Photographer: Napat Gunkham
Product Photographer: Pathomporn Phueakphud
Fashion Editor: Chanond Mingmit
Grooming Editor: Chayanon Chongprasert
Nudies Matte + Glow Core All Over Face Blush จาก Nudestix
บลัชออนรูปแบบแท่งมีให้เลือกหลากโทนสี ข้อดีของมันคือในแท่งเดียวแต่มีสองเนื้อสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นสีแบบแมตต์และเนื้อเจลสร้างความโกลวตรงกลางแท่ง เราแนะนำให้คุณใช้นิ้ววนเพื่อผสมสองเนื้อสัมผัสก่อนจะแตะลงบนแก้มและเกลี่ยให้เรียบเนียน จะสร้างความเป็นธรรมชาติมากที่สุด
Soleil de Feu Shimmering Highlighter Powder จาก Tom Ford Beauty
เอาใจสายโกลวด้วยไฮไลเทอร์เนื้อฝุ่นสุดละเอียดในโทนสีอมทอง เหมาะกับทั้งวันธรรมดาและในโอกาสแฮงเอาท์ สำหรับวันธรรมดาเราอยากแนะนำให้ใช้แปรงขนาดใหญ่แต่ขนแปรงไม่แน่นมากปัดวนทับกับสีของบลัชออนไปได้เลยเพื่อสร้างความโกลวแบบเป็นธรรมชาติ ส่วนในโอกาสแฮงเอาท์สนุกๆ ลองใช้แปรงที่เล็กลงขนแน่นขึ้นปัดบริเวณโหนกแก้มเบาๆ
Match Stix สี Amber จาก Fenty Beauty
คอนทัวร์เนื้อครีมในรูปแบบแท่งพกพาและใช้ง่าย ช่วยสร้างมิติให้กับกรอบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ เพียงแค่ปาดลงบริเวณสันกราม ข้างแก้ม และขมับ ช่วยสร้างเงาที่ดูเป็นธรรมชาติให้กรอบหน้าชัดเจนยิ่งขึ้น
Artist Face Powders Blush and Sculpt จาก Make Up For Ever
สองสมาชิกจากคอลเลกชั่น Artist Face Powders ผลิตภัณฑ์เนื้อแป้งที่มากับเนื้อสัมผัสที่บางเบาอย่างน่าประทับใจ พร้อมเฉดสีที่จะกลืนไปกับผิวได้อย่างแนบสนิท ไม่ทิ้งความเป็นแป้งไว้บนผิว มีเฉดสีให้เลือกอย่างจุใจ ทั้งบลัชในโทนสีคอรัลหรือชมพูอ่อนๆ รวมไปถึงสีคอนทัวร์ให้ได้เลือกตามโทนสีผิวอีกด้วย
Plein Air H Trio Iridescent Mineral Powder จาก Hermès Beauty
ไอเท็มชิ้นนี้เป็นการรวมบลัชออนและไฮไลเทอร์เอาไว้ในตลับเดียว แต่ให้ความวาวแบบไม่เอะอะจนน่าตกใจ เพียงแค่ปัดวนด้วยแปรงขนโปร่งๆ และเกลี่ยให้ทั่วบริเวณแก้มอย่างเบามือ ก็ช่วยสร้างสีระเรื่อให้กับแก้มคุณได้อย่างเป็นธรรมชาติแล้ว
“A touch of color will make your skin look alive…”
– Bobbi Brown –
หากสังเกตดูให้ดี ผิวที่ดูสุขภาพดีคือผิวที่มีสีระเรื่อออกมา ไม่ว่าจะเป็นบริเวณแก้มหรือปลายจมูก จากการที่เลือดคอยสูบฉีดบนผิวตามธรรมชาติ และจะเข้มขึ้นหรืออ่อนลงก็ตามแต่ความร้อนหรือการสูบฉีดเลือดที่แรงขึ้นมากน้อยไปในแต่ละช่วงเวลาและกิจกรรมที่เราทำ ทฤษฎีธรรมชาติข้อนี้เป็นคำตอบที่ง่ายดายเมื่อมาถึงเรื่องของการแต่งผิวของผู้ชาย แน่นอนว่าความเรียบเนียนและความสม่ำเสมอของสีผิวเป็นภาพรวมที่สำคัญ และสามารถสร้างได้ด้วยรองพื้นหรือคุชชั่น แต่หากมีแค่เฉดสีเดียว ใบหน้าของคุณก็จะไร้ซึ่งมิติ และอาจจะแลดูซีดเซียวได้ เพราะฉะนั้นบลัชออนและผลิตภัณฑ์คอนทัวร์หรือบรอนเซอร์นั้นเป็นอีกสองไอเท็มที่คุณไม่ควรขาด
ทั้งบลัชออน คอนทัวร์ และบรอนเซอร์นั้นมีสองเนื้อสัมผัสหลักๆ ก็คือเนื้อครีมและเนื้อฝุ่น ซึ่งคุณจะเลือกใช้แบบใดแบบหนึ่ง หรือผสมรวมกันเพื่อความชัดเจนหรือติดทนนานยิ่งขึ้นก็ได้เช่นกัน สำหรับเนื้อสัมผัสแบบครีมนั้นเราขอยกให้ความเป็นธรรมชาติ เนื่องจากมันจะกลืนไปกับผิวได้ง่ายดายกว่า ให้ความเป็นผิวมากกว่า ส่วนแบบเนื้อฝุ่นนั้นจะมีความคล้ายกับแป้ง ที่หากใช้เยอะจนเกินไป บางผลิตภัณฑ์อาจจะทิ้งเนื้อสัมผัสที่แตกต่างไว้บนผิวได้ และหากจะใช้คู่กันแล้วนั้นก็ใช้ตามขั้นตอนได้เลย เริ่มจากเนื้อครีม และเซ็ตด้วยเนื้อฝุ่น
สำหรับการเลือกเฉดสี เราขอพูดแยกเป็นทีละผลิตภัณฑ์ ในส่วนของบลัชออนนั้น การเลือกสีอาจจะเริ่มง่ายๆ ที่ให้คุณสังเกตในช่วงที่คุณออกกำลังกายหรือเจออากาศร้อน ลองสังเกตบริเวณแก้มของคุณและเลือกโทนสีที่คล้ายและใกล้เคียงมากที่สุด โดยมากแล้วก็จะไม่พ้นสีโทนแดง ส้ม และชมพู และการเลือกความเข้มและอ่อนของเฉดสีเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับเฉดสีของคุณเช่นกัน หากคุณผิวเข้ม สีในโทนอ่อน เช่น ชมพูนม หรือส้มพีชอ่อนๆ แบบที่หลายคนอาจจะเคยเห็นจากหลายแบรนด์เกาหลีที่ขึ้นมาในลิสต์ไอเท็มแนะนำในการแต่งหน้าผู้ชาย เป็นอะไรที่ควรหลีกเลี่ยงหากไม่ได้เป็นคนแต่งหน้าจนชำนาญแล้ว เนื่องจากสีของมันจะลอยออกมาไม่กลืนไปกับผิว หากคุณมีผิวที่สว่าง แต่ชื่นชอบในบลัชออนสีจัดจ้าน อาจจะต้องระวังมือในการปัดซักหน่อย ไม่อย่างนั้นก็อาจจะได้สีที่สดจนเกินไปได้
ในส่วนของคอนทัวร์และบรอนเซอร์นั้น คุณอาจจะรู้สึกว่ามีความคล้ายกันในโทนสี แต่จริงๆ แล้วหน้าที่ของมันแตกต่างกัน อาจจะมีความข้องเกี่ยวกันบ้าง แต่ก็สามารถแบ่งได้อย่างชัดเจน ไอเท็มคอนทัวร์นั้นควรจะเลือกเฉดสีที่อมเทาหรือไม่เหลืองจนเกินไป เพราะด้วยตัวขั้นตอนนั้นคือการเลียนแบบสีของเงาตามธรรมชาติ การที่ใช้สีที่อมเหลืองหรือส้มจนเกินไป อาจจะทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติได้ เป็นการสร้างมิติให้กับใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าหากใครที่ต้องการเติมสีโทนอุ่นให้กับใบหน้า รู้สึกว่าใบหน้าซีดจนเกินไป ขอให้เลือกหันมาใช้บรอนเซอร์ แปลได้ตรงตัวตามชื่อเลยว่าไอเท็มนี้จะมีเฉดสีที่บรอนซ์กว่า ติดความอุ่นกว่า จะออกเป็นโทนน้ำตาลที่ชัดกว่านั่นเอง สำหรับการเลือกเฉดสีให้ดูที่ความเข้มของโทนสีและเทียบเข้ากับโทนสีผิวของตัวเองได้เลย
มาถึงการจัดวางเฉดสีหรือการปัดกันบ้าง อุปกรณ์สำคัญของขั้นตอนนี้อีกอย่างก็คือแปรงนั่นเอง ลักษณะแปรงและฟองน้ำที่คุณควรจะมีก็คือฟองน้ำรูปหยดน้ำ แปรงหัวตัด แปรงพุ่มขนแน่นขนาดไม่ใหญ่มาก แปรงพุ่มขนาดใหญ่ แปรงขนาดใหญ่แต่ขนไม่แน่น และแปรงพุ่มหัวเล็ก การใช้จะแตกต่างกันตามผลิตภัณฑ์และลุคที่อยากได้ สำหรับผลิตภัณฑ์เนื้อครีม เราแนะนำให้ใช้ฟองน้ำที่ชุบน้ำและบีบหมาดๆ จะช่วยเกลี่ยเนื้อผลิตภัณฑ์ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด ส่วนแปรงนั้นให้ใช้กับเนื้อฝุ่นไปเลยทั้งหมด
สำหรับใครที่ต้องการลุคแก้มระเรื่อที่เป็นธรรมชาติ ลองใช้แปรงพุ่มขนแน่นขนาดไม่ใหญ่มากไล้บริเวณหน้าแก้มไปจนถึงข้างแก้มอย่างเบามือและเกลี่ยให้ไม่มีขอบเพื่อความเป็นธรรมชาติ หรือหากใครต้องการความเป็นธรรมชาติแบบขั้นสุด ให้ลองใช้แปรงขนาดใหญ่แต่ขนไม่แน่นมาปัดวนแบบกว้างๆ บริเวณแก้ม วิธีนี้จะทำให้ได้พวงแก้มที่ระเรื่อในบริเวณกว้างกว่า แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องของขอบสีใดๆ
ส่วนคอนทัวร์นั้นให้ใช้กับแปรงหัวตัดไม่ก็แปรงพุ่มขนาดเล็กมาไล้บริเวณใต้สันกราม ข้างแก้ม และขมับ การไล้ให้ไล้ในจังหวะจากล่างขึ้นบน ไม่ใช่บนลงล่าง เพื่อสร้างมิติและเงากรอบหน้าตามธรรมชาติ การเลือกใช้แปรงสองประเภทนี้จะทำให้สีของผลิตภัณฑ์อยู่แค่เพียงเฉพาะจุดตามที่ควรจะเป็น ต่างกันกับบรอนเซอร์ ที่สามารถเลือกใช้แปรงลักษณะพุ่มขนาดใหญ่ปัดได้ เพราะเราต้องการเก็บในบริเวณที่กว้างกว่า การปัดให้ปัดเป็นเลขสามหรือตัว E กว้างๆ ฟุ้งๆ เพื่อแค่เพิ่มความอบอุ่นให้กับสีผิวเท่านั้น ก็เพียงพอแล้ว
Grooming: Sirima Khongtong
