“LAMBORGHINI LANZADOR” เผยโฉมในงาน Monterey Car Week

Share This Post

- Advertisement -

LAMBORGHINI LANZADOR” เผยโฉมในงาน Monterey Car Week

เปิดมิติใหม่ของคอนเซ็ปต์คาร์ GT พลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคต ตอบโจทย์ทุกการใช้งานด้วยจินตนาการยานยนต์สุดล้ำ 

ลัมโบร์กินี (Lamborghini) เผยโฉมคอนเซ็ปต์คาร์รุ่น Lanzador ณ งาน Monterey Car Week เพื่อแสดงวิสัยทัศน์อันมุ่งมั่นของแบรนด์ในการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% แห่งอนาคตเป็นรุ่นที่ 4 โดยคอนเซ็ปต์คาร์ Lanzador นำเสนอรถยนต์กลุ่ม GT ยกสูงพร้อมที่นั่งแบบ 2+2 ภายใต้รูปลักษณ์ที่สวย มีเอกลักษณ์โดดเด่น และชูความเป็นเลิศทางเทคนิคพร้อมแนวคิดใหม่ล่าสุดในแง่สมรรถนะและประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยยังคงไว้ซึ่ง DNA ตามแบบฉบับของลัมโบร์กินีอย่างเด่นชัด มอบภาพลักษณ์แนวสปอร์ตที่ยอดเยี่ยมที่สุดในคลาสพร้อมประสิทธิภาพการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ

การนำเสนอคอนเซ็ปต์คาร์รุ่นนี้สอดคล้องตามกลยุทธ์ “Direzione Cor Tauri” และแผนงานการลดคาร์บอนและเปลี่ยนมาใช้ระบบไฟฟ้าซึ่งได้ประกาศไว้เมื่อปี 2021 ของบริษัทซูเปอร์สปอร์ตคาร์สัญชาติอิตาลีแห่งนี้ โดยหลังจากนำเสนอ Revuelto รถยนต์ระบบปลั๊กอินไฮบริดเครื่องยนต์ V12 เมื่อไม่นานมานี้ การเปิดพรีวิวรุ่น Lanzador ถือเป็นการเผยข้อมูลของรถยนต์ซีรีส์นี้ซึ่งจะเริ่มต้นผลิตในปี 2028 เป็นต้นไป “แนวทางการผลิตรถรุ่นที่ 4 นี้ เสมือนการได้เปิดตัวรถยนต์เซกเมนต์ใหม่นั่นคือ Ultra GT ซึ่งจะมอบประสบการณ์การขับขี่ลัมโบร์กินีรูปแบบใหม่ที่ไร้คู่แข่ง ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่เราได้บุกเบิกพัฒนาขึ้น” มร.สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กล่าว 

คอนเซ็ปต์คาร์รุ่นนี้ผสานสุดยอดสมรรถนะอันเป็นแบบฉบับของรถซูเปอร์สปอร์ตลัมโบร์กินี เข้ากับไลฟ์สไตล์การขับขี่ที่สนุกสนานขั้นสุด บวกกับคุณสมบัติการใช้งานแบบอเนกประสงค์เพื่อให้เป็นรถยนต์ที่สามารถขับขี่ได้ทุกวัน โดย Lanzador จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่แปลกใหม่แก่กลุ่มลูกค้าที่ “ชื่นชอบความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี” ซึ่งมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันนับเป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี ได้ประกาศแผนการนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสมรรถนะสูงในช่วงทศวรรษนี้ โดยจะยังรักษาหัวใจสำคัญและจิตวิญญาณของแบรนด์เอาไว้อย่างเหนียวแน่น ซึ่งคอนเซ็ปต์คาร์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นนี้จะเป็นรถยนต์ในกลุ่ม Gran Turismo ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ตัวถังสวยงามอย่างน่าทึ่ง การออกแบบสัดส่วนรถใหม่ทั้งหมด และประสบการณ์การเดินทางแบบเหนือชั้นที่เพียบพร้อมด้วยระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่ล่าสุด ตลอดจนการออกแบบที่สวยงามซึ่งผสานสมรรถนะขั้นสูงระดับอัลตร้าของรถสปอร์ต Revuelto และความสามารถแบบอเนกประสงค์ของรุ่น Urus “การนำเสนอคอนเซ็ปต์คาร์รุ่นที่ 4 ทำให้เราเดินหน้าสู่อนาคตโดยที่ยังไม่หลงลืม DNA ของเรา โดยรถคูเป้คันแรกจากลัมโบร์กินีที่มีเครื่องยนต์วางหน้าแบบ Gran Turismos แนวสปอร์ตที่หรูหราสง่างาม และเหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันจะเป็นรถยนต์แบบ 2+2 ที่นั่ง ซึ่งแนวคิดการผลิตรถรุ่นที่ 4 นี้ได้นำปรัชญารถซูเปอร์สปอร์ตของ

