Photographer: Wasu Sukatocharoenkul
Interview conducted by: Pacharee Klinchoo
Interview rearranged by: Peerachai Pasutan
When Two Worlds Collide…
เมื่อได้รับการติดต่อจาก HOKT (ฮกโตะ) เพื่อนแรปเปอร์เก่าแก่ชาวซัปโปโร เกี่ยวกับโปรเจกต์ที่มุ่งเชื่อมโลกวงการเพลงฮิปฮอปไทยกับญี่ปุ่น DABOYWAY ก็สนใจและพร้อมออกไอเดียทันที จนเกิดเป็นงานคอลแล็บระหว่าง DABOYWAY และค่าย bpm plus asia ในชื่อ ‘Thai Japan Music Camp’ “คือเอเชียมันใหญ่ใช่ไหมครับ แล้วบางที [ประเทศต่างๆ ในทวีปนี้] มันดูไกลกันไป ด้วยภาษาและอะไรต่างๆ แต่ผมก็เชื่อว่าเพลงก็คือเพลง เพลงคือเอนเนอร์จี ถ้าเอนเนอร์จีได้ มันก็ [เชื่อมผู้คนได้]” เจ้าตัวเกริ่น “แล้ว HOKT ก็อยากให้มีศิลปินญี่ปุ่นสิบคนมาเจอกับศิลปินไทยสิบคน ขอโปรดิวเซอร์ไทยด้วย เขามาถามผมว่าจะทำยังไงดี [ผมก็บอกเขาว่า] ‘I have a perfect idea! จัดแคมป์เลย! ถ้ายูเอาศิลปินของยูมาเจอกันตัวจริงที่เมืองไทยได้ เดี๋ยวไอจัดเซสชั่นให้เลยว่าใครจะมาเจอใคร’ เขาก็ส่งลิสต์ศิลปินฝั่งเขามา แล้วผมก็ไปทำการบ้านว่าใครมีซาวด์เป็นอย่างไร และมาจับคู่กับศิลปินไทยรุ่นน้องที่เราคิดว่าน่าจะเหมาะสำหรับแต่ละคน” จนสุดท้าย มีแรปเปอร์จากทั้งสองประเทศมาร่วมงานกัน 22 คน และเพลงทั้งหมดสิบเพลงในโปรเจกต์นี้นอกจากจะเป็นโปรดิวเซอร์แล้ว DABOYWAY ก็ยังมีผลงานแรปใหม่ที่ชื่อ ‘BAKA’ ซึ่งได้ศิลปินกลุ่มนาม Repezen Foxx มาร่วมฟีเจอริ่ง “ช่วงนั้นเป็นช่วงแคมป์แรกของ bpm ที่ศิลปินไทยกับญี่ปุ่นมาเจอกัน พอดี Repezen Foxx และ DJ Ginta เมมเบอร์ของวง อยู่เมืองไทย แล้วเขามาเจอผม เขาก็ ‘OMG, it’s DABOYWAY!’ เอนเนอร์จีเขาจะเยอะๆ หน่อย (หัวเราะ) เขาก็ [บอกว่า] ถ้าสมมติมีโอกาส เขาก็อยากจะร่วมงานกับเรา ตอนนั้นผมยังไม่ได้คิดอะไร และทำเพลงของ bpm อยู่… จนถึงแคมป์ที่สามซึ่งเป็นแคมป์สุดท้าย เราได้ยินดนตรีที่เป็นเพลง ‘BAKA’ ก็บอก[กับตัวเองว่า] บีทเพลงนี้น่าจะดีสำหรับ Repezen Foxx นะ” แล้วเขาก็เล่าความรู้สึกของตัวเองตอนที่อัดเพลงกับฮิปฮอปกลุ่มนี้ครั้งแรก “ผมชอบเพลงนี้จริงๆ นะ แล้วพอตอนที่ผมได้ยินดนตรี ผมแบบว่า ‘baka’ ซึ่งเป็นคำญี่ปุ่นที่ผมรู้จักและแปลว่า ‘บ้า’ มันก็เหมาะกับคาแรกเตอร์เขา แล้ว แล้ว ‘ba-ka’ [ก็อาจแผลงและเพี้ยนเป็น] ‘บ้า-ครับ’ ก็เลยโอเค พวกมันบ้า เราเลยบ้าด้วยกัน เป็นเหมือนคอนเซปต์ของเพลงด้วยครับ”
Creative force
