Author: RUCKDEE CHOTJINDA
Photography: Courtesy of Hublot
เพียงปีเดียวหลังจากที่มีการเปิดตัว Square Bang Unico เราก็ได้เห็น Hublot ขยายคอลเลกชั่นนี้อย่างรวดเร็วด้วยการออกนาฬิการุ่นใหม่จำนวนทั้งหมด 8 รุ่นซึ่งมีระดับการประดับเพชรแตกต่างกัน 4 ระดับ ระดับแรกมีการประดับเพชรจำนวน 44 เม็ด หนัก 1.9 กะรัตบนขอบของตัวเรือนไทเทเนียมหรือคิงโกลด์ เรียกว่า Square Bang Unico Diamonds ถัดขึ้นไปเป็น Square Bang Unico Pav ซึ่งมีการประดับเพชรรวม 138 เม็ดที่หนัก 3.3 กะรัตเพิ่มเติมบนตัวเรือนไทเทเนียมหรือคิงโกลด์
ระดับที่สามคือ Square Bang Unico Jewellery ซึ่งยังคงใช้ตัวเรือนไทเทเนียมหรือคิงโกลด์เหมือนกับสองระดับแรก แต่การประดับเพชรนั้นเปลี่ยนเป็นเพชรทรงบาแก็ตคัทจำนวน 50 เม็ดบนขอบตัวเรือนและเพชรทรงกลมอีก 94 เม็ดบนตัวเรือน รวมน้ำหนักเพชรทั้งหมด 4.4 กะรัต
สำหรับระดับสูงสุดนั้นมีชื่อรุ่นว่า Square Bang Unico High Jewellery ซึ่งเมื่อมาถึงระดับนี้ตัวเรือนจะเป็นไวท์โกลด์หรือคิงโกลด์ นาฬิการุ่นนี้มีการประดับเพชรทรงบาแก็ตคัทจำนวน 48 เม็ดบนขอบตัวเรือน 128 เม็ดบนตัวเรือน 79 เม็ดบนหน้าปัดสไตล์โอเพ่นเวิร์ค แล้วยังมีอีก 30 เม็ดบนบานพับ รวมจำนวนเพชรทั้งหมด 285 เม็ด น้ำหนักรวม 17.9 กะรัต
ความตระการตาทั้งหมดนี้ตอกย้ำความโฉบเฉี่ยวของ Square Bang Unico ซึ่งเป็นนาฬิกาทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสคอลเลคชั่นแรกของ Hublot ได้เป็นอย่างดี นาฬิกาสามระดับแรกสวมใส่ด้วยสายยางสีดำที่มาพร้อมกับบานพับวัสดุเดียวกันกับตัวเรือน โดยมีเฉพาะ Square Bang Unico High Jewellery เท่านั้นที่มาพร้อมกับสายหนังจระเข้สีดำ แต่การเปลี่ยนสายเป็นวัสดุและสีต่างๆ นั้นย่อมทำได้ง่ายดายอยู่แล้วด้วยระบบวันคลิกที่มาพร้อมกับตัวเรือน
นาฬิกาทั้ง 8 รุ่นนี้มีขนาด 42 มม. และทำงานด้วยเครื่องอินเฮ้าส์ Unico รุ่น HUB1280 ซึ่งมีระบบจับเวลาแบบฟลายแบ็คโครโนกราฟพร้อมด้วยวงทดเวลา 60 นาทีที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา กำลังลานสำรองของเครื่องรุ่นนี้อยู่ที่ 72 ชั่วโมง