เรามาผสานกับเทคโนโลยีที่กล้าแกร่งรูปแบบใหม่ ตลอดจนงานดีไซน์ที่เด็ดเดี่ยว ซึ่งสอดรับกับกลยุทธ์ Direzione Cor Tauri ของเราได้อย่างลงตัว” มร.สเตฟาน วิงเคิลมันน์ อธิบาย

เทคโนโลยีสุดล้ำ – การขับขี่ระบบไฟฟ้า 100% ด้วยการกระจายแรงแบบแปรผัน

ลัมโบร์กินีนำเสนอคอนเซ็ปต์คาร์ที่ไม่ใช่แค่รถ Gran Turismo แบบดั้งเดิม แต่เป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่เหนือล้ำกว่ายนตรกรรมทั้งมวล มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงที่ติดตั้งกับเพลาแต่ละตัว จะสร้างความมั่นใจถึงการขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า100% ได้ตลอดเวลาในทุกสภาวะ พื้นผิว และสไตล์การขับขี่ พร้อมให้กำลังไฟสูงสุดมากกว่าหนึ่งเมกะวัตต์ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อยังมี active e-torque บนเพลาหลังเพื่อการเข้าโค้งที่เร้าใจแบบไดนามิก ซึ่งได้รับการปรับแต่งมาอย่างประณีตให้เหมาะสำหรับทุกสถานการณ์ พลังงานของตัวรถมาจากแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่เพื่อการันตีว่าจะสามารถวิ่งได้ระยะทางไกล “การใช้พลังงานไฟฟ้าสำหรับเรา ไม่ได้หมายถึงข้อจำกัด แต่เป็นโอกาสอันชาญฉลาดในการพัฒนาสมรรถนะและขีดความสามารถในการขับขี่ให้สูงขึ้น” มร.รูเว็น โมห์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค ลัมโบร์กินี กล่าว ดังนั้นในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์จึงไม่มีการลดประสิทธิภาพในแง่ของกำลังเครื่อง ความรื่นรมย์ในการเดินทาง และประสิทธิภาพการขับขี่ และนี่คือรถยนต์ลัมโบร์กินีพลังงานไฟฟ้า 100% ที่นักขับสามารถใช้งานได้ทุกวันอย่างเพลิดเพลิน

อย่างไรก็ดี ไม่แค่เฉพาะส่วนฮาร์ดแวร์เท่านั้นที่เป็นตัวกำหนดนิยามของรถยนต์ลัมโบร์กินีพลังไฟฟ้า100% สมรรถนะสูงแห่งอนาคต แต่ยังรวมถึงซอฟต์แวร์และระบบควบคุมด้วยเช่นกัน “ลัมโบร์กินีพร้อมสร้างนิยามและความแตกต่างแห่งอนาคตให้กับตัวเอง ด้วยกลยุทธ์ระบบควบคุมแบบแอ็กทีฟที่สมบูรณ์แบบ เราได้ยกระดับระบบควบคุมการขับขี่ไดนามิกส์แบบบูรณาการของลัมโบร์กินีสู่มาตรฐานใหม่ซึ่งยังไม่เคยมีมาก่อนในการผลิตรถสปอร์ต เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบแนวใหม่ให้แก่ลูกค้าของเรา” มร.รูเว็น โมห์ อธิบาย “การหาจุดสมดุลที่เหมาะสมระหว่างกำลัง สมรรถนะ ระยะทาง และอากาศพลศาสตร์ ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการพัฒนา แต่ความท้าทายก็คือรากฐานสำคัญของศูนย์วิจัยและพัฒนารถยนต์ลัมโบร์กินีมาโดยตลอด”

- Advertisement -