเริ่มเป็นที่นิยม และเป็นเส้นทางที่ไปค้างไม่กี่คืน ไม่ใช่การเดินทางด้วยรถไฟหรือเรือเดินสมุทรอย่างแต่ก่อน
ในปี 1959 Speedy ได้เปิดตัวด้วยผ้าใบลาย monogram ที่อ่อนนุ่ม และกลายเป็นสิ่งที่ ‘ต้องมี’ สำหรับนักเดินทางที่มีรสนิยมวิไล อีกทศวรรษต่อมากระเป๋า Speedy ที่มีขนาดเล็กกลับได้รับความนิยมจากสุภาพสตรีที่ใช้เป็นกระเป๋าถือ เราจะเห็นภาพของออเดรย์ เฮปเบิร์น ถือกระเป๋า Speedy ใบเล็กข้างกาย แน่นอนว่าเธอมีชุดกระเป๋าที่เป็นลายโมโนแกรมเช่นกัน ไม่แปลกใจเลยว่ากระเป๋า Speedy ใบเล็กจะได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น สถานะของการเป็นกระเป๋าแคนวาสน้ำหนักเบา เมื่อใช้เป็นกระเป๋าเดินทางก็มีระบบล็อคนิรภัย จึงดึงดูดใจคนแฟชั่นในเมืองและกลายเป็นกระเป๋าถือที่ทันสมัยในยุค ’60s
ในปี 1965 ออเดรย์ เฮปเบิร์น ได้จารึก Speedy ให้กลายเป็นประวัติศาสตร์ที่เสมือนมรดกล้ำค่ามาจนปัจจุบัน คำขอของเธอต่อ Henry-Louis Vuitton ให้สร้างสรรค์ Speedy ที่มีขนาดเล็กกว่าปกติ ซึ่งขนาดปกติเหมาะกับการเดินทางแบบต้องไปค้างไม่กี่คืน Speedy จึงมีขนาด 30, 35 และ 40 แต่เพื่อให้พอดีกับรูปร่างที่เล็กของเธอ พลังดาราของเธอจาก ‘Breakfast at Tiffany’s’ (1961) ช่วยให้เธอสมความปรารถนาด้วย Speedy 25 นับตั้งแต่นั้นมา กระเป๋าใบนี้ยังคงเป็นหนึ่งในสินค้าขายดีของ Louis Vuitton และเป็นไอคอนสากล ซึ่งได้รับการตีความใหม่โดยศิลปินและเฟรนด์ของแบรนด์มากมาย
เต็มรูปแบบประสบการณ์ระดับไฮเอนด์อันน่าสัมผัส
กระเป๋า Louis Vuitton Speedy ที่ดัดแปลงใหม่ปลุกเร้าทัศนคติและความเร่งรีบของ Canal Street ในส่วนของโลเวอร์แมนฮัตตัน มหานครนิวยอร์ก ให้เป็นไอคอนประจำวันที่สร้างสรรค์ขึ้นสำหรับทุกย่างก้าวของชีวิต ทำอย่างไรให้ Speedy ลอกเลียนแบบไม่ได้ Speedy ได้รับการปรับโฉมใหม่ด้วยแนวทางระดับไฮเอนด์ และมอบประสบการณ์ที่เหนือชั้น โดยทุกรายละเอียดมีส่วนช่วยในการปรับแต่งโดยรวม Speedy รุ่นใหม่นี้ผลิตจากหนังลูกวัวที่มีผิวสัมผัสหนังแบบเกรนเนื้อนุ่มตามธรรมชาติที่เหมือนเราได้สัมผัสกับแป้ง ขอบหนังวัวที่นุ่มนวลและเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ ช่วยเพิ่มสัมผัสแห่งความหรูหราให้กับดีไซน์ ในหนัง VVN สีซอฟต์เอจ ตกแต่งขอบให้เข้ากันได้อย่างลงตัวกับหูจับที่นุ่มเป็นพิเศษ
ภายในกระเป๋า Speedy รุ่นใหม่นี้ยังบุด้วยหนังแกะหรูหราเป็นพิเศษ ชิ้นส่วนโลหะขัดเงาสีทองเน้นความสวยงามหรูหรา ขณะที่แผ่นโลหะพิเศษภายในกระเป๋าเพิ่มสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับ SS24 Speedy ที่เป็นหนังแท้ทั้งใบ
