OPPO กับ Trinity Engine ของ “ColorOS 14OPPO”

Share This Post

- Advertisement -

“ความเร็ว” และ “ความลื่นไหล” เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผุ้ใช้เพลิดเพลินไปกับความคล่องแล้ว อย่างไม่ติดขัด และเต็มประสิทธิภาพที่แท้จริง สิ่งนี้เป็นหลักที่ OPPO พัฒนาอย่างต่อเนื่องในการพัฒนา ColorOS ในช่วงตลอดทศวรรษที่ผ่านมา OPPO ได้ให้ความสนใจกับการตอบสนองที่รวดเร็ว เสถียรมั่นคง ไปจนถึงความหลื่นไหลของ ColorOS แต่ละรุ่น คอยค้นหาการผสมผสานฮาร์ดแวร์ที่ดีที่สุด เพื่อให้เพิ่มประสิทธิภาพของซอฟแวร์ได้ตอบโจทย์และครอบคลุม เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดและลื่นไหลในทุกที่

ความลื่นไหลที่ ‘มองเห็นได้’ และ ‘มองไม่เห็น’

ลื่นไหลขั้นสุดยอดมาพร้อมกับการเปิดตัว UI First ในต้นปี 2020 โดยความสำคัญของแอปพลิเคชันที่ใช้งานอยู่อย่าง UI First จะป้องกันไม่ให้แอปพลิเคชันพื้นหลังใช้ทรัพยากรระบบมากเกินไป ส่งผลให้ประสิทธิภาพโดยรวมลดลง ผลลัพธ์ที่ได้คือการลดความล่าช้าที่เห็นได้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทรัพยากรการประมวลผลมุ่งไปสู่การรองรับแอปพลิเคชันที่ใช้งานอยู่ แอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลังนั้นขาดแคลนทรัพยากร ซึ่งทำให้ถูกหยุดการทำงาน สิ่งนี้ทำให้เกิดความล่าช้าในการสลับระหว่างแอปเหล่านั้น ในขณะเดียวกัน การนำ 5G มาใช้อย่างแพร่หลายได้เพิ่มการบริโภคสื่อข้อมูลสูง โดยเข้าสู่ยุคที่เรียกว่า “สื่อสมบูรณ์” ได้สร้างความกดดันในการประมวลผลเพิ่มเติมให้กับระบบ เพื่อแก้ไขปัญหาความลื่นไหลที่ ‘มองไม่เห็น’ นี้ OPPO จึ่งเริ่มเพิ่มประสิทธิภาพ ColorOS เพื่อการควบคุมอุณหภูมิที่ดีขึ้นและเท่านั้นยังไม่พอ ตลอดไปจนถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่มั่นคง และประสบการณ์ที่ต่อเนื่องและไม่ติดขัดมากขึ้น

ทีมวิศวกรชิปขนาดใหญ่ได้ทำการวิเคราะห์เชิงลึก เกี่ยวกับการกระจายพลังการประมวลผลของแต่ละงานบนหน่วยประมวลผลที่แตกต่างกันบนชิป และทดลองอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะต้องการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีขึ้นโดยไม่ทำให้ความสามารถด้านประสิทธิภาพลดลง แต่ในขณะนี้บน ColorOS 14 รุ่นล่าสุด เทคโนโลยีที่ได้รับการอัปเกรดใน Trinity Engine ของระบบปฏิบัติการ ทำให้โทรศัพท์สามารถเรียกใช้แอปพลิเคชันได้มากถึง 28 แอปพลิเคชันนานสูงสุด 72 ชั่วโมง ColorOS ในปัจจุบันนั้น สามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากฮาร์ดแวร์สมาร์ตโฟนที่กำหนด และมอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเมื่อพูดถึงสถิติแบบดั้งเดิมที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพที่ลื่นไหล เช่น ความเร็วในการเปิดแอป อัตราเฟรมเกม และอื่นๆ

“มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น มีความสม่ำเสมอมากขึ้น”

