Thanks for Not Giving Up

Share This Post

- Advertisement -

‘ขอบคุณที่ไม่ยอมแพ้’ คำเดียวที่ Kikuo Ibe เจ้าของสมญา The Father of G-SHOCK ในวันนี้ อยากจะบอกกับตัวเองในวันนั้น

Author: Pacharee Klinchoo

Photography: Courtesy of Casio

ค.ศ. 1983 คือปีที่นาฬิกา G-SHOCK จากแบรนด์ Casio โมเด็ลแรกปรากฏสู่สายตาชาวโลก Kikuo Ibe ผู้ให้กำเนิดนาฬิกาโมเด็ลนี้ในวันนั้นก็ไม่ได้คิดหรอกว่าตัวเองได้ปล่อยนาฬิกาข้อมือที่มีความสามารถในการเปลี่ยนโลกแห่งเรือนเวลาไปได้ขนาดนี้ ลอฟฟีเซียล ออมส์ ไทยแลนด์ ชวนเขาลงนั่งคุยถึงเรื่องนาฬิกา ความหลังวัยเยาว์ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโยดา และนาฬิกาอีกนิดหน่อย

ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่คุณคิดคอนเซ็ปต์นาฬิกา G-SHOCK ขึ้นมา คุณเคยคิดไหมว่าไอเดียตอนนั้นของคุณจะกลายเป็นผลงานไอคอนิกของโลกนาฬิกาขนาดนี้

ไม่เคยคิดเลยครับว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ผมต้องขอบคุณทุกคนมากๆ เลยนะครับที่ทำให้ผมยืนระยะมาได้ เพราะการสนับสนุนจากสื่อมวลชนและแฟนๆ ที่ชื่นชอบในตัวนาฬิกาเลยครับที่ทำให้แบรนด์อยู่มาได้นานขนาดนี้

ตอนที่คุณคิดระบบ shock resistance ขึ้นมา คุณคิดอะไรอยู่

จุดเริ่มจริงๆ เกิดขึ้นตอนที่ผมเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายนะครับ คุณพ่อของผมซื้อนาฬิกาข้อมือให้ผม และผมทำตกแตกแบบพังเป็นชิ้นๆ เลย ผมเลยคิดอยากจะทำนาฬิกาที่ตกแล้วไม่พังขึ้นมาให้ได้ นั่นคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่างเลยครับ

ได้ยินมาว่าคุณทำ prototype ออกมาตั้ง 200 กว่าโมเด็ลเลยกว่าจะได้เป็น G-SHOCK รุ่นแรก ตอนนั้น Casio มีปฏิกิริยาอย่างไร อยากให้คุณไปต่อ หรือบอกให้คุณล้มเลิกความคิดเสีย

บริษัทก็ไม่เคยบอกให้ล้มเลิกนะครับ แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ก็ไม่ง่ายจริงๆ ครับ

ส่วนตัวคุณคิดว่า G-SHOCK ปฏิวัติวงการนาฬิกาและไลฟ์สไตล์ของผู้คนได้อย่างไรบ้าง

ตอนที่นาฬิกาข้อมือมีฟังก์ชั่นแค่ต้องเดินให้เที่ยงตรงเท่านั้น ทุกคนจะดูแลนาฬิกาอย่างดี ไม่ให้ตกหล่น เป็นรอย ผมคิดว่า G-SHOCK มาเปลี่ยนการรับรู้ตรงนั้นไปเลยครับ นาฬิกาข้อมือสามารถใช้งานได้โดยไม่จำเป็นต้องระมัดระวังมากมายอีกต่อไปครับ

ครบรอบ 40 ปี G-SHOCK มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนามามากมาย แต่มีรุ่นไหนที่มีความหมายพิเศษสำหรับคุณบ้างไหม

รุ่นที่ผมรักที่สุดคือซีรีส์ 5600 ที่ผมใส่มาวันนี้นี่ล่ะครับ เพราะหน้าตามันเหมือนรุ่นแรกที่ผมคิดขึ้นมาเลย ผมรักเรือนนี้มากจริงๆ

คุณอยู่กับ G-SHOCK มาตั้งแต่แรก และอยู่กับ Casio Computer มาตั้งแต่ค.ศ. 1976 เลย อะไรทำให้คุณทำงานที่นี่มาได้ยาวนานขนาดนี้

ตอนที่ผมเรียนจบใหม่ๆ เป็นช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นถดถอยสุดๆ เลยครับ ผมยอมรับตรงๆ เลยว่าผมไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับผม มีที่นี่ล่ะครับที่รับผมเข้าทำงาน ผมพูดได้เลยว่าบริษัทนี้ช่วยชีวิตผมเอาไว้ ผมจึงรักและผูกพันกับที่นี่จนอยู่นานเกินไปหน่อยแล้วครับ (หัวเราะ)

ตอนนี้คุณทำหน้าที่เป็นกึ่งๆ mentor ให้กับวิศวกรรุ่นใหม่ๆ ในบริษัท คุณคาดหวังอะไรกับพวกเขา

สิ่งสำคัญที่ผมอยากจะบอกกับเด็กรุ่นใหม่ก็คือ ‘อย่ายอมแพ้เด็ดขาด’ เพราะทุกคนต้องเจอกำแพงที่สูงมากๆ อยู่แล้ว ถ้าคุณอยากจะก้าวไปอีก คุณต้องผ่านกำแพงตรงหน้าไปให้ได้ ซึ่งนอกจากผมจะบอกกับเด็กรุ่นใหม่แล้ว นั่นก็เป็นสิ่งที่ผมบอกตัวเองอยู่ทุกวันเลยครับ ส่วนตัวผมเองก็ค่อนข้างเปราะบางเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เพราะผมมีความคิดที่จะล้มเลิกอะไรหลายๆ อย่างอยู่ตลอดเวลาเหมือนกันครับ

เห็นคุณทำแคมเปญ Dear Younger Me ขึ้นมา ถ้าย้อนเวลากลับไปเจอตัวเองในอดีตได้จริงๆ คุณอยากจะเปลี่ยนแปลงอะไร หรืออยากตัดสินใจอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมไหม

ถ้ากลับไปได้จริงๆ ผมคงพูดได้แค่ว่า ‘อย่ายอมแพ้นะ ทำต่อไปเรื่อยๆ นะ’ เท่านั้นเองครับ

จากนาฬิกาสีดำเรือนแรกเรือนนั้น จนพัฒนาออกมาได้หลายเวอร์ชั่นมากมายในวันนี้ คุณรู้สึกอย่างไรกับมัน

สุดยอดเลยครับ กว่าที่ G-SHOCK จะเดินทางมาถึงจุดนี้ได้ก็มีทีมงานหลังบ้านเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะมากเลยครับ จากเรือนแรกมาจนถึงปัจจุบัน เราได้รับความช่วยเหลือจากหลายภาคส่วนมากจริงๆ ผมทั้งตกใจ ประหลาดใจ และดีใจมากๆ เลยครับว่าเราเดินทางกันมาถึงจุดนี้ได้แล้วจริงๆ

รู้กันทั่วไปว่า กว่านาฬิกา G-SHOCK แต่ละเรือนจะถูกปล่อยออกมาได้ มันต้องผ่านการทดสอบแบบโหดมากๆ อยากรู้ว่าการโยนนาฬิกาลงมาจากตึกนี่เป็นบททดสอบที่คิดโดยใคร

ช่วงที่ผมพัฒนานาฬิกา G-SHOCK มันไม่มีอุปกรณ์ทดสอบอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนี่ล่ะครับ เพราะฉะนั้นการทดสอบที่ง่ายที่สุดก็คือโยนลงมาจากตึกออฟฟิศนี่ล่ะครับ ความสูงราวๆ 10 เมตร อ้อ… ผมโยนลงมาจากห้องน้ำของบริษัทนะครับ

คือคุณโยนลงมาระหว่างทำธุระส่วนตัว แบบนี้เหรอ

ตอนที่ผมทำโปรเจ็กต์นี้ โจทย์ของบริษัทคือ ‘ต้องทำนาฬิกาดิจิตอลให้บางและเล็กลงให้ได้มากที่สุด’ แต่การทำนาฬิกาให้แข็งแรงทนทานมันต้องทำให้เรือนใหญ่และหนาขึ้นเท่านั้น ดังนั้น การพัฒนานาฬิการุ่นนี้มันก็คือสวนทางกับนโยบายบริษัท ผมเลยต้องแอบไปทดสอบในห้องน้ำ ไม่ให้คนอื่นรู้ไงครับ คือผมว่านะ คนที่ไม่รู้ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ในตอนนั้นนี่ต้องคิดว่าผมท้องเสียบ่อยมากแน่ๆ เลยครับ (หัวเราะ)

ช่วยพูดถึงนาฬิการุ่นใหม่ที่ทำจากคาร์บอนหน่อย

ข้อดีของวัสดุคาร์บอนคือเบา แต่แข็งแรงและคงทนมากเมื่อเทียบกับวัสดุอื่นๆ ในปัจจุบันเรามีวัสดุหลักอยู่สามชนิดคือพลาสติก โลหะ และคาร์บอน ซึ่งคาร์บอนเป็นวัสดุรุ่นล่าสุดที่เราเพิ่งนำเข้ามาใช้

คาร์บอนเป็นวัสดุที่โดดเด่นกว่าวัสดุอื่นๆ มาก คือถ้าพูดเรื่องความแข็งแรง โลหะคงมาเป็นที่หนึ่ง แต่ข้อเสียคือน้ำหนักก็มากตามไปด้วย พลาสติกอาจจะเป็นวัสดุที่น้ำหนักเบาที่สุด แต่ความทนทานก็จะน้อยลงไปตามสภาพของมัน ดังนั้น คาร์บอนจะมาตอบโจทย์ช่องโหว่ตรงนั้นได้พอดี เพราะมันทั้งเบาและแข็งแรงครับ ซึ่งถ้าพูดถึงวงการนาฬิกา คาร์บอนอาจจะเป็นวัสดุที่ใหม่มากๆ แต่เอาจริงๆ คาร์บอนเป็นวัสดุที่ถูกใช้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมการบินมานานแล้วนะครับ

และสำหรับแนวโน้มวัสดุที่เราจะใช้ในอนาคตนั้น เราต้องดูผลตอบรับของนาฬิกาที่ทำจากคาร์บอนก่อน ถ้าผลตอบรับเป็นไปในทิศทางบวก แน่นอนว่าเราจะผลิตนาฬิกาวัสดุคาร์บอนออกมาเรื่อยๆ อย่างแน่นอนครับ ซึ่งตอนนี้ ผลตอบรับในทวีปอเมริกาถือว่าดีมากเลยครับ

นาฬิการุ่น Dream Project คืออะไร ขยายความหน่อย

Dream Project เป็นนาฬิกาที่มีเรือนเดียวในโลกครับ ทำจากทองคำ 18K ความพิเศษคือนาฬิกาเรือนนี้ใช้ AI เข้ามาช่วยออกแบบในส่วนที่มนุษย์ไม่สามารถออกแบบได้ครับ เป็นผลงานการออกแบบร่วมกันระหว่าง AI และมนุษย์เป็นครั้งแรก ซึ่งโปรเจ็กต์นี้สำเร็จได้เพราะตลอด 40 ปีที่ผ่านมา Casio ได้มีการเก็บข้อมูลเรื่องการผลิตนาฬิกาอย่างแข็งแกร่งมาตลอด เมื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาป้อนให้ AI มันจึงสามารถร่วมมือกับวิศวกรออกแบบนาฬิกาเรือนนี้ออกมาได้สำเร็จครับ ดังนั้น ถ้าแบรนด์อื่นไม่มีข้อมูลพื้นฐานการผลิตและออกแบบนาฬิกาที่แข็งแรงพอ รับรองเลยว่าไม่สามารถทำตามได้แน่นอนครับ

FACT: นาฬิกา G-SHOCK รุ่น G-D001 จบการประมูลในงาน The New York Watch Auction: NINE โดย Phillips ไปที่ราคารวมมูลค่า 400,050 ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับคุณในฐานะ The Father of G-SHOCK เวลามีความหมายอย่างไรสำหรับคุณ และคุณใช้เวลาว่างไปกับอะไร

สำหรับคำถามแรก ผมคิดว่าเวลาคือสิ่งที่ทุกคนมีเท่ากันหมด เที่ยงตรงเท่ากัน เหมือนกันหมด ดังนั้น เวลาจึงมีความสำคัญสำหรับผมมากๆ และผมค่อนข้างใส่ใจกับเวลาเป็นพิเศษ ส่วนเวลาว่างของผมในตอนนี้ ผมใช้ไปกับการปลูกผักครับ เวลาต้องเดินทางไปต่างประเทศนานๆ แบบนี้ ผมเป็นห่วงมากเลยนะครับว่าผักของผมจะเป็นอย่างไรบ้าง และเวลาไม่อยู่บ้านนานๆ กลับไปเจอวัชพืชขึ้นเต็มไปหมด ต้องนั่งถอนนานเลย นี่เป็นงานอดิเรกของผมเลยนะ ถ้าคุณมีวิธีใช้เวลาให้เกิดประโยชน์มากกว่านี้ คุณบอกผมได้นะ

เราเชื่อว่าเวลาที่มีความสุขไม่ใช่เวลาที่เสียเปล่าหรอก

ถ้าอย่างนั้น ผมบอกได้เลยว่าตอนนี้ก็ถือว่าเป็นเวลาที่มีความสุขสำหรับผมนะครับ เป็นคำแนะนำที่ดีมากจริงๆ ขอบคุณมากเลยครับ

คุณเคยรู้สึก burned out ไม่อยากทำงานต่อบ้างไหม ถ้าเคย คุณจัดการตัวเองอย่างไรให้ไปต่อได้

ผมเป็นคนที่คิดอยากเลิก อยากหนีปัญหาอยู่แล้วครับ แต่พอเกิดความคิดนั้นขึ้นมา ผมก็จะคิดว่าลองกลับมาสู้ใหม่อีกสักครั้งเถอะ และพอเกิดความคิดเดิม ก็เอาใหม่ สู้ใหม่ วนแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนงานสำเร็จไปเองน่ะครับ

และเวลาทำงาน ผมจะหาความสนุกในงานของผมโดยการลองทำอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา อย่างเช่นลองคิดดูว่าถ้าผมจะทำนาฬิกา G-SHOCK จากกระจกทั้งเรือน จะเป็นไปได้แค่ไหน เพราะกระจกมันแตกได้ ซึ่งสวนทางกับความคงทนของ G-SHOCK อะไรแบบนี้ครับ หรืออย่างในประเทศญี่ปุ่น รอยสักอาจจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมหรือได้รับการยอมรับมากใช่ไหมครับ ถ้าเกิดว่าทำนาฬิกาที่ใส่แล้วเหมือนมีรอยสักรอบข้อมือได้ จะเป็นยังไงกันนะ ลองหามุมใหม่ๆ ในงานเดิมๆ เพื่อจะได้สนุกกับการทำงานได้ตลอดเวลาครับ

อย่างตอนที่คุยกับคุณอยู่นี่ ผมก็มีไอเดียขึ้นมาว่า ถ้าผมมีเพื่อนเป็นมนุษย์ต่างดาว และผมจะต้องทำนาฬิกา G-SHOCK ให้เขาเอากลับไปใช้ที่บ้านเกิดเขาได้ ผมต้องทำยังไงนะ นี่ก็สนุกแล้วครับ ซึ่งโปรเจ็กต์นี้อาจจะทำไม่ได้ในช่วงชีวิตผม แต่อาจจะเป็นจริงได้หลังผมตายแล้วก็ได้นะ

คุณชอบตัวละครโยดาจาก Star Wars ใช่ไหมนะ

จริงๆ แล้วผมไม่ได้ชอบ Star Wars เลยนะ แต่ตอนที่ผมทำโปรเจ็กต์ G-SHOCK น่ะ ผมรู้สึกเหมือนโดนดูดพลังไปจนหมด จนกลายร่างเป็นโยดาน่ะครับ ผมเลยพูดออกไปว่าผมรู้สึกว่าตัวเองเหมือนโยดา แต่สื่อเข้าใจผิด ไปเขียนว่าผมชอบโยดา เลยกลายเป็นว่าผมชอบ Star Wars ไปเลย แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยครับ (หัวเราะ)

คำถามสุดท้ายแล้ว ใครเป็นคนตั้งชื่อรุ่น G-SHOCK

ดีไซเนอร์คนหนึ่งในทีมที่ทำโปรเจ็กต์ตอนแรกได้ไอเดียตอนที่เราโยนนาฬิกาลงมาจากตึกครับ เขาบอกว่ามันเหมือนกับภาพตอนที่เซอร์ไอแซ็ค นิวตั้น เห็นแอปเปิ้ลหล่นลงมาจากต้นและคิดทฤษฎีแรงโน้มถ่วงขึ้นมาได้ (Newton’s law of universal GRAVITATION) เขาเลยเสนอชื่อนี้มาครับ

แต่ตอนนั้น ผมมัวแต่เครียดว่าจะออกแบบนาฬิกายังไงให้ทนทานอยู่ ตอนที่เขาเสนอชื่อมา ผมก็ทำหูทวนลม เออออให้จบๆ ไป ผมเลยรู้สึกผิดกับเขามาจนถึงวันนี้เลยครับ คือเขารู้ตัวนะว่าเขาเป็นคนตั้งชื่อนี้ขึ้นมา แต่ตอนนี้เขาไม่ได้ทำงานอยู่ที่ Casio Computer อีกแล้วน่ะครับ

- Advertisement -