DABOYWAY ร่วมบุกเบิกวงการแรปในไทยตั้งแต่สมัย Thaitanium เพิ่งตั้งไข่ และยังคงทำเพลงอย่างต่อเนื่องจนถึงจุดที่มีศิลปินรุ่นน้องอยากร่วมงานด้วย เราจึงถามเขาถึงทัศนคติในการทำงานของเจ้าตัวในปัจจุบัน “ผมเป็นคนที่ชอบครีเอทนะ ไม่ว่าจะเป็นดนตรี งานเอ็มวี หนัง หรือภาพวาด… โอเค [ถ้า] เรามีเป้าหมาย ทำให้เสร็จซะ! จบ ตู้ม! เป้าหมายต่อไปคืออะไร ผมเป็นเอดีเอชดี หยุดนิ่งไม่ได้ [เพราะฉะนั้น] let’s do something! (ดีดนิ้ว) ผมตื่นเต้นทุกวันนะที่ได้ตื่นขึ้นมาแล้วทำสิ่งที่ตัวเองรักและชอบ ได้ครีเอทงานไม่ว่าจะให้คนอื่นหรือให้ตัวเองก็ตาม และประสบการณ์ [ต่างๆ ที่ผ่านมา] มันพาเรามาถึงวันนี้ครับ” และเขาก็ไม่ได้รอคอยผลลัพธ์ยิ่งใหญ่ใดๆ ขอเพียง ‘แค่ได้ทำ’ ในสิ่งที่อยากลอง ไม่ว่าสิ่งนั้นจะยากเพียงไหนก็ตาม – เขาก็มีความสุขและภูมิใจแล้ว “สมมติผมไปเจอคนที่ไม่รู้จักมาถามว่า ‘คุณทำอาชีพอะไร’ ผมก็… เนี่ย ทั้งภาพ เพลง โปรดักชันต่างๆ นี่คือสิ่งที่ผมทำ นี่คือนามบัตรของผม บางทีผมชอบตอนที่เห็นคนอื่นเขาเซอร์ไพรส์[กับอาชีพของเรา] [แต่สุดท้ายแล้ว] ถ้าผมโอเคและแฮปปี้กับสิ่งที่ทำ อะไรที่จะเกิดขึ้นตามมาทีหลัง ก็ให้มันเป็นไป”อย่างไรก็ตาม บางครั้ง ความเป็นคนครีเอทีฟและอยู่เฉยไม่ได้ ก็ทำให้ DABOYWAY เป็นคนคิดมากอยู่เหมือนกัน “นานา [ไรบีนา – ภรรยา] เขาจะบอกว่า ‘เฮ้ย บางทียูคิดมากไป ยูวิเคราะห์ทุกสิ่งอย่างเยอะเกินไป’ เพราะเราอาจจะเป็นคนแบบว่า (ดีดนิ้ว) ทำอะไรทำเลย ใช้สัญชาตญาณของเราทำ แต่ว่าถ้า [ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง] เสร็จและพอใจแล้ว ผมจะไม่ติดค้างหรือมาเสียใจทีหลังว่า ‘I wish I could change that’” สุดท้าย ก่อนจบการสัมภาษณ์ เราอยากให้ DABOYWAY ให้คำแนะนำถึง(ว่าที่) ศิลปินรุ่นถัดๆ ไป ผู้ที่กำลังเติบโตในวัยเปลี่ยนผ่านสู่ชีวิตผู้ใหญ่และฝันอยากเป็นศิลปินแรป-ฮิปฮอปเช่นเดียวกับเขา “อาจฟังดูคลีเช่นะ แต่ keep doing… คือผมไม่รู้ว่าคุณคาดหวังอะไรอยู่ แต่คุณจะเก่งและเก่งขึ้นหากคุณทำ [และฝึกฝน] ทุกวัน ถ้าเขียนเพลงแล้วมันไม่ถึงล้านวิว ก็ต้องยิ่ง keep f***ing doing เพราะทุกสิ่งอย่างคือกระบวนการ อย่ามองว่ามันจะต้องเร็ว เพราะไม่มีอะไรที่ได้มาข้ามคืนหรอกครับ ต้องใช้ความอดทนและผ่านความผิดหวังมากมายแล้วถึงจะได้ในสิ่งที่อยากได้และสนุกไปกับมัน [เพราะฉะนั้น] keep pushing, keep doing ครับ”
“ถ้าเขียนเพลงแล้วมันไม่ถึงล้านวิว ก็ต้องยิ่ง keep f***ing doing”
– DABOYWAY –
