บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์กลับมาพร้อมอัลบั้มใหม่ ‘Starlight Express’ สมกับการรอคอย

Photographer: Napat Gunkham

Interview Conducted by: Pacharee Klinchoo

Interview Rearranged by: Peerachai Pasutan

“ไม่น่าไม่รีบเลย” บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ หยอกตัวเองจนพวกเราขำกัน เมื่อเขาเกริ่นถึงอัลบั้มชุดล่าสุด ‘Starlight Express’ ที่ใช้เวลาทำโดยรวมถึงเกือบหนึ่งทศวรรษ เนื่องจากต้องดูแลกิจการครอบครัวและสุขภาพของตัวเองด้วยในขณะนั้น “พอทุกอย่างมันเริ่มเข้าที่ จนมีคอนเสิร์ต Disco in Tuxedo เมื่อปี 2019 ตอนนั้นคุยกันไว้แล้วแหละว่าจะออกอัลบั้ม ปรากฏว่าโควิดมา ทุกอย่างชะงัก อัลบั้มนี้เลยอยู่ในการทำงานถึงเก้าปีเต็มๆ ถึงจะทำเสร็จไว้หมดแล้ว แต่ถ้าปล่อยทุกอย่างไปตอนล็อกดาวน์ มันก็เท่านั้น…” หลังจากสถานการณ์ทุกอย่างเริ่มกลับมาเป็นปกติ เขาก็ปล่อย ‘สิ้นสุดการรอคอย’ เพลงสุดท้ายในอัลบั้ม เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันเกิดเจ้าตัวพอดี

บุรินทร์เล่าถึงสารตั้งต้นในการทำเพลงต่อว่า “ในอัลบั้ม Starlight Express ผมอยากจะทำยุคเออร์ลี่ ’80s แล้วก็ศึกษาว่า ในยุคนี้มีอัลบั้มไหนที่ดีบ้าง ก็จะมีอัลบั้มหนึ่งที่ชอบที่สุดคือ ‘Thriller’ ของไมเคิล แจ็กสัน เราก็ยึดซาวด์ของยุคนี้ [มาใส่ในเพลง] พวกผมเลยชอบทำดนตรีก่อน พอตรงนั้นเสร็จก็เริ่มเรียบเรียง [หาว่า] ใครควรจะเขียนเพลง เรื่องราวจะเป็นยังไง เราจะทำงานกันอย่างนี้ตลอด” นอกจากนี้ เขายังอยากให้ทุกคนฟังเพลงทั้งหมดต่อกัน เพราะคอนเซปท์ทางดนตรีและเนื้อหาร้อยเรียงเป็นหนึ่งเดียวทั้งอัลบั้ม “ฟังเพลงผม ถ้าฟังแค่ซิงเกิลอย่างเดียว ผมว่าเรื่องมันไม่จบ อย่างเพลง ‘ในฝัน’ ผมอ่านคอมเมนต์ของหลายๆ คน แล้วเขาเขียนว่า ‘พี่ครับ นี่พี่ตั้งใจอั้นใช่มั้ยครับ ทำไมเพลงมันไม่ระเบิดสุดครับ’ ผมก็ไม่ได้ตอบนะแต่อ่านแล้ว เขาเข้าใจเรา… [สมมติว่า] คุณเคยเจ็บใจมาก แต่ไม่สามารถปลดปล่อยออกไปได้ คุณเล่าให้ใครฟังไม่ได้…. มันเป็นความรู้สึกแบบนั้น ผมถึงต้องอั้นเอาไว้ แต่ในอัลบั้ม ถ้าคุณฟังจนจบ ผมให้คุณปลดปล่อยได้ทุกๆ อย่างเลย” อย่างไรก็ดี เราก็สงสัยว่า เพลงบางเพลงจะล้าสมัยไปไหมในวันนี้ หลังจากที่เก็บไว้มานาน “มันไม่ได้เชย แต่ก็ไม่ได้ใหม่ขนาดนั้น ไม่ใหม่เท่าที่เราตั้งใจจะออกตอนหลายปีที่แล้ว คือมีคนที่ทำเพลงแบบนี้ออกมาบ้างแล้ว แต่ไม่ใช่ในเมืองไทยนะครับ อย่างเพลงแนว gospel ที่ร้องในโบสถ์กัน หรือแนวนิวโซล ก็ยังไม่มีใครทำชัดเจนขนาดเราในบ้านเราครับ”

