When The Time Comes

Share This Post

- Advertisement -

Photographer: Pathomporn Phueakphud

Stylist: Napat Roongruang

Author: Pacharee Klinchoo

เส้นทางชีวิตศิลปินของส้ม มารี ที่ไม่เคยเร่งรีบ แต่เธอก้าวเดินอย่างมั่นคง และในวันนี้ เธอได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ทุกคนจะเปล่งประกายได้ด้วยตัวเองทั้งสิ้น

ในวันที่เราได้เจอกับส้ม มารี เพื่อที่จะถ่ายปกดิจิตอลโปรเจ็กต์ L’Officiel Hommes BABE ส้มเพิ่งจะลงจากเวที 4 Queens Concert ที่เธอได้ขึ้นร่วมกับอีก 3 ศิลปินหญิงแห่งยุคนี้อย่างวิโอเลต วอเทียร์, BOWKYLION และอิ้งค์ – วรันธร และกำลังจะปล่อยเพลงใหม่ล่าสุดของเธอ ‘เท่าไหร่ก็ไม่พอ (Never Enough)’ ที่เธอได้ร่วมงานกับ NOA ศิลปินจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพอเราได้ลงนั่งคุยกับเธอเรื่องเส้นทางศิลปินที่เธอได้เดินมาอย่างยาวนานนั้น ทำให้เรารู้ได้เลยว่าหัวใจของผู้หญิงตัวเล็กตรงหน้าเรานั้น ไม่ได้เล็กเหมือนตัวเธอแม้แต่น้อย

“จุดเริ่มต้นของเพลง ‘เท่าไหร่ก็ไม่พอ’ คือเริ่มจากการคุยกันของสองค่ายว่าอยากจะเอาศิลปินมาร่วมงานกันค่ะ” ส้มเริ่มเล่าด้วยน้ำเสียงสบายๆ “เลยเป็นการจับคู่ระหว่างเรากับโนอะ ซึ่งพอส้มได้รับโจทย์มาว่าเพลงนี้จะเป็นเพลงของส้มที่มีโนอะมาร่วมงาน ส้มก็เลยติดต่อเต้ย (สุทธิชัย ภูพันนา เจ้าของเพลง ‘ชูลูปาก้า ตาปาเฮ้’) ให้เต้ยช่วยแต่งเพลงให้ตามโจทย์ ซึ่งโจทย์แนวดนตรีของส้มก็คือ ส้มอยากจะผสมทั้งแนวเพลงของส้มและโนอะให้เข้ากัน อยากให้มีกลิ่นของเราทั้งสองคนในเพลงเดียวกันค่ะ ตอนแรกส้มทำเนื้อเพลงภาษาญี่ปุ่นส่งไปให้โนอะด้วยนะคะ แต่เขาอยากร้องภาษาไทย ส้มเลยเปลี่ยนเนื้อให้เขา ซึ่งเขาร้องชัดมาก ถ้าไม่ได้บอกว่าเป็นชาวญี่ปุ่นร้องคือคิดว่าเป็นคนไทยแน่นอนค่ะ”

กว่าบทสัมภาษณ์นี้จะออนแอร์ แฟนส้มและแฟนโนอะคงได้ฟังเพลงและดูเอ็มวีไปกันหมดแล้ว แต่ในวันที่เราได้คุยกับส้ม เธอยังไม่มีโอกาสได้เจอหน้าโนอะเลยสักครั้ง แม้ว่าจะร่วมงานกันจนเพลงสำเร็จแล้วก็ตาม เราจึงเลือกชวนเธอคุยเรื่องเพลงต่อ “ถูกใจ 100% ค่ะ” ส้มตอบทันทีเมื่อเราถามว่าเพลงที่ทำร่วมกับคนอื่นถูกใจเธอมากน้อยแค่ไหน “เพราะถ้าไม่ถูกใจ ส้มก็จะต้องแก้ให้มันถูกใจ 100% ให้ได้ค่ะ”

ตั้งแต่เราทำงานนิตยสารมา เราจำได้ว่าเราเจอหน้าเธอบ่อยครั้งมาก จนเราแทบจะจำไม่ได้แล้วว่าเธอเดบิวต์มานานขนาดไหน “โห… กี่ปีแล้วเหรอคะ” เธอทำหน้าครุ่นคิด “ส้มประกวดร้องเพลงมาก่อน ก็คือเข้าวงการตอนอายุ 16 ปีค่ะ แต่ถ้านับตั้งแต่ปล่อยเพลงแรกตอนอายุ 18 ก็คือเดบิวต์มาได้ 13 ปีแล้วนะคะ”นั่นเป็นระยะเวลาที่ไม่น้อยเลย ส้มคิดว่าตัวเองเติบโตเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนบ้าง “ในทุกๆ ปีที่โตขึ้น เหมือนส้มได้ทำความรู้จักตัวเองมากขึ้นค่ะ ช่วง 5 ปีแรกในการทำงาน ส้มยังเด็กมาก เป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาประกวดร้องเพลง ได้เซ็นสัญญาที่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก ทุกอย่างมันใหม่มากสำหรับส้มในตอนนั้น ช่วงนั้นเป็นช่วงของการลองผิดลองถูก ผู้ใหญ่ให้ทำอะไร ส้มก็ทำงานช่วงนั้นเลยจะไม่ค่อยเป็นตัวเองมากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นภาพที่ผู้ใหญ่มองว่าเหมาะกับส้มเสียมากกว่า สิ่งเหล่านี้ทำให้ส้มค่อยๆ เริ่มรู้จักตัวเองนะคะ เพราะพอได้ลองทำไปเลยได้รู้ว่าส้มชอบหรือไม่ชอบอะไร พอถึงจุดที่ได้ออกมาทำเพลงเอง ได้เปลี่ยนค่าย ส้มก็ทำเพลงเองมาตลอด ดังนั้น ยิ่งโต แนวเพลงที่ส้มทำก็จะยิ่งมีความเป็นส้มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ

“ส้มยังเป็นคนที่ทำงานอยู่กับเพลงป็อปนะคะ” เธอตอบแบบไม่ลังเลเมื่อเราให้เธอนิยามแนวเพลงที่เป็นตัวเธอ “แต่ว่าในแต่ละปี กลิ่นมันจะแตกต่างกันไปว่าในปีนั้นๆ ส้มอินอะไรค่ะ ในช่วงที่ผ่านมา ส้มอินเพลงร็อค เพลงส้มก็จะเป็นป็อปที่ผสมความเป็นร็อคเข้ามา ซึ่งคงไม่ใช่ป็อปร็อคขนาดนั้น แค่มีกลิ่นอายหน่อยๆ ค่ะ และบางช่วงชอบ R&B ก็จะได้กลิ่นนั้น แต่ว่าในทุกๆ เพลง พื้นฐานก็จะเป็นป็อปอยู่ค่ะ”

อยู่ในวงการมานานมากขนาดนี้ ส้มมีความฝันอะไรที่อยากจะทำให้สำเร็จอยู่อีกไหม “ส้มอยากไปลองเล่นมิวสิกเฟสติวัลที่เมืองนอกดูค่ะ” อีกครั้งที่เธอตอบโดยไม่ลังเล “เพราะส้มได้เล่นมิวสิกเฟสติวัลในประเทศไทยเกือบครบแล้ว เลยอยากไปเปิดตลาดใหม่ๆ ที่เมืองนอกดูบ้าง และการได้เริ่มต้นทำงานกับโนอะก็คือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากเลยนะคะ ส้มยังไม่ได้คิดค่ะว่าอยากจะเล่นเฟสติวัลไหนเป็นพิเศษ รู้สึกว่าเล่นที่ไหนก็ได้ค่ะ เริ่มจากเฟสติวัลเล็กๆ ก่อนก็ได้ ส้มอยากจะค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป เพราะถ้าส้มค่อยๆ ไปแบบนี้ วันหนึ่งที่เราเติบโตขึ้นจริงๆ ได้หันกลับมามอง ส้มจะได้ภูมิใจในตัวเองว่าส้มมาได้ไกลจริงๆ

“ตอนที่ส้มเด็กกว่านี้” แววตาของเธออ่อนแสงลงเล็กน้อย “ส้มเคยคิดว่า ทำไมเราถึงไม่ดังสักทีนะ อยากประสบความสำเร็จไวๆ แบบคนอื่นเขาบ้าง แต่พอเดบิวต์มาได้เกือบสิบปี ส้มเพิ่งจะมาดัง ทำให้ส้มรู้สึกว่าสิ่งนี้มันถูกต้องมากๆ แล้วกับจังหวะชีวิตของส้มค่ะ เพราะการที่ส้มเคยผิดหวัง เคยล้มลุกคลุกคลานมา พอได้มองย้อนกลับไป ทำให้ส้มรู้สึกว่าความสำเร็จตรงหน้าของส้มมันมีค่ามหาศาล ส้มยินดีกับมันมากๆ ถ้าส้มดังมากๆ ตั้งแต่ปีแรกๆ ที่เข้าวงการ ส้มอาจจะรับกับชื่อเสียงที่เข้ามาไม่ได้เลยก็ได้ แต่การที่ส้มค่อยๆ เดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงวันนี้ได้ ส้มรู้สึกภูมิใจในตัวเองมากจริงๆ นะคะ” รอยยิ้มปิดบทสนทนาของเธอเป็นรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจแต่ไร้ความเย่อหยิ่งแบบที่เราสัมผัสได้จริงๆ

“ตราบใดที่ยังมีคนฟัง ส้มจะทำเพลงไปเรื่อยๆ นะคะ” เธอทิ้งท้ายก่อนจะบอกลากับเรา “การทำเพลงเป็นสิ่งที่ส้มรัก ส้มไม่ได้มองอะไรไปไกลมาก แค่ทำงานตรงหน้าอย่างมีความสุขก็โอเคแล้ว และขอบคุณแฟนคลับทุกคนมากๆ ด้วยค่ะ ถ้าส้มไม่มีแฟนคลับ ส้มก็คงเดินมาไม่ได้ถึงจุดนี้ ขอให้ทุกคนสนับสนุนส้มต่อไปเรื่อยๆ นะคะ อย่างที่ส้มบอกไป ถ้ายังมีคนฟัง ส้มก็จะทำเพลงต่อไป ก็หวังว่าทุกคนจะอยากฟังเพลงของส้มไปเรื่อยๆ นะคะ”

Make-up: Sirima Khongthong

Hair: Kanok-orn Thangchaiyaphum

Assistant Photographers: Supasit Sooksawat / Panpetch Petchphloy / Kachapon Panuditeekun

Videographer: Thaikom Sooktalordcheep

Assistant Videographer: Suradit Laosittipirom

Video Editor: Amree Hayilateh

Digital Content Creator: Ratchawat Eksuwanwattana

- Advertisement -