ในขณะที่โลกเผชิญปัญหาด้านเศรษฐกิจหลากหลายด้าน รวมไปถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสินค้าที่ผันผวน สภาพสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนในประเทศจีน และอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ ส่งผลให้การเติบโตช้าลง แต่กลับมีรายงานว่าแบรนด์หรูต่างๆ มีเปอร์เซ็นต์ที่คนบริโภคสินค้าชนิดนี้กันมากขึ้น มีการคาดการณ์ว่ามูลค่าเงินหมุนเวียนใน Luxury Market อาจจะขึ้นสูงถึงสูงถึง 362 พันล้านยูโร (หรือราวๆ 387 พันล้านดอลลาร์) ภายในสิ้นปีนี้ โดยเพิ่มจะขึ้นถึง 4 เปอร์เซ็นต์ที่อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันจากปี 2022

แม้ว่าช่วงแรกจะมีการคาดการณ์ว่าสินค้าฟุ่มเฟือยจะมีอัตราการบริโภคลดลงแต่รายงานของ Bain & Comapy ระบุว่าปี 2023 ถือเป็น “สถิติใหม่สำหรับ Luxruy Market ที่อัตราการบริโภคขยายตัวเกินกว่าที่เคยเป็น”
ตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยทั่วโลกถูกคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 1.5 ล้านล้านยูโรในปี 2023 ในทุกภาคส่วน และจะเติบโตขึ้นอีกถึง 2 – 2.5 ล้านล้านยูโรภายในปี 2023 จากประสบการณ์ที่ผ่านมานั้นในปีนี้อัตราการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยถือว่าเป็นระดับสูงสุดของประวัติการณ์เนื่องจากผู้บริโภคหันกลับมาใช้จ่ายกับ “ความหรูหราที่เหนือกว่าผลิตภัณฑ์” มากขึ้นจริงๆ
ส่วนสำคัญอีกจุดคือมีการนำ Personal Luxury Goods มาเปรียบเทียบด้วย อย่างในไตรมาสที่สามของปี 2022 ภาคการตลาดเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบเป็นรายปี และในปี 2021 หลังจากที่ลดลงค่อนข้างมากในปี 2020 แต่ Personal Luxury Goods เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบเป็นรายปี เท่ากับ 2.90 แสนล้านยูโร ซึ่งแซงตัวเลขก่อนการแพร่ระบาดของโควิดถึง 3.2 % เมื่อมองไปข้างหน้าถึงปี 2024 ระบุว่าภาพรวมแสดงให้เห็นว่าการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นมีมากกว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจระดับภูมิภาคทั่วทั้งภูมิภาค นอกจากนี้ คาดว่าสหรัฐฯ จะเห็นการฟื้นตัวบางส่วน ในขณะที่จีนและตะวันออกกลางจะเร่งตัวขึ้นตลอดทั้งปี “ตามแผนการปรับปรุง” และญี่ปุ่นจะเข้าสู่ภาวะปกติ สุดท้าย “แบรนด์ต่างๆ จะต้องปรับกลยุทธ์ให้เฉียบคม โดยมุ่งเน้นที่การมีแนวทางที่แตกต่างจากคู่แข่ง”
Source : Bain & Company,BoF