วิศวกรของ OPPO ยังคงผลักดันขอบเขตของความลื่นไหล และ ColorOS ได้รับการยอมรับเพิ่มมากขึ้นจากหน่วยงานด้านเทคโนโลยีด้วยคะแนนมาตรฐานสูงสุด ทีมงานจึงค่อย ๆ ตระหนักว่าประสิทธิภาพสูงและความเร็วสูงสุดไม่ได้นำไปสู่ความสะดวกสบาย แต่เป็นประสบการณ์การใช้งานที่ “ลื่นไหลยิ่งขึ้น” ในทุกสถานการณ์ Hansheng Hong (Director of Software Technology Planning, OPPO) ได้กล่าวไว้ว่า “ในฐานะนักพัฒนาซอฟต์แวร์ สัญชาตญาณของผมคือทำทุกอย่างให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เรามักจะผลักดันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากมุมมองของตัวเลข ตัวอย่างเช่น เราสามารถเพิ่มความเร็วของแอนิเมชั่นของเราได้เป็นสองเท่า แต่พอผู้ใช้เห็นจริงๆ มันก็ดูเร็วเกินไป สิ่งนี้ทำให้มุมมองของผมเปลี่ยนไปว่าการแข่งขันด้วยข้อมูลอย่างเดียวไม่มีประโยชน์อะไรเลย”

Aquamorphic Effects ใหม่ล่าสุดใน ColorOS 14 แสดงให้เห็นว่าข้อมูลเชิงลึกนี้ถูกนำไปใช้จริงโดยการแสดงภาพเคลื่อนไหวของเอฟเฟกต์เหล่านี้ได้รับการปรับให้เหมาะสมโดยการลดความเร็วจาก 380 มิลลิวินาทีเป็น 750 มิลลิวินาทีที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้มากขึ้น ทุกการโต้ตอบจึงใช้งานง่ายและลื่นไหลยิ่งขึ้น และนี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของวิธีที่ OPPO นำการวิเคราะห์ปัจจัยมนุษย์มาใช้ในการออกแบบระบบปฏิบัติการ นี่เป็นสาขาวิชาที่เชี่ยวชาญด้านการศึกษาปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์กับเครื่องจักรและสภาพแวดล้อม เพื่อทำให้เครื่องจักรหรือระบบสามารถปรับตัวให้เข้ากับลักษณะทางสรีรวิทยาและจิตวิทยาของมนุษย์ได้มากขึ้น จากการวิเคราะห์ปัจจัยมนุษย์ Hong ได้เรียนรู้ว่าดวงตาของมนุษย์สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงได้ในช่วงเวลาประมาณ 100-150 มิลลิวินาทีหรือมากกว่าเท่านั้น หากการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในเวลาน้อยกว่า 100 มิลลิวินาที คนส่วนใหญ่ไม่สามารถบอกความแตกต่างได้ ซึ่งหมายความว่า แม้ว่าฮาร์ดแวร์จะสามารถทำได้ แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องออกแบบเวลาตอบสนองของระบบให้ต่ำถึง 50 มิลลิวินาที

 ‘อคติเชิงลบ‘ Hong ค้นพบว่าซึ่งผู้คนมักจะจดจำเฉพาะด้านลบ แม้ว่าประสบการณ์โดยรวมจะเป็นบวกก็ตาม ตัวอย่างเช่น หากคุณพบกับความล่าช้าเพียงครั้งเดียวในทุกๆ ร้อยครั้งที่คุณเริ่มแอปพลิเคชัน คุณยังคงมีแนวโน้มที่จะจดจำรับรู้ถึงประสบการณ์โดยรวมว่าเป็นเชิงลบในโดยรวม ความหมายของสิ่งนี้ก็คือความเสถียรและความสม่ำเสมอ แทนที่จะเป็นการระเบิดความเร็วเป็นครั้งคราว ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าประสบการณ์ผู้ใช้จะลื่นไหลเพียงใด

