Photographer: Wasu Sukatocharoenkul
Author: Neeraj Kim
กราฟของวงการฮิปฮอปยังคงพุ่งทะยานไม่มีวันตก ยิ่งช่วงที่เพลงสไตล์ T-pop กำลังมาแรงในเมืองไทย ยิ่งทำให้แรปเปอร์หน้าใหม่ทดลองผูกความเป็นฮิปฮอปเข้ากับแนวอื่นๆ ที่พวกเขาอยากลอง จากที่เคยรู้ว่า กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ เป็นแรปเปอร์ชาวเหนือที่ประสบความสำเร็จในวงการดนตรีมาก วันนี้เขานั่งแท่นเป็นผู้บริหารค่าย High Cloud Entertainment และปั้นสองนักร้องหน้าใหม่ออกสู่ตลาดในชื่อวง Northy ซึ่งประกอบด้วย NEWBLOOD (มาร์ค – ธันวา โอปนายิกุล) แรปเปอร์สายเดือด เน้นจังหวะแบบดุดัน และ RAMASOUN (เอิร์ธ – ภาณุพงศ์ อะตะมะ) แรปเปอร์สายร้อง ผู้เชี่ยวชาญในการแต่งเนื้อเพลง
ลอฟฟีเซียล ออมส์ ชวนทั้งมาร์คและเอิร์ธมานั่งคุยถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งหมดในตอนนี้
กดดันไหมที่วันนี้ได้มาเป็นศิลปินแล้ว
มาร์ค: ก็ประมาณหนึ่งครับ เพราะซิงเกิ้ลนี้เป็นความร่วมมือของคนทั้งค่ายที่พยายามดันเราออกมา ฉะนั้นความกดดันในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการกลัวความล้มเหลว แต่อยากทำมันออกมาให้ดีที่สุด
เอิร์ธ: มันคือความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของผมและค่าย จากโปรเจ็คท์ก่อนหน้านี้ที่ทำกันมากับเพื่อนหลายคน ตอนนี้เหลือกันแค่สองคน ก็แอบคาดหวังล่ะครับ ยอมรับตามตรง
ซึ่งทั้งคู่มีจุดเริ่มต้นจากการประกวดเหมือนกัน เป็นยังไงบ้างกว่าจะมาถึงวันนี้
เอิร์ธ: ผมเป็นคนชอบดนตรีมาตั้งแต่เด็กๆ เคยเป็นนักร้องนำวงสมัยเป็นนักเรียน พอมีรายการ Rap Is Now มา ก็สนใจว่ามันมีการแข่งขันของดนตรีแขนงนี้ด้วย แล้วก็ได้เริ่มแต่งเพลง จากนั้นก็ไปแข่งในรายการ เข้ารอบไป จนมีรายการ The Rapper 2 ก็ลองส่งไปดู แล้วก็ผ่าน ผมพูดได้เลยว่าชอบร้องมากกว่าแรป แต่แค่รายการแรปอาจจะเป็นหนทางที่ทำให้เรามาอยู่ในวงการนี้ได้ ลองทำดู จนมาถึงวันนี้
มาร์ค: ผมเคยลงแข่ง Rap Is Now ได้เข้ารอบแรก แต่ก็ไม่ผ่านรอบต่อไปเพราะตื่นเต้นมาก ตอนติด 32 คนของภาคเหนือ ก็งงๆ อยู่เหมือนกัน จากนั้นก็มีโอกาสได้ไปลงแข่งรายการเล็กๆ แนว rap battle ใหญ่หน่อยก็เป็น Thai Rap TV ก็ตกรอบ ปีต่อมาก็ลงแข่ง Rap Is Now ซีซั่น 4 แต่ก็สละสิทธิ์ไปเพราะมีปัญหากับที่บ้าน เพราะแอบไปทำเพลงส่ง The Rapper ซีซั่น 2 ผมเลยคุยกับแม่จริงจังว่าอยากไปรายการนี้นะ จริงจังเลย น่าจะสร้างอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ให้กับรายการนี้ แม่ก็ให้ไป แล้วก็เข้าไปรอบออดิชั่นจนได้อยู่ทีมพี่กอล์ฟ จากนั้นก็ได้ติดต่อกับพี่กอล์ฟมาตลอด จนได้ไปแข่ง Rap Is Now อีกรอบนึง มันคาใจ เพราะตั้งแต่แข่งรายการนี้มาไม่เคยพ้นรอบออดิชั่นเลย สุดท้ายก็ได้รองแชมป์ เลยหายคาใจ (หัวเราะ)
แปลว่าทั้งสองคนรู้มาตั้งนานแล้วว่านี่ล่ะคือเส้นทางของตัวเอง
เอิร์ธ: การเป็นศิลปินเป็นความฝันเดียวที่ผมวางไว้ ผมฝันตั้งแต่ ป.2 เพราะตอน ป.1 อยากเป็นนักบินอวกาศ แต่แม่บอกว่าถ้าเป็นนักบินอวกาศจะต้องไปนอกโลกนาน ผมเป็นคนรักครอบครัว ติดบ้านมาก เลยล้มเลิกความฝันนั้น แล้วก็กลับมาทบทวนว่าตัวเองอยากเป็นอะไร เลยรู้ว่าอยากเป็นนักร้อง โชว์ให้คนได้ดู ตั้งแต่ตอนนั้นถึงตอนนี้ก็ยังเป็นความฝันนั้นอยู่
มาร์ค: ผมว่าตัวเองเป็นคนมีเซนส์ในเรื่องของการแรปเพราะฟังมาตั้งแต่เด็กๆ จำได้ว่าเคยนั่งรถอยู่กับแม่แล้ววิทยุเปิดเพลง ‘ราตรีสวัสดิ์’ ของกอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ ขึ้นมา ฟังแล้วทัชใจมาก รู้สึกว่ามันเจ๋งดี เหมือนฟังคนเล่าเรื่องจนเห็นภาพ เลยสนใจเพลงฮิปฮอปมาตั้งแต่ตอนนั้น แต่ไม่ได้คิดจริงจังว่าตัวเองชอบหรือเปล่า พอมีรายการ Rap Is Now ก็เลยหันไปมองมันลึกๆ แล้วพบว่าชอบ ฟังเยอะมาก ตอนลงแข่งแล้วเข้ารอบ ก็เลยรู้สึกว่าผมก็น่าจะมีความสามารถประมาณหนึ่ง
กับเพลง ‘คบไม่ได้’ ที่เพิ่งปล่อยออกมานี่ล่ะ
เอิร์ธ: เราเริ่มจากการแต่งเมโลดี้ก่อนครับ พอได้ที่ถูกใจแล้วผมขอลองไปแต่งเนื้อดู ซึ่งตอนนั้นมีหลายเรื่องมากที่อยากเล่า ก่อนหน้าที่ผมเคยแต่งเกี่ยวกับความรักใสๆ แต่ตอนนี้เราโตแล้ว อยากให้เพลงมันดูโตขึ้นมาตามวัยของเรา เลยเล่าเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายที่โดนทิ้ง แต่แฟนเก่าดันมาทัก ทั้งๆ ที่กำลังจะมูฟออนได้แล้ว ให้มันเชื่อมโยงกับโซเชียลมีเดียด้วย ให้รู้สึกว่าเราชนะ เพราะสุดท้ายเธอก็กลับมา แต่เราไม่เอาเธอแล้ว