Dream Big and Do It Bigger

Share This Post

- Advertisement -

ร่วมค้นหาความฝันไปกับ 7 หนุ่มวง Ballistik Boyz from Exile Tribe ที่จะทำให้คุณรู้ว่าความทะเยอทะยานและความมุ่งมั่นนั้นมีพลังมากเพียงใด

Photographer: Ponpisut Pejaroen

Direction by: Napat Roongruang

Author: Pacharee Klinchoo

Ryusei Kainuma

แนะนำตัวสั้นๆ ว่าคุณเป็นใคร ตำแหน่งอะไรในวง อยากให้เรารู้จักคุณในแง่มุมไหน

ผมชื่อริวเซนะครับ เป็นแรปเปอร์ของวง เป็นลูกครึ่งคนเดียวในวงครับ ผมเป็นลูกครึ่งบราซิล พูดภาษาโปรตุเกสและภาษาสเปนได้นิดหน่อยครับ

ในการทำงานเป็นทีมแบบนี้ คุณปรับตัวเข้าหาเพื่อนในทีมอย่างไร มีปัญหาระหว่างกันบ้างไหม ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นไปได้อย่างไร

ในฐานะที่ทำงานร่วมกันเป็นวง บางทีก็อาจจะมีความคิดบางอย่างที่เป็นความคิดของวง และเป็นความคิดส่วนตัวของผมที่ไม่เหมือนกัน แต่ผมก็ถือคติว่าจะคืนสิ่งที่ได้รับมากลับไปให้ได้ดีที่สุด เวลาผมได้รับอะไรมา ผมจะพยายามทำกลับไปให้มันดียิ่งขึ้นกว่าเดิม หรือบางครั้งมันอาจจะมีเรื่องอะไรที่มันดูเป็นไปไม่ได้ ผมก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อจะทำให้สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหน แต่ถ้าพยายามไปกับทุกคน ผมเชื่อว่ามันจะทำได้ครับ และผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดด้วยyy

อยากให้พูดถึงเพลง All I Ever Wanted และการทำงานกับกลัฟ – คณาวุฒิ ให้เราฟังหน่อย

ผมเคยได้มีโอกาสเจอคุณกลัฟที่ญี่ปุ่นมาก่อนแล้วครับ พอได้รู้จัก เลยได้เห็นผลงานของคุณกลัฟมาบ้าง หลังจากนั้นมา คุณกอล์ฟ F.Hero ก็ได้แนะนำคุณกลัฟให้มารู้จักกับวงอีก เลยได้คุยกันว่าเขาทั้งเก่งและดังมากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ถ้ามีโอกาสได้ทำเพลงร่วมกันก็น่าจะดีนะ พอได้ทำเพลงร่วมกันจริงๆ ผมก็คาดหวังว่าจะสามารถสร้างสิ่งที่เป็นสื่อบันเทิงที่มีความแปลกใหม่ให้ทุกคนได้ติดตามกันได้นะครับ รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมงานกับคุณกลัฟ ผมรู้สึกว่าผมได้เรียนรู้อะไรจากคุณกลัฟมาเยอะนะครับ เป็นการร่วมงานที่ดีต่อวง และดีต่อใจผมมากเลยครับ

บอกเราถึงความฝันสูงสุดของพวกคุณในฐานะเมมเบอร์ของ Ballistik Boyz และในฐานะตัวเองหน่อย

สำหรับความฝันสูงสุดในฐานะเมมเบอร์ของวงก็น่าจะเป็น world stadium tour นะครับ ไปถามเมมเบอร์คนไหนก็น่าจะตอบเหมือนกันหมด ความฝันส่วนตัวของผมคืออยากจะเป็นคนที่ทำอะไรก็ยิ่งใหญ่น่ะครับ ในแง่ของการเป็นศิลปินด้วย และในแง่ของการเป็นนักแสดงด้วย ตอนนี้ผมยังไม่ได้คิดเลยนะครับว่าผมจะเลิกเป็นศิลปินตอนไหนหรือจะเลิกยังไง อยากจะทำไปให้ถึงที่สุด อนาคตผมหวังว่าผมจะเป็นศิลปินที่เป็นตำนานให้ได้ ไม่ได้คิดว่าเป็นในรูปแบบไหนนะครับ อาจจะเป็นโซโล่ หรือเป็นวงก็ได้ อยากจะเป็นคนที่ได้รับการพูดถึงว่า พอผมเข้ามาในวงการบันเทิง สามารถเปลี่ยนแปลงโลกไปเลยได้ อะไรแบบนี้ครับ

อยากจะบอกอะไรกับแฟนๆ ชาวไทยบ้าง

ขอบคุณแฟนๆ ทุกคนนะครับที่คอยเป็นกำลังใจและสนับสนุนพวกเรามาโดยตลอด ตอนนี้ทางวงก็พร้อมแล้วที่จะทำกิจกรรมในฐานะของศิลปิน ไม่ใช่แค่ในประเทศญี่ปุ่น แต่ไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไปสู่ระดับโลก ในครั้งนี้ ได้มีโอกาสมาจัด fan meeting ที่ประเทศไทย ผมรู้สึกดีใจมาก และหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้มีโอกาสจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวที่ประเทศไทยนะครับ จะพยายามให้เต็มที่ ขอให้แฟนๆ ทุกคนเชื่อมั่นในตัว Ballistik Boyz และเป็นกำลังใจสืบเนื่องต่อไป เรามาทำความฝันนั้นให้เป็นจริงไปด้วยกันนะครับ

Yoshiyuki Kano (Yoshi)

แนะนำตัวสั้นๆ ว่าคุณเป็นใคร ตำแหน่งอะไรในวง อยากให้เรารู้จักคุณในแง่มุมไหน

ผมชื่อโยชิ รับหน้าที่เป็นเมนร้องในวงครับ เข้าวงการมาเพราะร้องเพลง ผมไม่ใช่สายเต้นครับ ผมคิดมาตลอดว่าอยากจะซัพพอร์ตวงในฐานะเสียงร้อง อยากจะให้เสียงร้องของผมพาวงไปในจุดที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จะพยายามทุ่มเทเรื่องการร้องเพลงต่อไปครับ

ในการทำงานเป็นทีมแบบนี้ คุณปรับตัวเข้าหาเพื่อนในทีมอย่างไร มีปัญหาระหว่างกันบ้างไหม ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นไปได้อย่างไร

ตอนแรกๆ ก็อาจจะลำบากหน่อย เพราะเมมเบอร์ก็อายุหลากหลาย มาจากคนละบ้านเกิด โตมาคนละสภาพแวดล้อม ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ช่วงแรกๆ อาจจะตะกุกตะกักบ้าง แต่หลังจากที่ทุกคนให้ความเคารพในความคิดเห็นของแต่ละคน และทำความเข้าใจว่าคนนี้มีบุคลิกแบบนี้นะ หลายๆ อย่างก็ดีขึ้น และด้วยความที่ทุกคนโตขึ้นด้วย ก็เลยสนิทกันมากขึ้นไปกว่าเดิม อย่างตอนนี้พวกเราก็ไปกินข้าวด้วยกันเสมอๆ และถ้าเป็นวันสำคัญอย่างวันเกิดของเมมเบอร์ หรือว่าวันครบรอบที่ฟอร์มวง ก็จะฉลองด้วยกันเสมอครับ

อยากให้พูดถึงเพลง All I Ever Wanted และการทำงานกับกลัฟ – คณาวุฒิ ให้เราฟังหน่อย

เพลง All I Ever Wanted นี่สื่อความหมายว่า ถ้าปลายทางของความฝันไม่มีแฟนๆ ก็ไม่มีความหมาย เป็นเพลงที่แต่งขึ้นมาเพราะต้องการส่งข้อความไปถึงคนที่คอยสนับสนุนและให้กำลังใจวงมาตลอด อย่างเช่นแฟนๆ ชาวไทย ครอบครัว เพื่อนๆ สตาฟ และทุกๆ คนที่ฟังเพลงนี้ อยากให้ทุกคนลองฟังกันครับ และเพลงนี้ได้ทำงานร่วมกับคุณกลัฟ เขาเป็นศิลปินและนักแสดงที่โด่งดังมาก ตอนผมดูช่องข่าวที่ญี่ปุ่น ก็ได้เห็นคุณกลัฟในข่าวด้วยนะครับ เขาดังมากเลย ก็ดีใจมากครับที่ได้มีโอกาสร่วมงานกัน หวังว่าเพลงนี้จะได้เป็นที่รู้จักทั้งในหมู่คนไทยและแฟนๆ ของคุณกลัฟด้วยนะครับ

บอกเราถึงความฝันสูงสุดของพวกคุณในฐานะเมมเบอร์ของ Ballistik Boyz และในฐานะตัวเองหน่อย

ในฐานะเมมเบอร์ของวง ผมรู้สึกว่า ถ้าไม่นับญี่ปุ่น ประเทศไทยถือเป็นที่แรกที่พวกเราได้มาทำกิจกรรมในฐานะศิลปินที่ต่างประเทศ ได้มีโอกาสอยู่ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ไทยตั้งครึ่งปี ได้โชว์ตามคอนเสิร์ตต่างๆ ได้ทำเพลงในประเทศไทย ได้ร่วมงานกับศิลปินไทย เพราะฉะนั้น ความฝันที่ยิ่งใหญ่ของผมในฐานะเมมเบอร์ของวงคือการได้ขึ้นแสดงที่ราชมังคลากีฬาสถานนะครับ และการที่พวกเราได้เคยร่วมงานกับทั้ง TRINITY และคุณกลัฟ ก็รู้สึกว่าอยากจะขึ้นสเตจร่วมกันที่ราชมังฯ นี่ล่ะครับ ถ้าทำได้จริงๆ จะดีใจมากๆ เลย ส่วนความฝันส่วนตัว ผมเริ่มต้นการทำงานจากการร้องเพลง ผมเลยมีความฝันว่าวันหนึ่งผมจะได้ออกเพลงโซโล่น่ะครับ

อยากจะบอกอะไรกับแฟนๆ ชาวไทยบ้าง

ผมดีใจที่ได้กลับมาที่ประเทศไทยอีก ได้ปล่อยเพลงที่สองที่ได้ร่วมงานกับศิลปินไทย และจะได้มี live performance และ fan meeting ด้วยครับ ดีใจมากจริงๆ ที่จะได้พบกับแฟนๆ ชาวไทยโดยตรง และต่อให้อีเวนต์ในครั้งนี้จบลง ผมก็จะหาโอกาสมาอีกครั้ง ขอให้แฟนๆ ทุกคนให้การต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่นเหมือนเดิมนะครับ

Masahiro Sunada (Masa)

แนะนำตัวสั้นๆ ว่าคุณเป็นใคร ตำแหน่งอะไรในวง อยากให้เรารู้จักคุณในแง่มุมไหน

ผมชื่อมาสะครับ เป็นเมนร้องนะครับ ถ้าเป็นส่วนอื่นนอกเหนือจากการทำกิจกรรมกับวง Ballistik Boyz แล้ว ในอนาคตก็คิดว่าอยากจะลองเป็นนักแสดงดูครับ

อยากลองเล่นบทไหนเป็นพิเศษไหม

เดิมทีการเป็นนักแสดงเป็นความฝันของผมอยู่แล้ว และผมก็มีไอดอลประจำตัวคือเฉินหลงครับ เลยอยากลองเล่นบทแอ็คชั่นดูครับ

ในการทำงานเป็นทีมแบบนี้ คุณปรับตัวเข้าหาเพื่อนในทีมอย่างไร มีปัญหาระหว่างกันบ้างไหม ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นไปได้อย่างไร

ถ้าถามว่าที่ผ่านมามีปัญหาหรือมีการปรับตัวเข้าหาเพื่อนยังไง ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้อย่างไรผมก็คงตอบได้ว่าอาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นหลายอย่างที่ผ่านมา แต่ว่าวิธีการที่ผมผ่านช่วงเวลานั้นมาก็คือการปรับความคิดของตัวเอง แทนที่จะคิดว่า ‘ตัวผมเองอยากจะทำอะไร’ ก็เปลี่ยนมาลองคิดว่า ‘ถ้ามองสิ่งนั้นในฐานะของวงแล้ว สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือเปล่า’ พอปรับความคิดเป็นแบบนี้ ก็สามารถผ่านเรื่องทุกอย่างมาได้โดยไม่มีปัญหาแบบที่เคยเป็น

อยากให้พูดถึงเพลง All I Ever Wanted และการทำงานกับกลัฟ – คณาวุฒิ ให้เราฟังหน่อย

สำหรับเพลง All I Ever Wanted จะอยู่ในซีรีส์เพลงที่มีการร่วมงานกับศิลปินไทยครับ เป็นเพลงที่ถัดมาจากเพลง Drop Dead (ft. TRINITY) ซึ่งทั้งสองเพลงก็มี BOTCASH เป็นโปรดิวเซอร์ครับ สำหรับเพลงนี้ผมก็ได้คุยกับโปรดิวเซอร์มาตั้งแต่เริ่มต้น จนมาถึงจุดที่สามารถทำเพลงสำเร็จ ผมก็รู้สึกว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่พวกเราอยากจะทำ และได้ใส่ข้อความที่พวกเราอยากจะใส่ลงไปในเพลงนี้ด้วย ส่วนการได้ร่วมงานกับคุณกลัฟ ผมคิดว่าคุณกลัฟเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก คนแบบนี้แหละที่สมควรได้รับความรักจากคนอื่นมากมาย

ข้อความที่ทุกคนอยากจะใส่ลงไปในเพลงคืออะไร

ตามชื่อเพลง All I Ever Wanted คือสิ่งที่พวกเราอยากได้มากที่สุดก็คือความรัก ซึ่งก็เท่ากับแฟนๆ ของพวกเรานี่ล่ะครับ ผมรู้สึกว่า ต่อให้สักวันหนึ่งพวกเราทำตามความฝันได้สำเร็จแล้ว แต่ถ้าที่แห่งนั้นไม่มีแฟนๆ อยู่ มันก็จะไม่มีความหมายครับ ก็เลยอยากจะทำความฝันของพวกเราให้สำเร็จไปพร้อมกับแฟนๆ ที่คอยอยู่ด้วยกันครับ

บอกเราถึงความฝันสูงสุดของพวกคุณในฐานะเมมเบอร์ของ Ballistik Boyz และในฐานะตัวเองหน่อย

ความฝันในฐานะสมาชิกของวงก็คืออยากจะมี world stadium tour น่ะครับ ส่วนความฝันในฐานะของตัวเองก็อยากจะได้มีโอกาสแสดงหนังฮอลลีวู้ดครับ

อยากจะบอกอะไรกับแฟนๆ ชาวไทยบ้าง

ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ประเทศไทย หรืออยู่ที่ประเทศไหนก็ตาม ผมก็รู้สึกว่าแรงสนับสนุนและความรักของแฟนๆ ส่งมาถึงตัวผมเสมอนะครับ ผมรู้สึกขอบคุณที่ทุกคนอยู่ด้วยกันกับผม และเพราะว่ามีทุกคนอยู่ด้วยกัน ผมเลยมีความพยายามที่จะลุกขึ้นมาทำงานในทุกๆ วัน และในอนาคต ผมก็อยากจะทำความฝันของผมให้สำเร็จด้วยกันกับทุกคนนะครับ ขอบคุณมากครับ

Riki Matsui

แนะนำตัวสั้นๆ ว่าคุณเป็นใคร ตำแหน่งอะไรในวง อยากให้เรารู้จักคุณในแง่มุมไหน

ผมเป็นแรปเปอร์และแดนเซอร์นะครับ ในฐานะแดนเซอร์ ผมเคยชนะ dance battle ในประเทศญี่ปุ่นมา 2 ครั้ง ผมชอบเมืองไทยมาก ก่อนหน้านี้ผมอยู่ทำกิจกรรมต่างๆ ที่เมืองไทยราวๆ ครึ่งปี พอได้กลับประเทศญี่ปุ่น ก็คิดว่าอยากหาวันหยุดมาเที่ยวประเทศไทยมากเลยครับ เสิร์ชหาตั๋วเครื่องบินมาเที่ยวหลายครั้งแล้วครับ แต่หาวันหยุดไม่ได้สักที ในอนาคต ผมอยากจะหยุดสักหนึ่งอาทิตย์และมาเที่ยวประเทศไทยให้เต็มที่เลยครับ

ในการทำงานเป็นทีมแบบนี้ คุณปรับตัวเข้าหาเพื่อนในทีมอย่างไร มีปัญหาระหว่างกันบ้างไหม ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นไปได้อย่างไร

ในฐานะที่ผมเป็นเมมเบอร์ที่มีการแรปและการเต้นเป็นอาวุธ ผมก็รู้สึกว่าบางครั้งผมก็อยากจะช่วยซัพพอร์ตเมมเบอร์คนอื่นในการร้องและการแรปบางท่อน ส่วนเรื่องเต้น บางทีก็อยากจะคอยส่งเสริมเมมเบอร์คนอื่นไปด้วยกัน แต่บางครั้งอาจจะมีช่วงเวลาที่ทำอะไรไปแล้วไม่ได้เป็นไปตามที่หวัง ก็อาจจะมีท้อบ้าง แต่พอคิดว่ามีแฟนๆ และครอบครัวที่คอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจอยู่ ก็รู้สึกเหมือนมีแรงสู้ สามารถผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้ครับ

อยากให้พูดถึงเพลง All I Ever Wanted และการทำงานกับกลัฟ – คณาวุฒิ ให้เราฟังหน่อย

คุณกลัฟเป็นนักแสดง แต่ในแง่ของการเป็นศิลปิน เขาเป็นคนที่เท่มากนะครับ และมีสไตล์การแรปที่เท่และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากนะครับ ส่วนเรื่องเพลง All I Ever Wanted ก็เป็นเพลงที่สื่อความหมายว่า แม้ว่าปลายทางของความฝันจะทำอะไรสำเร็จ แต่ถ้าไม่มีแฟนคลับอยู่ด้วย มันก็ไม่มีความหมายอะไร นี่เป็นแมสเสจที่พวกเราอยากจะสื่อไปถึงแฟนๆ อยากให้แฟนๆ ได้รู้ เป็นเพลงที่เป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นญี่ปุ่นและไทยเข้าไปด้วยกัน แสดงถึงการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ของวง และเป็นเพลงที่มีสไตล์ความเป็น Ballistik Boyz ที่สูงมาก และก็มีสีสันและกลิ่นอายของคุณกลัฟเข้ามาเสริมครับ

บอกเราถึงความฝันสูงสุดของพวกคุณในฐานะเมมเบอร์ของ Ballistik Boyz และในฐานะตัวเองหน่อย

ถ้าในฐานะเมมเบอร์ของวง ก็คือการได้มี world stadium tour จนกว่าจะทำความฝันนี้ให้เป็นจริงได้ วงจะไม่ล้มเลิกเด็ดขาด นี่คือความฝันที่เดิมพันด้วยชีวิตของผมเลยครับ และในเรื่องส่วนตัว ช่วงนี้ผมได้มีโอกาสแสดงละครอยู่ด้วย ละครที่ผมเล่นเพิ่งออนแอร์จบไป ถ้ามีใครอยากติดตาม สามารถหาดูได้นะครับ ชื่อเรื่อง Fukumen D ผมเคยเป็นนายแบบด้วยนะครับ แต่ปัจจุบัน กิจกรรมที่ทำ มีอยู่แค่ในประเทศญี่ปุ่นอย่างเดียว ในอนาคต ผมก็อยากจะไปทำกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ทั่วโลกน่ะครับ และผมก็ทำแบรนด์แฟชั่นของตัวเองด้วย ชื่อ HYSFORM ก็อยากจะมาลองเปิดpop-up ที่เมืองไทยดูบ้าง

อยากจะบอกอะไรกับแฟนๆ ชาวไทยบ้าง

เมมเบอร์ทุกคนของวงเป็นชาวญี่ปุ่นหมด แต่ทุกคนรักประเทศไทยมากเหมือนเป็นบ้านหลังที่สองเลยครับ ตลอดเวลาที่มาทำกิจกรรมต่างๆ ในประเทศไทย ก็ดีใจมากที่แฟนๆ ชาวไทยทุกคนคอยส่งกำลังใจ คอยเชียร์พวกผมอยู่เสมอ ผมหวังว่าชื่อเสียงของวง Ballistik Boyz จะยิ่งใหญ่มากขึ้นในประเทศไทย และหวังว่าสักวันหนึ่งวงจะสามารถขึ้นไปแสดงคอนเสิร์ตที่ราชมังคลากีฬาสถานได้ครับ

Rikiya Okuda (Ricky)

แนะนำตัวสั้นๆ ว่าคุณเป็นใคร ตำแหน่งอะไรในวง อยากให้เรารู้จักคุณในแง่มุมไหน

สวัสดีครับ ผมชื่อริกกี้ เป็นแรปเปอร์ครับ ผมเป็นคนชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ชอบออกไปเดินเล่น ไปตกปลา ชอบอยู่กับเพื่อนๆ ไม่ชอบอยู่คนเดียว ผมเป็นหนุ่มขี้เหงาน่ะครับ

ในการทำงานเป็นทีมแบบนี้ คุณปรับตัวเข้าหาเพื่อนในทีมอย่างไร มีปัญหาระหว่างกันบ้างไหม ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นไปได้อย่างไร

ตอนที่ฟอร์มวงกันใหม่ๆ ก็มีปัญหาเยอะอยู่ครับ เช่นเรื่องความอาวุโส พอมีเรื่องแบบนี้ ก็รู้สึกว่าทำงานด้วยกันยากลำบาก พวกเราก็เลยทำให้เมมเบอร์ทุกคนมีจุดยืนเท่ากัน เวลามีปัญหา หรือมีเรื่องอะไรก็ตาม อยากให้พูดคุยกันได้แบบเปิดเผย จริงใจ พอเป็นแบบนี้ ทำให้เมมเบอร์ทุกคนไม่ได้เป็นแค่เมมเบอร์ของวงเท่านั้น แต่เป็นเพื่อนสนิท เป็นครอบครัวเดียวกันด้วยครับ นั่นคือข้อดีของวงเราครับ

อยากให้พูดถึงเพลง All I Ever Wanted และการทำงานกับกลัฟ – คณาวุฒิ ให้เราฟังหน่อย

พอได้ร่วมงานทำเพลงกับคุณกลัฟ ผมรู้สึกยินดีมากๆ เลยครับ เพราะว่าคุณกลัฟเป็นศิลปินและนักแสดงที่โด่งดังทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น พอมีโอกาสได้คุยกัน บางครั้งเขาก็ตอบกลับเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยนะครับ เลยรู้สึกว่าคุณกลัฟเป็นพี่ชายคนหนึ่งที่ใจดีและอ่อนโยนมากเลยครับ ในแง่ของการทำงาน และการอัดเพลง คุณกลัฟทุ่มเทมากๆ เลยครับ ส่วนเรื่องท่าเต้น ก็จำไปด้วยกัน พยายามไปด้วยกัน ผมคิดว่าเพลง All I Ever Wanted เป็นผลงานที่อัดแน่นไปด้วยความฝันและความพยายามของทั้ง Ballistik Boyz และของคุณกลัฟด้วยครับ

บอกเราถึงความฝันสูงสุดของพวกคุณในฐานะเมมเบอร์ของ Ballistik Boyz และในฐานะตัวเองหน่อย

ความฝันในฐานะเมมเบอร์วง ก็คงเป็นเรื่องการมี world stadium tour อยากจะเป็นศิลปินที่เป็นตัวแทนประเทศญี่ปุ่นไปแสดงคอนเสิร์ตที่ต่างประเทศครับ ส่วนเรื่องส่วนตัว ผมมีความฝันเยอะแยะไปหมดเลยครับ ผมอยากจะแต่งงาน มีครอบครัว และถ้าเป็นไปได้ อยากจะเที่ยวรอบโลก เพราะชีวิตคนเราก็มีครั้งเดียว เลยอยากจะเห็นที่ต่างๆ ให้ได้เยอะที่สุดครับ และอยากจะสร้างบ้านอยู่ต่างประเทศด้วย

อยากจะบอกอะไรกับแฟนๆ ชาวไทยบ้าง

ต้องขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยที่คอยส่งเสียง ส่งข้อความไปสนับสนุนพวกผมผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ทำให้ผมรู้สึกได้เลยว่า ถึงแม้ประเทศเราจะอยู่ไกลกัน แต่ผมก็รู้สึกว่าผมได้รับความรักจากพวกคุณ และมีพวกคุณอยู่เคียงข้างเสมอ ขอบคุณจริงๆ ครับ ถึงแม้ว่าผมจะอยู่ไกลจากพวกคุณ มาพบพวกคุณไม่ได้ แต่ผมก็รู้สึกได้เลยว่าทุกคนคอยเชียร์ผมอยู่ข้างๆ พวกคุณคือแรงใจที่ทำให้ผมสามารถทำกิจกรรมในแต่ละวันได้ดีเสมอๆ และในอนาคต ไม่ว่าจะมีความฝันอะไร ผมอยากจะทำความฝันของผมให้สำเร็จ และหวังว่าที่นั่นจะมีทุกๆ คนอยู่ดูความสำเร็จนั้นไปกับผมนะครับ

Miku Fukahori

แนะนำตัวสั้นๆ ว่าคุณเป็นใคร ตำแหน่งอะไรในวง อยากให้เรารู้จักคุณในแง่มุมไหน

ผมชื่อมิคุ รับหน้าที่เป็นเมนร้องของวงครับ ก่อนหน้านี้ผมเคยไปเรียนแลกเปลี่ยนที่นิวยอร์กมา เลยพอจะพูดภาษาอังกฤษได้ครับ ผมชอบประดิดประดอย ชอบวาดรูป ชอบฮัมเพลง บางทีก็คิดท่าเต้นสำหรับวงด้วย รับหน้าที่เรื่องครีเอทีฟต่างๆ ในวงด้วยครับ

ในการทำงานเป็นทีมแบบนี้ คุณปรับตัวเข้าหาเพื่อนในทีมอย่างไร มีปัญหาระหว่างกันบ้างไหม ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นไปได้อย่างไร

ตั้งแต่สมัยผมอยู่ชั้นประถม ผมเคยเข้าโรงเรียนสอนเต้น และได้รู้จักกับริคกี้และมาสะที่นั่น มาถึงตอนนี้ก็น่าจะผ่านไป 14 ปีได้แล้วนะครับ ในเรื่องของวง ส่วนตัวผมไม่ได้คิดว่ามีปัญหาอะไรขนาดนั้นนะครับ แต่ว่าในบางครั้งที่ผมรู้สึกว่ามันตัน หรือไม่รู้จะทำอะไรต่อไป พอคิดว่ามีเมมเบอร์ 7 คนไล่ตามความฝันเดียวกันอยู่ ก็เลยทำให้ผมสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในบางครั้งไปได้ครับ

อยากให้พูดถึงเพลง All I Ever Wanted และการทำงานกับกลัฟ – คณาวุฒิ ให้เราฟังหน่อย

เพลง All I Ever Wanted มีแมสเสจสื่อถึงว่าปลายทางของความฝันที่สำเร็จนั้น ถ้าหากว่าไม่มีพวกคุณอยู่ด้วย มันก็ไม่มีความหมาย เป็นแมสแสจที่ผมอยากจะให้สื่อไปถึงคนสำคัญต่างๆ ของผม ไม่ว่าจะเป็นแฟนๆ ครอบครัว หรือเพื่อนฝูงครับ ส่วนคุณกลัฟเป็นศิลปินที่โด่งดังทั้งในประเทศไทย ในประเทศญี่ปุ่น และทั่วทวีปเอเชียเลย การที่ได้มาร่วมงานกับคนดังๆ อย่างคุณกลัฟครั้งนี้ สำหรับวงที่มีเป้าหมายจะโกอินเตอร์ ดังไปทั่วโลกอย่างพวกเรา ผมรู้สึกว่าเป็นเกียรติมากเลยครับ

บอกเราถึงความฝันสูงสุดของพวกคุณในฐานะเมมเบอร์ของ Ballistik Boyz และในฐานะตัวเองหน่อย

ความฝันในฐานะเมมเบอร์ของวงก็คือ world stadium tour เพราะว่าคุยกันมาตั้งแต่เริ่มฟอร์มวงแล้ว ส่วนความฝันส่วนตัวคืออนาคตผมอยากจะทุ่มเทไปกับเรื่องการทำเพลงหรือการเป็นโปรดิวเซอร์ให้มากกว่านี้ ก่อนหน้านี้ผมมีโอกาสได้ขึ้นแสดงละครเวทีมา เป็นละครแนวย้อนยุค ชื่อว่า Ashi Girl เป็นมังงะที่ดังมาก ดัดแปลงเป็นละครเวทีที่ให้ถือบทไปแสดงไป เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะลองแสดงภาพยนตร์หรือเล่นละครดูบ้างครับ

อยากจะบอกอะไรกับแฟนๆ ชาวไทยบ้าง

ก่อนหน้านี้มีโอกาสได้มาอยู่ที่ประเทศไทยครึ่งปี ได้ทำกิจกรรมต่างๆ และได้พบกับผู้คนมากมาย ผมรู้สึกว่าความฝันที่จะมุ่งไปสู่ระดับโลกของผมได้เข้าใกล้ขึ้นอีกหนึ่งก้าวแล้ว ในอนาคต ผมคาดหวังให้วง Ballistik Boyz เป็นวงที่ยิ่งใหญ่ขึ้น ได้มีโอกาสมาที่ประเทศไทยบ่อยขึ้น และได้แสดงคอนเสิร์ตใหญ่ของวงที่ประเทศไทยด้วย ขอให้ทุกคนคอยให้กำลังใจผมด้วยนะครับ

Ryuta Hidaka

แนะนำตัวสั้นๆ ว่าคุณเป็นใคร ตำแหน่งอะไรในวง อยากให้เรารู้จักคุณในแง่มุมไหน

สวัสดีครับ ผมชื่อริวตะครับ ชื่อ ‘ข้าวมันไก่บอย’ ด้วยครับ เป็นเมนร้องครับ ผมเป็นพี่ใหญ่ที่สุดของวง รับหน้าที่พยายามทำให้เมมเบอร์ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน และก็พยายามผลักดันและนำพาเมมเบอร์ทุกคนให้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ครับ

ทำไมถึงใช้ชื่อ ‘ข้าวมันไก่บอย’ ชอบกินเหรอ

ผมชอบกินข้าวมันไก่มาก และคิดว่าถ้าผมเรียกตัวเองว่า ‘ข้าวมันไก่บอย’ แฟนๆ ก็น่าจะจำผมได้ง่ายขึ้นน่ะครับ ร้านที่อร่อยที่สุดคือข้าวมันไก่ประตูน้ำสีชมพูครับ

ในการทำงานเป็นทีมแบบนี้ คุณปรับตัวเข้าหาเพื่อนในทีมอย่างไร มีปัญหาระหว่างกันบ้างไหม ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นไปได้อย่างไร

สำหรับเรื่องการทำงานเป็นทีม ด้วยความที่เมมเบอร์ของวงมีอายุแตกต่างกัน และมาจากคนละเมืองกัน อาจจะมีบางครั้งที่ไม่เข้าใจกันบ้าง กระทบกระทั่งกันบ้าง อาจจะหาจุดกึ่งกลางได้ยาก แถมบางคนก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ผมในฐานะพี่ใหญ่ ก็มีหน้าที่รักษาความสมดุลในวงให้ได้ ทั้งในแง่ของการทำงาน และในแง่ความสัมพันธ์ส่วนตัวของเมมเบอร์ด้วยครับ

อยากให้พูดถึงเพลง All I Ever Wanted และการทำงานกับกลัฟ – คณาวุฒิ ให้เราฟังหน่อย

เพลงนี้มีแมสเสจหลักๆ ที่ต้องการจะสื่อว่า ถ้าวันหนึ่งเราทำความฝันให้เป็นจริงได้แล้ว แต่ถ้าที่แห่งนั้นไม่มีคนสำคัญอยู่ด้วย มันก็ไม่มีความหมาย และคนสำคัญของวง Ballistik Boyz ก็คือคนที่คอยให้กำลังใจ คอยส่งเสริม สนับสนุนพวกเราตลอดเวลา นั่นก็คือแฟนๆ นอกจากนั้นก็มีครอบครัวและเพื่อนๆ ถ้าหากว่าไม่มีทุกคน แม้จะประสบความสำเร็จ ก็ไม่มีความหมายจริงๆ ผมเชื่อว่าทุกคนต้องมีคนสำคัญอยู่บ้าง ถ้าฟังเพลงนี้ น่าจะอินและเข้าถึงความหมายที่พวกเราต้องการสื่อมากขึ้น ส่วนการทำงานกับคุณกลัฟ เขาเป็นศิลปินและนักแสดงที่ไม่ได้โด่งดังเฉพาะที่ประเทศไทย แต่กินรวบทั่วทวีปเอเชียเลยครับ เขาเป็นสตาร์ที่โด่งดังมาก การได้ร่วมงานกับเขาถือว่าเป็นเกียรติมากเลยครับ

บอกเราถึงความฝันสูงสุดของพวกคุณในฐานะเมมเบอร์ของ Ballistik Boyz และในฐานะตัวเองหน่อย

ถ้าในฐานะเมมเบอร์ของวง เป็นความฝันที่พวกเราทุกคนคุยกันและตั้งไว้ตั้งแต่ฟอร์มวงขึ้นมาแล้วนั่นคือการมี world stadium tour น่ะครับ ผมว่าทุกคนน่าจะพูดเหมือนกันหมดนะครับ ตอนนี้ พวกเราพยายามเข้าไปให้ใกล้ความฝันนั้นโดยพยายามทำงานที่ประเทศไทยอย่างเต็มที่ และพยายามลุยไปที่ประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชีย และอยากจะขยายชื่อเสียงของวงให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นน่ะครับ ส่วนความฝันสูงสุดของตัวผมคืออยากสนุกไปกับชีวิตตัวเองให้ถึงขีดสุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำฝันให้เป็นจริง หรือทำภารกิจต่างๆ ที่ผมตั้งเอาไว้ โดยสนุกไปกับมัน อย่างเช่น วันหนึ่ง ถ้าผมอยากจะลองร้องเพลงเดี่ยว ผมก็จะลองร้องดู หรือถ้าเกิดผมสนใจการแสดง ผมก็อยากลองเป็นนักแสดงดู ลองไปจัดรายการวิทยุ หรือลองเล่นตลกดู อยากสนุกไปกับทุกอย่างที่ทำในชีวิตน่ะครับ

อยากจะบอกอะไรกับแฟนๆ ชาวไทยบ้าง

ประเทศไทยนี่นับเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของผมเลยครับ และตอนนี้วง Ballistik Boyz กำลังตั้งใจทำงานในฐานะศิลปิน ทั้งในประเทศไทย และในทวีปเอเชีย ในอนาคตก็อยากจะกางปีกและโผบินไปทำกิจกรรมทั่วโลก หวังว่าแฟนๆ จะให้กำลังใจ และส่งเสียงเชียร์ให้พวกเราไปสู่ความฝันนั้นได้ด้วยกันนะครับ และถ้าวงเรามีจัดอีเวนต์หรือคอนเสิร์ตในประเทศไทยเมื่อไหร่ ก็หวังว่าทุกคนจะได้มาพบกันนะครับ

สตรีมเพลง All I Ever Wanted ของ Ballistik Boyz ft. กลัฟ – คณาวุฒิ ได้แล้วทุกช่องทางออนไลน์

Assistant Photographers: Manosit Boonnon / Supasit Sooksawat

- Advertisement -