เพื่อมอบประสบการณ์ที่ลื่นไหลตลอดอายุการใช้งานของอุปกรณ์มือถือของเรา OPPO ได้แนะนำการวิเคราะห์ปัจจัยมนุษย์ในแง่มุมต่างๆ ของ ColorOS อีกด้วย หนึ่งในการตัดสินใจที่เกิดขึ้นคือการตั้งค่าความเร็วในการตอบสนองของการเปิดตัวแอปพลิเคชันเป็น 135 มิลลิวินาที ที่ผ่านการทดสอบซ้ำหลายล้านครั้ง เรายังระบุและแก้ไขปัญหาความสอดคล้องที่มีโอกาสต่ำมากในด้านต่างๆ เช่น การตอบสนองจากการสัมผัส การทำงานพร้อมกันของซอฟต์แวร์ ความล่าช้าในการแสดงผล และอื่นๆ ผลลัพธ์ที่ได้คือเวลาตอบสนองที่สม่ำเสมอในช่วง 100-150 มิลลิวินาทีสำหรับทุกแง่มุมของ UI โดยไม่มีความผันผวนที่รับรู้ได้

เปิดรับความเป็นไปได้ของเนื้อหาที่สร้างโดย AI 

เมื่อมองถึงอนาคต สมาร์ตโฟนและระบบปฏิบัติการ ทีมงาน ColorOS รู้ดีว่าเนื้อหาที่สร้างโดย AI มีส่วนทำให้ความต้องการทรัพยากรระบบมือถือสูง ตั้งแต่หน่วยความจำและความสามารถในการประมวลผล และเพื่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ ขณะนี้ OPPO กำลังสำรวจและทดลองความสามารถที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น วิธีเพิ่มประสิทธิภาพการใช้หน่วยความจำและเทคนิคการจัดการพลังงานเพื่อรับมือกับความต้องการที่สูงดังกล่าว 

Trinity Engine ของ ColorOS 14 นั้นเป็นตัวอย่างที่ดีของแนวทางการคิดล่วงหน้า ด้วยวิธีแก้ปัญหาขั้นสูง เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพความราบรื่นและความเสถียรของระบบผ่านการจัดการและการกำหนดเวลาทรัพยากรการประมวลผล หน่วยความจำ และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียดในระดับคำสั่งไมโครสถาปัตยกรรม

Trinity Engine ที่ได้รับการอัปเกรดประกอบด้วยเทคโนโลยีหลักสามอย่าง: ROM Vitalization, RAM Vitalization และ CPU Vitalization ROM Vitalization ที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่หน่วยความจำมากขึ้นโดยการบีบอัดข้อมูลแอปและรวมไฟล์ที่ซ้ำกันเข้าด้วยกัน เพื่อแก้ไขปัญหาประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลงซึ่งเกิดจากการที่หน่วยความจำเต็มในระยะยาว RAM Vitalization ทำงานโดยการสร้างกลไก RAM พื้นฐานของ Android ขึ้นมาใหม่ และใช้เทคนิคพิเศษเพื่อเร่งความเร็วในการเปิดแอป และพัฒนาระดับความลื่นไหลเมื่อสลับระหว่างแอป สุดท้ายนี้ CPU Vitalization ใช้โมเดลพลังงานการประมวลผลที่ซับซ้อนซึ่งสามารถกำหนดเวลาทรัพยากรพลังงานได้อย่างแม่นยำ ในขณะเดียวกันก็กำหนดสมดุลที่ดีที่สุดระหว่างประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน

การทำงานร่วมกันระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ColorOS 14 มอบประสบการณ์ที่ลื่นไหลให้กับผู้ใช้ในทุกสถานการณ์ ยังรับประกันอีกว่าจะคงความลื่นไหลได้นานถึง 48 เดือน จากข้อมูลเชิงลึกของผู้ใช้ ColorOS ที่ใช้งานมากกว่า 600 ล้านคนต่อเดือน OPPO ยังคงแสดงออกถึงความเป็นเอกลักษณ์ในการสร้างตัวตนของผู้ใช้ทั่วโลกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพประสบการณ์ที่ลื่นไหลและเสถียรบนอุปกรณ์ OPPO อีกด้วย

- Advertisement -