มรดกกับความเป็นสัญลักษณ์
ลวดลาย monogram ได้รับการทำซ้ำบนตัวกระเป๋า Speedy ด้วยเทคนิคการพิมพ์ซิลค์สกรีนระดับไฮเอนด์ (นวัตกรรมใหม่ของการพิมพ์ลายบนแผ่นหนัง) เพื่อจำลอง Sergé อันเป็นเอกลักษณ์ของตราประจำตัวที่เป็นชื่อย่อของเราเมื่อปรากฏบนผืนผ้าใบ ทำให้เกิดภาพพร่ามัว งานฝีมือ และเอฟเฟกต์ที่แทบจะวาดด้วยมือ ความใส่ใจในรายละเอียดปรากฏชัดจากการตกแต่งอย่างประณีตบนหูกระเป๋าและขอบกระเป๋า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงงานฝีมืออันพิถีพิถันในการสร้างสรรค์ชิ้นงานแต่ละชิ้น
โครงสร้างที่ดูซอฟท์ช่วยให้ส่วนล่างของกระเป๋ายุบตัวและพับเก็บได้ในลักษณะเดียวกับการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน เป็นที่เฉพาะเจาะจงมากสำหรับ Speedy ใหม่นี้ การปรับแต่งบรรจุภัณฑ์ LV อันเป็นเอกลักษณ์ให้เข้ากับสีของ Speedy จะทำให้ประสบการณ์นี้มีความระทึกใจยิ่งขึ้น
แรงบันดาลใจ
สำหรับคอลเลกชั่นสุภาพบุรุษครั้งแรกของ Pharrell Williams ได้ออกแบบกระเป๋าหนังจระเข้ที่โดดเด่นและแพงที่สุดเท่าที่ Louis Vuitton เคยผลิตมา นั่นก็คือ Millionaires Speedy 40 ผลงานชิ้นเอกของคอลเลกชั่น SS24 เป็นความร่วมมือครั้งแรกระหว่างช่างฝีมือระดับสูงของเมซง ได้แก่ แผนกเครื่องหนังเอ็กโซติก แผนกเครื่องประดับชั้นสูง ผสมผสานการลงสีด้วยมือบนหนังจระเข้ ชิ้นส่วนโลหะในแบบเครื่องประดับชั้นสูง ชื่อของ Millionaires Speedy 40 ไม่เพียงแต่มาจากตัวเลขบนป้ายราคาเท่านั้น แต่ยังอ้างถึงความร่วมมือครั้งแรกระหว่าง Pharrell Williams และ Louis Vuitton ในปี 2004 อีกด้วย ผลงานที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้เป็นความร่วมมือครั้งแรกกับทีมงานไฮจิวเวลรีที่สร้างชิ้นงานโลหะสีทองสุดพิเศษสลักลายเซ็นของ Louis Vuitton รวมถึงเป็นผลงานชิ้นแรกที่ทำด้วยซิปทองคำ สัมผัสสุดท้ายคือแม่กุญแจที่ประดับด้วยเพชรทั้งหมด ซึ่งช่วยให้ Millionaires Speedy 40 มีความแวววาวระยิบระยับ ผลงานชิ้นนี้สะท้อนถึงความเปล่งประกายของคอลเลกชั่นสุภาพบุรุษของฟาร์เรลล์ สำหรับ Louis Vuitton อย่างเต็มที่ โดยที่ดวงอาทิตย์เป็นจุดสำคัญของโอกาส สินค้านี้มาพร้อมกับหีบประวัติศาสตร์ของเมซงซึ่งผสมผสานชื่อย่อบนผืนผ้าใบในอดีตและตราชื่อย่อ Plexi รวมถึงแว่นกันแดด Millionaires กระเป๋า Millionaires Speedy 40 จึงเป็นตัวแทนที่โดดเด่นของความเชี่ยวชาญระดับไฮเอนด์ของเมซง และระดับพิเศษของความร่วมมือกันระหว่างช่างฝีมือหลายราย อีกทั้งยังเป็นข้อพิสูจน์ถึงสุดยอดงานฝีมือ
