“มัลติฟอร์ต สเกเลตัน เวอร์ติโก้ บลู” (Multifort Skeleton Vertigo Blue)โดดเด่นด้วยหน้าปัดแบบเปลือยเผยกลไกอันทรงพลัง พร้อมการตกแต่งตัวเรือนในโทนสีน้ำเงินสุดคูล
สง่า โดนเด่น ด้วยระดิษฐกรรมแห่งเรือนเวลาจาก “มิโด” (MIDO) ที่รังสรรค์ความเป็นคุณด้วยโฉมเรือนเวลาคอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดอย่าง “มัลติฟอร์ต สเกเลตัน เวอร์ติโก้ บลู” (Multifort Skeleton Vertigo Blue) ที่สำคัญ โดดเด่นด้วยหน้าปัดตัวนแบบเปลือย เผยให้เห็นถึงกลไกอันเที่ยงตรงและทรงพลัง ที่ถูกประดับตกแต่งในโทนสีน้ำเงินสุดคลาสสิค พร้อมให้เราได้เลือกมิกซ์แอนด์แมทช์เสริมลุคพร้อมกันแล้ววันนี้เหมาะสำหรับทุกคน
โดย “มิโด” (MIDO) นั้นเป็นแบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ จอร์จ แชแรน (GEORGES SCHAEREN) ผู้เป็นคนริเริ่มก่อตั้งบริษัท MIDO G.SCHAEREN & CO. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1918 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้โดดเด่น อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัยแต่คงความคลาสสิค ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน พร้อมไปด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน ตอบโจทย์ ทุกไลฟ์สไตล์
โดยตัวเรือนเวลา “มัลติฟอร์ต สเกเลตัน เวอร์ติโก้ บลู” (Multifort Skeleton Vertigo Blue) นาฬิกาสุดโดดเด่นจากคอลเลกชั่น “มัลติฟอร์ต” (Multifort) นั้นมาในความสปอร์ตชวนให้ เย้ายวนใจ ตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาด 42 มิลลิเมตร และยิ่งไปกว่านั้นหน้าปัดและฝาหลังแบบเปลือย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกลไกอันทรงพลังอย่างคาลิเบอร์ 80 ที่ได้รับการตกแต่งสุดประณีตบรรจง พร้อมด้วยลวดลายเจนีวา สไตรป์ (Geneva Stripes) พร้อมเทคนิคการทำสีแอนทราไซต์ (Anthracite) ให้รูปลักษณ์ที่ดูล้ำสมัย ตัดกับหน้าปัดวงแหวนด้านนอกที่แต่งด้วยลายแนวทาง (Stripe) ในโทนสีใหม่ สีน้ำเงินเข้มเพิ่มความโดดเด่นและหรูหรา พร้อมกับเข็มนาฬิกาทั้งเข็มชั่วโมงและเข็มนาทีถูกเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ ลูมิโนวา (Super-LumiNova) สีขาว เพื่อช่วยอ่านเวลาในยามค่ำคืนหรือบริเวณแสงน้อย และหมุดบอกเวลาแบบเจียระไนตัดกับสีน้ำเงินของหน้าปัดอย่างสวยงาม ครอบทับด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ที่เคลือบสารกันแสงสะท้อนบนหน้าปัดทั้งสองด้าน ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติช่วยป้องกันรอยขีดข่วนและทนทานต่อแรงกระแทกได้ดี ด้านฝาหลังมีการสลักโลโก้ ‘MIDO’ ไว้อย่างชัดเจน และเม็ดมะยมแบบขันเกลียว เชื่อมเข้ากับสายนาฬิกาสแตนเลสสตีลและตัวล็อคแบบบานพับที่ทำจากเหล็กเคลือบซาติน อีกทั้งยังสามารถสำรองพลังงานยาวนานถึง 80 ชั่วโมง พร้อมบาลานซ์สปริงที่ทำจากนิวาครอง (Nivachron™) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยในการต้านแรงแม่เหล็ก และป้องกันการกระแทกได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับความสามารถในกันน้ำลึกได้ถึงระดับ 10บาร์ หรือ 100 เมตร
“มิโด” (MIDO) มีคำแนะนำเคล็ดลับการเลือกเรือนเวลาเสริมลุคสมาร์ทสำหรับหนุ่มสาววัยทำงานอีกด้วย
1) เริ่มจากการเลือกขนาดของนาฬิกาให้เหมาะสมและรับกับข้อมือ เพื่อความคล่องตัวณะส่วมใส่ในวันทำงาน
2)อาจจะเลือกจากดีไซน์หน้าปัด อาทิเช่น โดยเลือกเรือนที่มีดีไซน์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ตามที่ผู้ใส่ชอบ เช่น อย่างนาฬิกาหน้าปัดแบบเปลือยเผยให้เห็นถึงกลไกการทำงาน ก็นับเป็นอะไรที่มีกิมมิคเล็กๆ ช่วยทำให้ดูน่าค้นหา
3) ปิดท้ายอาจจะเลือกจากตัวเรือนและสายนาฬิกาที่ผลิตจากสแตนเลสสตีล ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเรือนเวลาคลาสสิกที่ไม่ว่าจะสวมใส่กับลุคไหนก็จะช่วยเพิ่มความเรียบหรู ดูภูมิฐานมากขึ้น
สามารถยลโฉมเรือนเวลาคอลเลกชั่นล่าสุด “มัลติฟอร์ต สเกเลตัน เวอร์ติโก้ บลู” (Multifort Skeleton Vertigo Blue) ได้แล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์ “มิโด” (MIDO)เซ็นทรัล, โรบินสัน, เดอะมอลล์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ MIDO Official Store ใน Shopee และ Lazada และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่เว็บไซต์ www.midowatches.com หรือ Facebook: Mido Watches และ LINE Official Account: @midothailand หรือติดต่อได้ที่เบอร์ 02-610-0200 ครับ