‘SAVA AFTERNOON TEA WITH NORITAKE’
เชื่อว่าหลายคนอยากจะใช้เวลาสบายๆ ในช่วงบ่ายกับขนมอร่อยๆ ที่เสิร์ฟมาอย่างพิถีพิถันในภาชนะอย่างดีระดับของสะสม เมื่อทราบว่า SAVA (ซาว่า) ร้านอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นจะมีเซ็ตน้ำชายามบ่ายโดยร่วมกับ NORITAKE (นอริตาเกะ) แบรนด์เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารชื่อดังระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น ก็ทำให้ต้องตั้งตารอ

สำหรับคนในแวดวงที่ประณีตกับการใช้ชีวิตหรือแม้แต่คนที่มีใจรักในเครื่องกระเบื้องจะต้องทราบดีว่านอริตาเกะ คือเครื่องกระเบื้องชั้นสูงของญี่ปุ่นคุณภาพระดับเวิลด์คลาส และเป็นของสะสมที่จะส่งต่อกันจากรุ่นถึงรุ่น ความฝันของสาวไทยยุคหนึ่งก็คือมีชุดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารของนอริตาเกะ ครบชุด แล้วได้ส่งต่อจากรุ่นถึงรุ่น
แม้จะมีชื่อเสียงมายาวนานแต่รูปลักษณ์ของเครื่องกระเบื้องนอริตาเกะ ไม่ได้เป็นของคลาสสิกแต่มีลวดลายทันสมัยสวยงามตามเทรนด์ของไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ เมื่อมีโอกาสได้เป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่ได้ไปสัมผัสเมนูสุดโก้ของ SAVA (ซาว่า) และ NORITAKE (นอริตาเกะ) ที่ชั้น m ดิเอ็มโพเรียม ก็เข้าใจเลยว่าทำไมจึงเป็นการจับคู่ที่สุดพิเศษ ถ้าใครเคยแวะมาที่ซาว่า ที่นี่จะชื่นชอบทำเลที่แวดล้อมไปด้วยแบรนด์เนมแฟชั่นต่างๆ แต่ส่วนนี้ไม่ดูพลุกพล่าน มีความเป็นส่วนตัวและตกแต่งอย่างสวยงาม ที่สำคัญอาหารอร่อยมาก

แต่วันนี้เรามาสัมผัสกับชุดน้ำชาที่แค่วางจานนอริตาเกะสำหรับแต่ละท่านก่อนของว่างและน้ำชาจะมาเสิร์ฟก็ชื่นตาแล้ว เพราะลวดลายของภาชนะที่เลือกมาใช้เข้ากับลวดลายของวอลเปเปอร์และกระดาษรองจานที่เป็นลายแบบ Toile de Jouy (ตวล เดอ ฌุย) คือเก๋จริงและชุดน้ำชาจะมีถ้วยและจานสีต่างๆ เสมือนยกสวนดอกไม้มาไว้บนโต๊ะทั้งๆ ที่ไม่ใช่ลายดอกไม้ แต่สิ่งหนึ่งที่เสมือนหัวใจของนอริตาเกะ คือ ไม่ว่าจะลวดลายใดสีสันแบบไหนก็จะมีความโก้หรู
โดยการเสิร์ฟเซ็ตของว่างยามบ่ายในเครื่องกระเบื้องที่ชื่อ‘CARNIVALE’(คาร์นิวาล) คอลเลกชั่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกกับเมนูนี้ โดยเซ็ตชายามบ่ายนี้พร้อมให้บริการ ในจำนวนจำกัดต่อวันเพียงวันละ 12 เซ็ตเท่านั้น ราคาเซ็ตละ 1,250++ บาท (หนึ่งเซ็ตสำหรับสองท่าน) ระหว่างเวลา 14:00– 17:00 น. ซึ่งประกอบด้วยอาหารและเครื่องดื่ม 4 ประเภท 12 เมนูพิเศษ ด้วยกันจากการร่วมกันรังสรรค์กับเชฟขนมหวานชื่อดัง เชฟสุธากร สุวรรณโชติ