เพราะพฤติกรรมการบริโภคสื่อได้เปลี่ยนไปมาก บุรินทร์ – ในฐานะที่อยู่ในวงการมาตั้งแต่สมัยเทป/ซีดี/วิทยุ จนถึงยุคสตรีมมิ่ง – จึงคิดว่าการทำเพลงให้ได้รับความนิยมยาวๆ นั้นยากขึ้นกว่าในอดีต “[เพลงเพลงนั้น] ต้องถูกใจคนฟังจริงๆ โดนจริงๆ ในขณะนั้น เมื่อก่อนจะตื่นเต้นเวลาที่เดินไปไหนแล้วมีคลื่นวิทยุเปิดเพลงเรา มันตื่นเต้นกว่า ปัจจุบันทุกคนใช้เฮดโฟน เราเลยไม่ได้ยินเลยว่าเขาฟังอะไรอยู่ (หัวเราะ) พูดจากใจศิลปินเลยนะ เราจะเช็คยากว่าเพลงมันโดนหรือไม่โดน” แต่สำหรับตัวบุรินทร์เองนั้น เขาไม่เคยกดดันตัวเอง หรือคาดหวังการตอบรับจากสาธารณชน “เพราะเราปล่อยทุกอย่างให้เป็นออร์แกนิก ไม่คาดหวัง… ผมว่าเพลงเพลงหนึ่งอาจจะไม่ได้อยู่กับคุณในวาระนี้ แต่พอคุณโตขึ้นหรือผ่านสถานการณ์ต่างๆ มา แล้วกลับมาฟัง มันอาจจะเป็นเพลงที่ดีที่สุดของคุณก็ได้ครับ แต่ยังตื่นเต้นเหมือนเดิมนะ [ทุกครั้งที่ออกผลงานใหม่]” อย่างไรก็ดี บุรินทร์ก็ดีใจมากที่แฟนๆ ให้ความสนใจและชื่นชอบอัลบั้มชุดใหม่นี้ “มันจะมีเพลง ‘ขอโทษ’ ที่อยู่ในอัลบั้ม Starlight Express ครับ ตอนแรกก็ไม่ค่อยกล้าเล่น เพราะไม่รู้ว่าเพลงไปถึงคนฟังแล้วหรือยัง เช็คยอดวิว YouTube สิบกว่าล้านก็จริง แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นคนกลุ่มไหนฟัง [วันหนึ่ง] เผอิญไปเล่นที่เชียงใหม่ แล้วอยู่ดีๆ ก็มีแต่คน [ตะโกนขอเพลง] ‘ขอโทษๆ’ พอผมเริ่มร้องขึ้นมา เลเวล[คนร้องตาม] เท่ากับเพลง ‘หยุด’ เลย แล้วมือไม้ทุกคนแบบทะเลดาวผมเลย [คิดในใจว่า] ‘มันได้ว่ะ’”

พอพูดถึงเรื่องนี้ เราจึงชวนบุรินทร์คุยถึงการออกทัวร์คอนเสิร์ต หลังจากมาตรการป้องกันโควิดคลี่คลายลงไปเสียหน่อย “รับงานเหมือนร้อนเงินเลยครับ (หัวเราะ) คือเราอยากเล่นอะ จังหวัดที่ไม่เคยไปเล่น ผมรับหมด อย่างแม่สายก็ไม่เคยไป ตอนแรกก็สงสัยว่าจะมีแฟนเพลงที่นั่นไหม ปรากฏว่ามีคนมาดู 700-800 คนเลยครับ” และงานแสดงเหล่านี้ก็เพิ่มพลังให้ตัวบุรินทร์เองและแฟนคลับของเขา “ผมว่าบนเวทีเราต้องดูสนุกก่อน คนดูถึงได้รับอรรถรสนั้น ยิ่งคนดูมันเท่าไหร่ ผมยิ่งมันกว่าคนดูอีก เพราะเป็นเอนเนอร์จี้ที่ส่งต่อกันไปมา พอลงมาเรายังสนุกอยู่เลย นอนไม่หลับ อะดรีนาลินมันหลั่ง” และความสนุกอีกอย่างจากการออกไปร้องเพลงตามสถานที่ต่างๆ คือการทำการบ้านก่อนขึ้นแสดง “คือผมจะเลือกเพลย์ลิสต์ที่ถูกต้องกับสถานการณ์นั้นๆ ผมจะดูว่าคนดูเป็นคนรุ่นไหน [หาก] เล่นเพลงที่ใหม่เกินไปให้คนรุ่นเก่าฟัง [เช่น] พอเอา ‘ขอโทษ’ ไปเล่นให้คนอายุ 30 อัพฟัง [บรรยากาศ] ก็ดร็อปและอาจไม่โดนกับความทรงจำของเขา เพราะฉะนั้น ผมว่าต้องฉลาดในการเลือกเพลงหน้างานให้ดีครับ”

ด้วยวัยวุฒิและประสบการณ์ วันนี้ บุรินทร์ก็ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินรุ่นใหม่ๆ เหมือนที่นักดนตรีรุ่นพี่จาก Bakery Music คอยเป็นเมนเทอร์ให้เขาในช่วงเริ่มเข้าวงการ “มีมาเรื่อยๆ ครับ น้องๆ ศิลปินหลายคนบอกว่า ‘ผมฟังเพลงพี่ตั้งแต่เด็ก พี่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมมาทำเพลงแบบนี้’ รู้สึกดีครับที่คนมาชื่นชมผลงานและตัวตนของเรา แต่ผมก็บอกกลับไปว่า ‘อย่าเอาผมเป็นแบบอย่างเลย ไม่ดีหรอก’ (หัวเราะ) อย่างไปเจอบิวกิ้นมา เขาก็บอกว่าเป็นแฟนเพลงผม ถ้ามีโอกาสก็อยากจะร่วมงานกัน ผมก็แฮปปี้นะที่เข้าถึงเด็กรุ่นนี้ด้วยนะ” ยิ่งบุรินทร์แง้มว่ากำลังมีโปรเจกต์ใหม่ที่เชิญศิลปินทั้งไทยและต่างชาติมาร่วมงาน เราก็เชื่อว่าชื่อของเขาจะได้รับการจำจด และอยู่ในใจของผู้ฟังทุกกลุ่มทุกวัยเช่นนี้ไปตลอด

ฟังเพลงในอัลบั้ม Starlight Express ได้แล้วในทุกช่องทางสตรีมมิ่ง และชมเอ็มวีซิงเกิล สิ้นสุดการรอคอย ทาง YouTube channel: Move Records