SkyCaptain

Share This Post

- Advertisement -

นอกจากเครื่องบินแล้ว นาฬิกาก็เป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในโลกการบิน มาทะยานสู่ฟากฟ้าไปกับผลงานล่าสุดของคอลเลกชั่นนาฬิกานักบิน Type XX จาก Breguet

Author: Pimpilai Boonjong

Photography: Courtesy of Breguet

ชื่อของ Breguet (เบรเกต์) นั้นโดดเด่นในแวดวงนาฬิกาชั้นสูง ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน รวมถึงนวัตกรรมที่อับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์ ได้สร้างไว้ให้กับโลกนาฬิกามาตั้งแต่ปี 1775 แต่นอกจากความประณีตหรูหรา เรือนเวลาของ Breguet ยังได้รับการออกแบบเพื่อการใช้งานจริงมาตั้งแต่แรกเริ่มด้วย ไม่ว่าจะเป็นทูร์บิญงที่มีผลต่อความเที่ยงตรง ระบบการกันสะเทือน ไปจนถึงนาฬิกามารีนโครโนมิเตอร์ที่ช่วยให้เรือล่องไปในทิศทางที่ต้องการ

เมื่อเทคโนโลยีของโลกเราได้รับการพัฒนาจนทำให้มนุษย์สามารถทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าได้สำเร็จ ชื่อของ Breguet ก็มีส่วนร่วมในหน้าประวัติศาสตร์การบิน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหลุยส์-ชาร์ลส์ เบรเกต์ ทายาทของผู้ก่อตั้ง มีความสนใจในด้านวิศวกรรมการบินและได้มีส่วนในหน้าประวัติศาสตร์การบิน โดยได้ประดิษฐ์เครื่องบินหลากรุ่น ทั้งเครื่องบินใบพัด และไจโรเพลนที่เป็นต้นแบบของเฮลิคอปเตอร์

และเมื่อมนุษย์ขยับเข้าใกล้ความฝันในการบินมากขึ้นเรื่อยๆ โลกนาฬิกาก็ได้เข้ามามีบทบาทในโลกการบินมากขึ้น ดังเช่นที่แบรนด์นาฬิกา Breguet ได้สร้างสรรค์นาฬิกาทั้งสำหรับติดตั้งบนแดชบอร์ดของเครื่องบิน และนาฬิกาข้อมือที่นักบินใช้เพื่อดูเวลา คำนวณเวลาในการบิน ดูทิศทาง และคำนวณเชื้อเพลิง ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตนาฬิกาให้กับกองทัพอากาศของฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการด้วย

และหากพูดถึงนาฬิกาข้อมือที่ใช้ในแวดวงการบินที่สร้างชื่อให้กับ Breguet ต้องยกให้คอลเลกชั่น Type XX (ไทป์ ทเวนตี้) ซึ่งผลิตขึ้นในทศวรรษ 1950s เพื่อใช้ในการทหาร ก่อนจะมีเวอร์ชั่นที่ผลิตเพื่อพลเรือนหรือบุคคลทั่วไป โดยชื่อรุ่น Type XX นั้นมาจากรหัสที่กองทัพอากาศใช้เรียกอุปกรณ์บอกเวลาที่ว่าจ้างให้แบรนด์นาฬิกาชั้นนำต่างๆ ผลิตเพื่อให้ทหารอากาศสวมใส่ขณะขับเครื่องบิน

ผลงานใหม่ประจำปี 2023

ในโอกาสที่ปีนี้ Breguet ได้นำคอลเลกชั่นนาฬิกานักบิน Type XX กลับมาปัดฝุ่นใหม่ ทางแบรนด์จึงได้เลือกจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ณ งานเลี้ยงที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นดินแดนเกิดและสถานที่ก่อตั้งแบรนด์นับตั้งแต่สมัยอับราฮัม-หลุยส์ เบรเกต์ นอกจากเราจะได้มีโอกาสตามรอยไปเยือนสถานที่สำคัญที่มีความเกี่ยวข้องกับ Breguet ในปารีสแล้ว หนึ่งในช่วงเวลาสำคัญก็คือการได้สัมผัสกับวิวัฒนาการของการผลิตนาฬิกานักบินของ Breguet ผ่านผลงานในอาร์ไคว์รุ่นต่างๆ ซึ่งรวมถึงนาฬิกา Type XX ที่ผลิตขึ้นในทศวรรษ 1950s จนพัฒนามาเป็น Type XXI ซึ่งเปิดตัวในปี 2001 และ Type XXII ในปี 2010