มาดูที่ชาก่อนว่าเราจะเลือกชาชนิดใดได้บ้าง ที่นี่เขาเสิร์ฟชา Mariage Frères 1 กา ใครคิดถึงชายี่ห้อนี้ต้องมา คือว่าไปแล้วชา Marcopolo ของมาริยาร์จ แฟร์ส ได้สร้างบรรทัดฐานการรับรู้ชาชั้นเลิศของคนไทย นี่ต้องยอมรับแม้จะมีให้ชิมได้ที่โรงแรมสุหรูริมแม่น้ำเข้าพระยาหรือไม่ก็ต้องไปปารีส และไม่เคยมีหน้าร้านในเมืองไทยเลย แต่วันนี้เรามาดื่มชา Mariage Frères ได้ที่นี่ เขามีให้เลือก 4 รส ได้แก่ Marcopolo, Casablanca, Rouge Bourbon และ Milky Blue Absolu อย่างหลังนี้ก็คือชาจริงๆ นี่แหละ แต่ให้กลิ่นหอมแบบมีนมผสมเข้าไปโดยไม่ต้องใส่นม หลายคนชิมแล้วติดใจ ส่วนใครอ่อนไหวต่อกาเฟอีนก็เลือกชาแดง Rouge Bourbon ใครชอบชากลิ่นมิ้นต์หอมๆ ก็ Casablanca ใครเคยชิมก็จะรู้ว่าไม่ใช่ชามิ้นต์แบบที่เราคุ้นเคยแต่มีความละมุนกว่าเยอะ ที่นี่เราขอเติมน้ำร้อนได้นะ คือเขาไม่หวงว่าต้องสั่งกาใหม่ แต่เติมครั้งเดียวพออย่าเติมรอบสองรอบสามคือรสชาจะไม่ได้มาตรฐานละ สั่งใหม่ชิมชารสอื่นๆ ดีกว่า(ไม่อยู่ในเซ็ต แต่ก็จ่ายเพิ่มไป หมายถึงจะสั่งชาใหม่นะ)
เราเริ่มจาก Savoury (เครื่องคาว) ที่มีแซนด์วิชแซลมอนครีมชีส และ แซนด์วิชแฮมและชีส ที่อร่อยด้วยการเลือกวัตถุดิบอย่างดี ต้องมาลอง คีชแฮม และ คีชเห็ด คือดีงาม เขาทำแป้งคีชได้บางแต่มีรสชาติและไส้คีชอร่อยกลมกล่อม ชอบมะเขือเทศที่วางด้านบนทำให้รู้สึกสดชื่น ต้องลองชิมให้ครบเพราะอร่อย คือเขาจะเสิร์ฟมาบนจานใหญ่ที่แบ่งได้สองท่าน แต่สามท่านเขาก็เสิร์ฟ แต่สี่ท่านก็สั่ง 2 เซ็ตเถอะ

มาถึงของว่างกับน้ำชา Sweets (เครื่องหวาน) มาชิ้นเล็กๆ พอคำ ทุกอย่างมีสำหรับสองท่านคนละชิ้นไม่ต้องแบ่งกัน มัฟฟินมะตูมคือดีงาม เค้กโรลใบเตยใครที่คิดว่าเบาิคก็ต้องมาลองชิม เชฟทำรสชาติกลมกล่อมและหอมใบเตยแบบกำลังดี อยากกินอีกหลายๆ ชิ้นเลย ส่วนบลูเบอร์รี่ทาร์ตนี่ของโปรดโดยส่วนตัว ชอบความชิ้นเล็กแต่ให้บลูเบอร์รีมาพูนๆ อยากสั่งเฉพาะทาร์ตนี้มากินให้จุใจ แต่อย่าเลยขนาดคนกินจุมากินเซ้ตน้ำชานี้ก็อิ่มแล้ว เติมความจี๊ดจ๊าดด้วยทาร์ตมะนาวมาร์ชเมโลว์ต้องบอกว่าเลมอนเคิร์ดที่เป็นไส้ทาร์ตคือหอมมะนาวละมุนมาก นึกถึงมะนาวคาปรีในไอศกรีมกรอม
ใครที่กลัวไม่จุใจเขามี Plated Desserts (เครื่องหวานจานหลัก) สองจานนี้เชฟทำมาให้เป็นพิเศษ เป็นไฮไลท์ของเซ็ตนี้ ไม่มีที่ไหนนอกจากที่นี่ คือ มะพร้าวพาเฟ่ท์สาคูเมลอน หรือ โทสต์ขนมปังบริออชราดซอสชาไทย ดีงามเหลือเกินเขาเสิร์ฟมาจานใหญ่จานเดียว(อย่างละจาน) แต่ตักแบ่งกันได้ ก็ไม่นึกเหมือนกันว่ามะพร้าวกับสาคูจะเข้ากับเมลอน แต่มานึกอีกทีก็แตงไทยน้ำกะทิไงก็อ๋อใช่ นี่คือการยกระดับขนมหวานไทยที่ทุกคนคุ้นเคยให้มีรูปลักษณ์ที่เป็นสากลขึ้นและทำให้มีรสชาติที่ละมุนมากยิ่งขึ้น คือเมลอนกับแตงไทยก็มีความดีเด่นไปคนละแบบ แต่แตงไทยคงไม่เข้ากับการสร้างสรรค์แบบนี้ ต้องบอกว่าหลงรักเลยจานนี้
ส่วนขนมปังชาไทยอาจจะไม่เซอร์ไพร้สมาก แต่นี่ไม่ใช่ขนมปังปอนด์แต่เป็นบริออชที่ทำขึ้นจากส่วนผสมหลักคือไข่และเนยมีความพรีเมียมหอมทั้งเนยทั้งไข่ แต่วอสชาไทยของเชฟก็ต้องบอกว่ารสชาติดีมาก เป็นไฮไลท์ที่จบมื้อน้ำชานี้อย่างดงาม







สัมผัสอีกระดับของประสบการ์ณการจิบน้ำชายามบ่ายกับ‘SAVA AFTERNOON TEA WITH NORITAKE ได้แล้ว ที่ร้านอาหาร SAVA MODERN THAI FLAVOUR ที่บริเวณชั้น M ศูนย์การค้า The Emporium (ใกล้ๆบริเวณร้าน Bulgari, Loewe, Fred และ Maxmara) โดยสามารถโทรสำรองที่นั่งได้ที่เบอร์ 02-664-8207
#sava #savaafternoontea #noritake_th