Millionaires Speedy 40 เมื่อพิจารณาจากวัสดุและราคาแล้ว ถือว่ามีความเปราะบางอย่างยิ่ง ผลงานรังสรรค์สุดพิเศษนี้จะต้องได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด จะไม่มีความต้านทานเช่นเดียวกับชิ้นงานแปลกใหม่มาตรฐาน ซึ่งเปราะบางอยู่แล้ว เนื่องจากโมเดลอันเป็นเอกลักษณ์นี้ใช้เวลาสร้างนานมาก และมีการลงสีด้วยมือและทำจากทองคำและเพชร
สำหรับคอลเลกชั่นสุภาพบุรุษครั้งแรกของ Pharrell Williams ได้ออกแบบกระเป๋าหนังจระเข้ที่โดดเด่นและแพงที่สุดเท่าที่ Louis Vuitton เคยผลิตมา นั่นก็คือ Millionaires Speedy 40
เรามาดูรายละเอียดกันว่าความพิเศษที่ว่าเป็นเช่นไร นับเป็นครั้งแรกสำหรับข้อเสนอที่แปลกใหม่ ลวดลาย monogram ได้รับการลงสีด้วยมือผ่านประสบการณ์อันยอดเยี่ยม กระบวนการลงสีที่พิถีพิถันเป็นพิเศษมาจากการทำงาน 65 ชั่วโมง มากกว่า 5 วันทำงาน (10 – 13 ชั่วโมงต่อวัน) รูปแบบ 360 องศา ตอกย้ำความเป็นเอกลักษณ์ของงานชิ้นนี้ ระหว่างเกล็ดของหนังจระเข้มีการใช้เทคนิคเสริมความแข็งแรงโดยเฉพาะเพื่อรักษาความนุ่มนวลตามธรรมชาติของหนังจระเข้ ในส่วนของเครื่องประดับชั้นสูงเป็นความร่วมมือครั้งแรกระหว่าง Men LG และ High Jewelry ชิ้นส่วนโลหะทั้งหมดของกระเป๋าทำจากทองคำ 18K น้ำหนัก 1,001.62 กรัม ขัดเงาและขึ้นรูปโดยช่างอัญมณีของ Louis Vuitton เพื่อสร้างห่วงโซ่ทองคำ 18K อันเป็นเอกลักษณ์ แม่กุญแจประดับเพชร 8.634 กะรัต ซิปทำจากทองคำเต็มรูปแบบที่ใช้งานได้จริง และเป็นครั้งแรกที่ทำกับกระเป๋า Louis Vuitton การพัฒนาชิ้นงานโลหะทอง 18K ใช้เวลา 2 เดือน แต่ละชิ้นได้รับการประดิษฐ์ ขัดเงา และแกะสลักโดยช่างอัญมณี ผลงานชิ้นนี้มาพร้อมกับหีบประวัติศาสตร์ของเมซง ซึ่งออกแบบมาหรูหรางดงามสมค่ายิ่ง
เป็นการเปิดคอลเลกชั่นแรกของฟาร์เรลล์อย่างงดงาม เพราะเขาได้สร้างความปรารถนาอยากจะครอบครอง Speedy ดีไซน์ใหม่ล่าสุดนี้อย่างที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ ยังไม่ต้องล้ำไปถึง Millionaires Speedy เพราะคงจะมีแค่คนพิเศษจริงๆ เท่านั้นที่จะได้ครอบครอง แต่อย่างน้อยเราก็ได้เห็นความสุดประณีตที่ไม่อาจลอกเลียนได้ ดังเช่นคำถามที่เกริ่นว่า ทำอย่างไรจะทำให้ Speedy ไม่อาจลอกเลียนได้ และนี่คือคำตอบที่ใครได้ครอบครองคงเปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจ