มาดูซีรีส์ข้ามปีที่ห้องเรามั้ย? มาดูลิสต์ซีรีส์ที่เราว่าเหมาะกับการดูข้ามปีเป็นที่สุดกัน

Share This Post

- Advertisement -

Author: Pacharee Klinchoo

เบื่อคืนข้ามปีอันแสนอึกทึกวุ่นวายกันบ้างไหม บางทีการได้ใช้ค่ำคืนไปกับคนรู้ใจ นอนดูซีรีส์ หยิบป็อปคอร์นกินเล่นอาจจะเป็นการฉลองข้ามปีสุดพิเศษที่ลืมไม่ลงก็เป็นได้ มาดูกันว่าสิ้นปีนี้เราเลือกดูอะไรแทนการสวดมนต์ข้ามปี 

All The Light We Cannot See

ซีรีส์ดัดแปลงจากนวนิยายขายดีชื่อเดียวกันของ Anthony Doerr เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองของเด็กสาวหูหนวกชาวฝรั่งเศสและทหารหนุ่มชาวเยอรมันในเมืองแซงต์มาโล ซึ่ง Aria Mia Loberti ผู้รับบทนำเป็นเป็นหญิงสาวหูหนวกในชีวิตจริง ส่วนดารานำชายก็ได้แก่ Louis Hofmann นักแสดงนำจากซีรีส์เรื่อง DARK นั่นเอง 

The Fall of the House of Usher

‘อแดปเตชั่นที่โปคู่ควร‘ คือนิยามเดียวที่เราจะมอบมงให้กับซีรีส์จากฝีมือของ Mike Flanagan นี้ ถ้าคุณประทับใจ The Haunting of Hill House และ Midnight Mass มาแล้ว บอกเลยว่าเรื่องนี้ทำให้คุณดูข้ามคืนได้ฟินยิ่งกว่า 

Pluto 

แอนิเมะดัดแปลงจากมังงะชื่อเดียวกันของนาโอกิ อุระซะวะ ผู้โด่งดังจาก 20th Century Boy และ Monster (เรื่องนี้ก็มีแอนิเมะใน Netflix เหมือนกันนะ) ว่าด้วยเรื่องสงครามระหว่างมนุษย์และ AI ที่จะชวนคุณตั้งคำถามว่า ตกลงใครกันแน่ที่เป็นภัยคุกคามมากกว่ากัน 

Analog Squad

ออริจินัลซีรีส์จากประเทศไทยของ Netflix ไม่กี่เรื่องที่เราเชียร์สุดตัว อาจจะไม่ใช่ซีรีส์ที่ดีที่สุด แต่เรารู้สึกผูกพันกับตัวละครจนเราอยากให้สร้างซีซั่นสองอย่างเร็ว 

อ่านบทรีวิวของเราประกอบการตัดสินใจได้ที่นี่

The Man in The High Castle

ซีรีส์เรื่องนี้เอาไอเดียตั้งต้นมาจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ Philip K. Dick ที่จินตนาการถึงโลกคู่ขนานหากฝ่ายอักษะ (ประเทศเยอรมันที่นำโดยพรรคนาซี และประเทศพันธมิตร) ชนะสงครามโลกครั้งที่สอง นี่ไม่ใช่ซีรีส์สร้างใหม่ แต่เราอยากให้แมส เพราะนอกจากภาพจะสวยเวอร์แล้ว เนื้อหายังจิกกัดโลกปัจจุบันที่จริงๆ แล้วต่างจากโลกดิสโทเปียใบนั้นตรงไหนกันนะ 

Carnival Row

ใครคิดถึงออร์แลนโด้ บลูม และคาร่า เดเลวีนจ์ พุ่งตัวไปที่ซีรีส์สารพัด genre เรื่องนี้ ที่รวบรวมทั้งสืบสวนสอบสวน แฟรี่เทล พีเรียด ดาร์คแฟนตาซี และโรแมนติกเอาไว้เข้าด้วยกัน ซีซั่นนี้จบสนิทแล้ว เอาจริงแค่ดูสองดารานำ และฉากสุดอลังการก็คุ้มแล้ว เนื้อเรื่องถือเป็นของแถม 

The Continental

เชื่อว่าไม่มีใครจำโรงแรม The Continental pที่ต้อนรับนักฆ่าจากทั่วโลกในจักรวาล John Wick ไม่ได้ ซีรีส์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของโรงแรมและผู้คนในนั้นก่อนมิสเตอร์วิคจะเกิด หลายคนบอกว่ามันไม่มีอะไรใหม่ แต่สำหรับเรา นี่คือหนึ่งในเรื่อง prequel ที่เราว่าดีที่สุด และเราเชียร์ให้คุณเช็คอินที่นี่ตามเรามาได้เลย

American Gods

ไม่ต้องบอกเลยว่าแฟนตัวยง Neil Gaiman อย่างเราดีใจเนื้อเต้นแค่ไหนที่เราไม่ต้องหาช่องทางธรรมชาติเพื่อดูซีรีส์เรื่องนี้แล้ว บอกเลยว่าเราเชียร์เพราะงานภาพล่ะหนึ่ง แต่เนื้อหาที่ปรากฏในเรื่องนี้โคตรจะเสียดสีสังคมเรื่องความเชื่อและศาสนาแบบสุดๆ และขอบอกว่า ถ้าคุณหมกมุ่นมากพอ คุณจะได้เปิดกะลาเรื่องความเชื่อทุกสิ่งอย่างจากทั่วโลกอีกด้วย เปิดเลย เชื่อเถอะ

 Death’s Game

เรื่องราวของชายหนุ่มชีวิตบัดซบที่พยายามฆ่าตัวตาย แต่เฟล และต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในร่างคนอื่นอีก 12 ร่าง และยับยั้งชะตากรรมที่เกิดขึ้นกับพวกเขา และยมทูตสาวปากแจ๋วที่ชวนคุณตั้งคำถามถึงระบบระเบียบความเชื่อ การปกครอง และกฎหมายต่างๆ ของประเทศเกาหลี สตรีมตอนนี้ รอดูพาร์ทสองในวันที่ 5 มกราคมพอดี

 The Last of Us

อีกหนึ่งซีรีส์ที่ดัดแปลงจากเกมชื่อเดียวกันที่เราถึงขั้นคารวะมือเขียนบทที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวของโลกแห่งหายนะที่เหล่าเกมเมอร์รู้กันหมดไส้หมดพุงแล้วออกมาให้ได้เหวอกันตลอดจนจบ ที่สำคัญ เนื้อหายังเข้ากับยุคสมัยแบบไม่ woke จนยัดเยียดเหมือนที่บางค่ายกำลังพยายามทำอยู่อีกด้วย

House of The Dragon

ซีซั่นสองกำลังจะมาแล้ว ใครมัวแต่ลีลายังไม่ได้ดูซีซั่นหนึ่ง มาดูบทกำเนิดแม่มังกรข้ามคืนพร้อมต่อซีซั่นหน้ากันได้แล้ว 

Gotham Knights

รีวิวเสียงแตกจากติ่งมาตั้งแต่เป็นเกมส์ชื่อเดียวกันแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของเด็กกำพร้าใต้อาณัติของบรูซ เวย์น หลังจากที่แบทแมนถูกยิงตาย และเมืองกอทแธมที่เอาแต่หวังพึ่งศาลเตี้ยอย่างเขา ซึ่งหลายคนทำใจไม่ได้ที่แบทแมนจะมาตายแบบนี้ ส่วนเรา… เรารู้สึกดีที่ชาวกอทแธมเมี่ยนหัดใช้ชีวิตแบบเลิกหวัง deus ex machina เสียที

Six Feet Under

ไม่ใช่ซีรีส์ใหม่ แต่บอกเลยว่าไม่ตกยุค ยิ่งสำหรับเราที่ได้กลับมาดูอีกครั้งในช่วงอายุที่แตกต่าง ทำให้รู้เลยว่าเรื่องราวใต้ผืนดินลึกหกฟุตนั้นซับซ้อน และเต็มไปด้วยกิเลสตัณหาของมนุษย์มากแค่ไหน

- Advertisement -