ศิลปะแห่งการสำรวจจักรวาลในร่างกายมนุษย์

Share This Post

- Advertisement -

Author: MutAnt

Photographer: Chanond Mingmit

หลายคนอาจเคยดูหนังไซไฟหรืออ่านนิยายวิทยาศาสตร์หลายเรื่องที่นำเสนอองค์ประกอบภายในของร่างกายมนุษย์ ทั้งเซลล์เม็ดเลือด เซลล์ประสาท และอวัยวะต่างๆ อันเล็กจิ๋ว ในรูปแบบที่ไม่ต่างอะไรกับจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล สิ่งเหล่านี้นี่เองที่ปรากฏในผลงานของ Taras Zheltyshev (ทาราส เซลทีเซฟ) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Taras Yoom (ทาราส ยูม) ศิลปินชาวรัสเซีย ผู้เรียนจบสาขาแพทยศาสตร์ แต่หันเหมาทำงานในสายศิลปะและดีไซน์ เขาก่อตั้งสตูดิโอออกแบบและตกแต่งภายในที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากเวทีระดับนานาชาติมากมาย ทั้งรางวัล AD Design Designer of the Year, Elle Decoration Designer of the Year, A’ Design Award ฯลฯ และร่วมแสดงในงานแสดงดีไซน์ชั้นนำของโลกหลายต่อหลายครั้ง ทั้งงาน Collectible Fair Brussels, Cosmoscow, Milan Design Week, Beijing Design Week, Dubai Expo ฯลฯ

เอกลักษณ์อันโดดเด่นในผลงานของเขาคือการใช้รูปทรงชีวภาพ ที่ได้แรงบันดาลใจจากระบบเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกายมนุษย์และสิ่งมีชีวิต และการทดลองการทำงานศิลปะด้วยเทคนิค สื่อ และวัสดุอันแตกต่างหลากหลาย ทั้งงานประติมากรรม ภาพวาด งานดีไซน์ เฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่ NFT เขายังสร้างโครงการศิลปะที่มีชื่อว่า Yoomoota Universe ที่นำเสนอเรื่องราวของจักรวาลคู่ขนานอันมีที่มาจากองค์ประกอบภายในร่างกายของมนุษย์นั่นเอง

ทาราสกล่าวถึงเหตุผลที่เขาผันตัวจากวิชาชีพแพทย์มาทำงานศิลปะและงานออกแบบว่า

“สมัยที่ผมเรียนแพทย์ที่มหาวิทยาลัย ผมสนใจและทำงานเกี่ยวกับธรรมชาติอย่างมาก ผมพยายามทำความเข้าใจเกี่ยวกับมนุษย์และโลกรอบๆ ตัวเรา และผมเองก็ไม่ได้คิดว่าผมจะใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาในการรักษาผู้คนโดยตรง แต่ผมคิดจะทำการรักษาในหนทางที่แตกต่างออกไปจากการเป็นหมอ อาจจะเป็นในกิจกรรมอื่นๆ อย่างการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อการบำบัดรักษาร่างกาย หรือการทำงานศิลปะที่ช่วยบำบัดรักษาผู้คนได้ แต่การบำบัดรักษาที่ว่านี้ไม่ใช่การรักษาตามปกติทั่วไป ผมอยากทำให้ผู้คนมีความตระหนักรู้เกี่ยวกับร่างกายและชีวิตของพวกเขาเอง นั่นเป็นเหตุผลที่โครงการ The Yoomoota Universe ที่ผมกำลังทำอยู่ตอนนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับร่างกายของเรา เกี่ยวกับการทำงานของร่างกายของเรา เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของแต่ละส่วนประกอบในร่างกายของเรา เกี่ยวกับระบบอารมณ์ความรู้สึก ความสัมพันธ์ทางอารมณ์ของผู้คน และความสัมพันธ์ทางจิตวิทยาของผู้คน ผมเชื่อว่ามีกิจกรรมอันน่าเหลือเชื่อเกิดขึ้นทั้งภายในร่างกายและรอบๆ ตัวเรา และ Yoomoota ก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกิจกรรมเหล่านั้น นั่นเป็นเหตุผลที่ผมเปลี่ยนเส้นทางจากการทำงานทางการแพทย์โดยตรง มาใช้ความรู้ทางการแพทย์ในการทำงานศิลปะแทน