นอกจากนี้ เรายังได้มีโอกาสเยือนพิพิธภัณฑ์การบินของฝรั่งเศส (Musée de l’Air et de l’Espace) ซึ่งแสดงให้เห็นวิวัฒนาการของการประดิษฐ์เครื่องบิน ซึ่งรวมถึงผลงานสร้างสรรค์ของบริษัท เบรเกต์ เอวิเอชั่น ไปจนกระทั่งเครื่องบินคองคอร์ด ซึ่งแม้จะเลิกใช้ไปแล้ว แต่ก็เคยครองความยิ่งใหญ่ในฐานะเครื่องบินที่บินด้วยความเร็วเหนือเสียง และแน่นอนว่าบนแดชบอร์ดมีนาฬิกาของ Breguet ติดตั้งอยู่ด้วย

สำหรับผลงานใหม่ที่เปิดตัวในงานเลี้ยงซึ่งจัดขึ้นที่อาคาร Petit Palais นั้นมีสองรุ่น เริ่มจาก Type 20 Chronographe 2057 ซึ่งนำแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากรุ่น Ref. 1100 ที่เคยผลิตให้กับกองทัพอากาศฝรั่งเศสในช่วงปี 1955-1959 (ชื่อรุ่นใช้ตัวเลขอารบิก ‘20’ ตามลักษณะดั้งเดิมของรุ่นต้นแบบ) หน้าปัดสีดำด้วยกรรมวิธีกัลวานิก หลักชั่วโมง เลขอารบิก เข็ม และสัญลักษณ์สามเหลี่ยมบนขอบตัวเรือนแต้มด้วยสารเรืองแสงสีเขียวมินต์ที่มองเห็นในความมืด ทั้งยังมีวงหน้าปัดจับเวลา 30 นาที ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา และหน้าปัดวินาทีที่ 9 นาฬิกา พร้อมหน้าต่างวันที่ระหว่างตำแหน่ง 4-5 นาฬิกา ขอบตัวเรือนแบบเซาะร่องฟลุตหมุนได้สองทิศทาง จับคู่มากับสายหนังวัวสีดำ

ส่วนรุ่น Type XX Chronographe 2067 เรียกได้ว่าเป็น civilian version หรือรุ่นสำหรับพลเรือน สืบทอดเอกลักษณ์มาจากนาฬิกา Type XX สมัยยุค 1950s – 1960s ที่ผลิตจำหน่ายให้กับบุคคลทั่วไป หน้าปัดสีดำเคลือบกัลวานิก มีวงหน้าปัดจับเวลา 15 นาที ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา วงจับเวลา 12 ชั่วโมง ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และวงวินาที ณ ตำแหน่ง 9 นาฬิกา เข็มชั่วโมงกับเข็มนาทีที่มากับทรงหอกแหลมยาว และมีเข็มวินาทีเล็กกับเข็มชั่วโมงจับเวลาเป็นทรงเรียว จับคู่มากับสายหนังวัวสีกากีเย็บด้ายสีขาว

ทั้งสองรุ่นทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติโครโนกราฟซึ่งใช้เวลาในการพัฒนาทั้งสิ้น 4 ปี โดยรุ่นพลเรือน 2067 ทำงานด้วยกลไก Cal. 728 และสำหรับรุ่นกองทัพ 2057 ทำงานด้วย Cal. 7281 กลไกทั้งสองนี้ทำงานที่ความถี่ 36,000 ครั้ง/ชั่วโมง สำรองพลังงาน 60 ชั่วโมง เป็นกลไกจับเวลาแบบ column wheel บวกกับฟังก์ชัน flyback ที่เริ่มกดจับเวลาครั้งใหม่ได้ทันทีโดยไม่ต้องกดรีเซ็ตก่อน ทำให้ประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกในการใช้งานของนักบิน โดยเป็นฟังก์ชันที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1954

บรรยาากาศของงานเปิดตัวนาฬิกานักบินรุ่นใหม่ของ Breguet

ซึ่งจัดขึ้น ณ พิพิธภัณฑ์การบิน Musée de l’air et de l’espace ประเทศฝรั่งเศส

- Advertisement -