A. The old man and the sea ภาพวาดของภาพหลอนเกี่ยวกับความฝันของชาวประมงชรา, ท้องทุ่ง, เด็กๆ และความรัก
B. Gudini ภาพวาดของหนึ่งในความปรารถนาอันมืดมิด นักท่องเที่ยวแห่งจักรวาล Yoomoota ผู้ไปถึงขอบเขตแห่งความเป็นนักมายากลอันน่าทึ่ง
C.  Bob ภาพวาดของหนึ่งใน มนุษย์แห่งดาวช่างสงสัยผู้เปี่ยมอัตลักษณ์ กับผู้ช่วยของเขา “Imp” จากดวงดาว Orginion (บ้านกำเนิดของต่อมไทมัส)
D. พื้นสตูดิโอ Yoomoota ที่ทีมงานในสตูดิโอทุกคนช่วยกันสะบัดสีลงไปบนพื้นด้วยมือ (ให้สีกระจายตัวอย่างโกลาหลบนพื้นใต้เท้าทุกคน แต่ไม่ใช่บนหัวนะ)

“ยกตัวอย่างเช่น ผมพยายามอธิบายให้ผู้คนรู้ว่าการเสพติดคืออะไร มันทำงานกับร่างกายเราอย่างไร ผมมีเรื่องเล่าจำนวนมหาศาลที่อธิบายเกี่ยวกับการทำงานของร่างกายมนุษย์ เกี่ยวกับตับอ่อน หัวใจ สมอง ทุกๆ ส่วนของร่างกาย และแน่นอน เกี่ยวกับเซลล์ เพราะในร่างกายของเรานั้นมีเซลล์ที่แตกต่างกันมากมายนับพันล้านเซลล์ และผมพยายามอธิบายสิ่งเหล่านี้ด้วยงานศิลปะของผม”

หลายคนอาจสงสัยว่านักศึกษาแพทย์อย่างเขาไปหัดทำงานศิลปะมาจากที่ไหน เขาไปเข้าเรียนสถาบันศิลปะที่ไหนมาหรือเปล่า ซึ่งทาราสแก้ความสงสัยนี้ให้เราฟังว่า

“ผมไม่เคยเข้าเรียนสถาบันศิลปะที่ไหน แต่ตอนเรียนโรงเรียนแพทย์ ผมเริ่มทำงานศิลปะในหลายรูปแบบแล้ว ทั้งงานจิตรกรรม ประติมากรรม และงานสร้างสรรค์บางอย่าง ในงานเรียนของผมชิ้นหนึ่ง ผมทำงานศิลปะดิจิทัลสามมิติเกี่ยวกับระบบท่อลำเลียงในร่างกายของมนุษย์สำหรับการเรียนการสอน ซึ่งทำให้นักเรียนนักศึกษาทำความเข้าใจกับการเรียนได้ง่ายขึ้น แต่ผมไม่เคยลองฝึกทำงานวาดเส้นมาก่อน ผมเริ่มฝึกทำงานวาดเส้นด้วยตัวเองก็เพราะมันเป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดที่จะแสดงให้เห็นว่าคุณคิดอะไรอยู่ในหัว

“ผมเกิดและเติบโตในเมือง Tomsk เมืองเล็กๆ ในไซบีเรีย ซึ่งเป็นเมืองที่เล็กมาก มีคนอยู่แค่ 120,000 คน และอากาศก็หนาวมาก ที่นั่นมีแค่พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับศาสนาและโบราณวัตถุในอดีตเท่านั้น แต่ไม่มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ผมจึงไม่มีประสบการณ์ในการชมงานศิลปะมาก่อน แต่ก็ต้องขอบคุณสื่อโซเชียลมีเดีย และชุมชนรอบๆ ตัวที่ช่วยทำให้ผมเข้าใจโลกรอบๆ ตัวของเรา”

ทาราสยังกล่าวว่า จุดมุ่งหมายในการทำงานศิลปะของเขานั้นมีเป้าหมายปลายทางไม่ต่างกับสาขาวิชาชีพแพทย์ที่เขาร่ำเรียนมา หากแต่แตกต่างกันที่วิธีการเท่านั้น

“ผมอยากเยียวยาผู้คนจากการทำงานศิลปะของผม ยกตัวอย่างเช่นเก้าอี้ ผมมองเก้าอี้ในแง่มุมทางเทคนิค อย่างเช่นการออกแบบเก้าอี้ที่ดีต่อสุขภาพ หรือการออกแบบโคมไฟที่ดีกับดวงตา เพราะแสงเป็นอะไรที่สำคัญกับดวงตาของเรามากๆ ถ้าเราอยู่ในพื้นที่ที่แสงน้อย ก็จะทำให้เราปวดหัว และอาจจะเกิดปัญหาสุขภาพอีกหลายอย่างได้ ซึ่งเริ่มแรกผมคิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ แต่หลังจากนั้นผมเริ่มมุ่งเน้นไปในสิ่งที่เกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึก เช่น เราจะทำความเข้าใจบางสิ่งที่เรามองเห็นในปัจจุบันและเชื่อมโยงกับอดีตของเราได้อย่างไร อย่างการออกแบบเก้าอี้ที่มีเรื่องราวต่างๆ ที่สื่อสารถึงการทำงานของร่างกายและจินตนาการของเรา อย่างเช่นเก้าอี้ที่ได้แรงบันดาลใจจากเซลล์เม็ดเลือดขาว หรือระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์ ซึ่งเป็นผู้คุ้มครองที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเรา ผมเลยสร้างเก้าอี้ตัวนี้ขึ้นมาเพื่อสื่อสารถึงเซลล์ที่อยู่ในร่างกายของเรา และทำความเข้าใจถึงสิ่งที่อยู่ในร่างกายของเราว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร เหมือนเวลาเราไปหาหมอ หมอจะใช้ภาพอธิบายการทำงานของร่างกายของคุณ เพื่อทำลายความกลัวของคุณ ทำลายความไม่รู้เกี่ยวกับร่างกายของคุณ และเมื่อเราหายจากความไม่รู้ด้วยการรับความรู้ นั่นคือความสำเร็จของสิ่งที่ผมทำอยู่ เช่นเดียวกับการรักษาสมดุลของร่างกาย (homeostasis) หรือเหมือนการทำงานของสมอง เมื่อเราได้รับข้อมูลความรู้มา ข้อมูลความรู้นี้ก็จะอยู่ภายในความคิดเรา และร่างกายของเรา”

โดยส่วนตัวเรามองว่า ความแตกต่างระหว่างงานศิลปะกับงานออกแบบคือ งานออกแบบต้องมีฟังก์ชัน ในขณะที่งานศิลปะไม่จำเป็นต้องมี ซึ่งทาราสมองในมุมต่างว่า

“สำหรับผม ศิลปะเป็นสิ่งที่มีฟังก์ชันเสมอ เพราะเราสามารถมองเห็น เราสามารถรู้สึกถึงศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นทัศนศิลป์ หรือศิลปะที่ใช้เสียงอย่างดนตรี แต่ไม่ใช่ฟังก์ชันแบบเดียวกับเก้าอี้ หรืออะไรที่คุณจะหยิบมาใช้งานได้ แต่ศิลปะเป็นเหมือนการรักษาสมดุลของร่างกาย เป็นกระบวนการที่ทำงานกับภายในของเรา ศิลปะสามารถทำให้ใครสักคนมีชีวิตชีวา และผมคิดว่าเป็นอะไรที่มีประโยชน์ใช้สอยมากเลยนะ ในการที่จะทำให้คนมีชีวิตชีวาได้เนี่ย”

สำหรับความสงสัยของเราว่าเขามองตัวเองว่าเป็นศิลปินหรือนักออกแบบนั้น ทาราสเผยว่า

“ผมคิดว่าในโลกของเราทุกวันนี้ ไม่สำคัญแล้วว่าเราจะเรียกตัวเองว่าอะไร ศิลปิน หรือนักออกแบบ แน่นอนล่ะว่าเราอาจจะมองให้ลึกว่าความหมายของนักออกแบบหรือศิลปินคืออะไร นักออกแบบที่แท้จริงมักเป็นคนที่ตอบโจทย์หรือตอบคำถามต่างๆ แต่ศิลปินนั้นมักเป็นคนตั้งคำถามเสียมากกว่า แต่ลองจินตนาการดูว่าจะเป็นไปได้ไหมถ้าเราเป็นคนทำทั้งสองอย่างนี้ไปพร้อมๆ กัน ถ้าคุณเป็นคนตั้งคำถามและตอบคำถามด้วยตัวเองล่ะ นั่นหมายถึงคุณทำงานศิลปะและทำงานดีไซน์ไปพร้อมๆ กัน เพราะงานศิลปะและงานออกแบบต่างก็เริ่มต้นจากความคิดเหมือนๆ กัน

“ผมพยายามที่จะผสมผสานงานศิลปะเข้ากับงานออกแบบนะ อย่างเฟอร์นิเจอร์ที่ผมทำก็เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันที่ดี อย่างเก้าอี้ Lymphochairs ที่ได้แรงบันดาลใจจากเม็ดเลือดขาว ก็เป็นเก้าอี้ที่นั่งสบายมากๆ แต่ในขณะเดียวกัน เฟอร์นิเจอร์ของผมทุกชิ้นก็มีความเป็น Yoomoota เพราะพวกมันเป็นเฟอร์นิเจอร์จากดาวดวงอื่น”

เมื่อมองเห็นผลงานอันแปลกตา รูปทรงเส้นสายล้ำยุคของเขาก็ทำให้เราอดนึกไปถึงหนังไซไฟหรือนิยายวิทยาศาสตร์ไม่ได้ หากทาราสบอกเราว่า

“อันที่จริง งานของผมได้แรงบันดาลใจจากวิทยาศาสตร์จริงๆ มากกว่าหนังหรือนิยายวิทยาศาสตร์นะ ทั้งฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ระบบนิเวศวิทยา หลายสิ่งหลายอย่างที่สามารถเปิดดวงตาของคุณ และแสดงให้เห็นโลกที่แท้จริงได้ หลายครั้งผมมักจะบอกคนว่า โลกของเราคือสิ่งที่น่ามหัศจรรย์และน่าเหลือเชื่ออย่างแท้จริง อย่างการให้กำเนิดมนุษย์ขึ้นมา เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อในการที่เราสามารถสร้างชีวิตขึ้นมาได้ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมนำเสนอข้อมูลทางวิทยาศาสตร์จริงๆ ในผลงานของผม แต่ผมนำเสนอในมุมมองที่แตกต่างออกไปจากเดิม ด้วยสีสันที่สดใส บุคลิกที่น่ารักสนุกสนาน”

หลายๆ คนอาจสงสัยว่าชื่อ Yoomoota นั้นมีที่มาจากอะไร ทาราสเฉลยข้อข้องใจนี้ว่า

“Yo คือสแลงของคำว่า hello ส่วน M คือ mother ผู้กำเนิดสรรพสิ่ง และ O สองตัวคือโลกสองใบ โลกของเรากับโลกของ Yoomoota ส่วน ta คือตัวอักษรสองตัวแรกของชื่อผม เหมือนที่ผมบอกทุกคนว่า คุณสามารถใช้ตัวอักษรสองตัวแรกของชื่อคุณมาเติมได้ เหมือนคุณชื่อ MutAnt ก็จะเป็น Yoomoomu เพราะ Yoomoota ไม่ได้เป็นแค่เรื่องราวส่วนตัวของผมภายในโลกใบนี้ แต่เป็นเรื่องราวภายในโลกของทุกๆ คน เพราะทุกคนในโลกใบนี้เป็นมนุษย์เหมือนๆ กัน

“ดังนั้น การเชื่อมโยงโลกของเราและ Yoomoota จึงไม่ได้ยากเกินเข้าใจ หากได้ลองมาสัมผัส Yoomoota คุณจะค้นพบสิ่งที่อยู่ในตัวคุณ เพราะจักรวาลในตัวคุณล้วนอยู่ใน Yoomoota Universe แล้วทั้งสิ้น”

ล่าสุด ทาราสกำลังจะมีงานแสดงเดี่ยวของเขาเป็นครั้งแรกในเอเชีย ในนิทรรศการ Yoomoota – The Universe about you ที่นำเสนอข้อมูลความรู้เกี่ยวกับร่างกาย จิตใจ และโลกรอบๆ ตัวมนุษย์ ผ่านตัวละครและเรื่องราวภายในจักรวาลและดาวเคราะห์ต่างๆ แห่ง Yoomoota

“นิทรรศการครั้งนี้เป็นการแสดงงานครั้งแรกของเราในกรุงเทพฯ เรามีผลงานแสดงหลากหลายรูปแบบ ทั้งภาพวาด เฟอร์นิเจอร์ อาร์ตทอย งานสเก็ตช์ วิดีโอสามมิติ และประติมากรรม ในนิทรรศการจะเป็นเรื่องของดาวเคราะห์ 5 ดวงจากทั้งหมด 23 ดวง โดยมีตัวละครหลักคือ Aspr1m ที่มาจากดวงดาว Curiosity (ความสงสัยใคร่รู้) ซึ่งความสงสัยใคร่รู้ของเรานี่เอง ที่ทำให้เราแสวงหาความรู้ ด้วยการตั้งคำถามว่าเรามาจากไหน และจะไปที่ไหน อนาคตของเราจะเป็นอย่างไร เหมือนตอนที่เรายังเป็นเด็กๆ ผมหวังว่าเราจะยังคงมีความสงสัยใคร่รู้ในชีวิตของเราอยู่ ซึ่งตัวละครตัวนี้ก็เดินทางไปรอบๆ จักรวาล Yoomoota และพบกับตัวละครและเรื่องราวในดวงดาวต่างๆ การเดินทางที่ว่านี้จะถูกนำเสนอในหลากหลายรูปแบบ ทั้งการ์ตูนสั้น หนังสือการ์ตูน อาร์ตทอย ฯลฯ เรายังมีวิดีโอตัวอย่างสั้นๆ และวางแผนจะทำแอนิเมชันขนาดยาวในอนาคตอีกด้วย นิทรรศการนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความพยายามในการทำความเข้าใจชีวิตของเรา และเราหวังว่าเราจะสร้างโอกาสให้ทุกคนได้เริ่มต้นทำความเข้าใจชีวิตจากตัวละครและเรื่องราวอันหลากหลายของเรา” 

นิทรรศการ Yoomoota – The Universe about you โดย Taras Yoom

จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 8 – 28 กันยายน 2566 ที่ 333Gallery, ICONSIAM ชั้น 1 โซน ICONLUXE

ตั้งแต่เวลา 11.00 – 20.00 น. (เปิดบริการทุกวัน)

- Advertisement -