Entering to the next era.

ทุบทุกความเชื่อของเหล่ากูรูวงการแฟชั่นที่คิดว่าแฟชั่นจะกลับสู่ความเป็นมินิมัล เพราะมหากาพย์แห่งแฟชั่นจากรันเวย์ของ Louis Vuitton ที่เปลี่ยนสะพาน Pont Nuef ให้กลายเป็นรันเวย์สำหรับคอลเลกชั่นฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน 2024 ของสุภาพบุรุษ ภายใต้ผู้อำนวยการสร้างสรรค์คนใหม่ Pharrelle Williams ที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นภาพแคมเปญโดยแม่สาวรีฮันนาที่ใหญ่ปิดส่วนหนึ่งของด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ดอร์กเซย์ หากนั่นยังไม่ได้บอกอะไรมากกว่าเสื้อที่พิมพ์ลายพิเซลสีเข้ม กับการถือแก้วเครื่องดื่มแบบพกพาในมือ รวมทั้งกระเป๋าที่คล้องเต็มแขน ซึ่งทั้งหมดนี้คือไอเท็มสุดฮ็อตที่ปรากฏในแฟชั่นโชว์ แม้แต่แก้วกาแฟซึ่งไม่ใช่พร็อบในการถ่ายภาพแต่อย่างใด แต่จะมีให้ช้อปแน่ๆ ในร้านหลุยส์ วิตตอง

แฟชั่นสำหรับทุกๆ คนแต่ไม่ใช่ของโหลอาจจะพอจำกัดความคอลเลกชั่นนี้ได้ ทุกชิ้นคือความพิเศษของแต่ละบุคคล และทุกคนจะมีชิ้นที่ตัวเองปรารถนาจะเป็นเจ้าของและไม่เกินเอื้อมเพราะมีตั้งแต่ถุงเท้า(มีกระเป๋าเล็กๆ ด้านข้าง) เครื่องประดับชิ้นเล็กๆ กระเป๋า Speedy ดีไซน์ใหม่ ไปจนถึงหีบเดินทางลายพรางหรือลายพิเซล ที่นายแบบขับรถกอล์ฟที่มีหีบเดินทางดีไซน์ล่าสุดวางอยู่ด้านหลังมาวิ่งเป็นส่วนหนึ่งในโชว์เพื่อให้เห็นว่าหีบเดินทางเหล่านี้คืออีกไฮไลท์หนึ่งของคอลเลกชั่น


ที่บอกทุบความเชื่อว่ากระแสมินิมัลส์ของยุค 90s กำลังจะมาเพราะกูรูต่างคาดการว่าคนคงเร่ิมเบื่อกับความ More is Morer ควรจะหวนกลับไปสู่ความโก้เท่แบบมินิมัลส์เสียที บางคนก็คิดว่าการที่หลุยส์ วิตตอง ปรับเปลี่ยนวันแสดงแฟชั่นโชว์แบบกระทันหันมาเป็นวันแรกของปารีสแฟชั่นวีคเพราะต้องการให้ทุกคนโฟกัสว่านี่คือเทรนด์ของฤดูร้อนหน้าจากปารีสโดยไม่ต้องถูกเปรียบเทียบกับใคร แต่จะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ก็ทำให้ทุกคนต้องดั้นจากมิลานแฟชั่นวีคมาให้ทันงานนี้ในวันที่พนักงานสนามบินของมิลานหยุดงานเพื่อประท้วงทำให้หลายๆ สายการบินยกเลิกเที่ยวบิน


แต่คอลเลกชั่นนี้กลับทำให้ความรู้สึกอยากจะมินิมัลส์กลายเป็นสิ่งที่ยังไม่ถึงเวลาหรือเปล่า Dandy ที่เป็นหนึ่งในหลายๆ คำจำกัดความของคอลเลกชั่นแสดงให้เห็นถึงความสำรวยช่างแต่งตัวที่ไม่ได้หมายถึงความเยอะ ไข่มุกและคริสตัลจึงถูกกนำมาใช้ในการประดับประดาอย่างมาก รองเท้าที่ประดับด้วยคริสตัลทั้งสองข้างสวยงามเกินกว่ารองเท้าสีแดงของโดโรธี(จากเรื่องพ่อมดแห่งออซ)อย่างแน่นอน แถบไข่มุกบนแถบไหล่เรื่อยมาจนถึงปลายแขนเสื้อ ไข่มุกประดับประดาบนลายเสื้อ ใช้แทนกระดุม หรือแม้แต่รอบๆ กรอบแว่นตากันแดด รวมถึงแถบครอบศีรษะที่ด้านหนึ่งเป็นแว่นตากันแดดก็ประดับมุกเรียงรายอย่างสุดเท่
ที่สุดเท่อีกอย่างก็คือแว่นตากันแดดที่มีฝาครอบด้านหน้าเลนส์แบบกล้องถ่ายรูป ที่ตั้งใจมาสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับแว่นตากันแดดว่ามีส่วนตกแต่งอื่นๆ อีกมากที่จะทำให้แว่นตานั้นมีดีไซน์ที่พิเศษยิ่งขึ้น


ในขณะที่ฟาเรลล์ คิดนำหลุยส์ วิตตอง ไปข้างหน้าแต่เขาไม่ลืมรากของแบรนด์ เขาจึงนำหีบเดินทางมาสร้างสรรค์ให้มีรูปแบบใหม่ ทั้งหีบทำจากทองแดงลายโมโนแกรม หรือหีบลายพราง Atari pixel edition 8-bitโดย ET Artist นอกจากนี้ฟาเรลล์ ยังร่วมงานกับศิลปิน Henry Taylor ชาวอเมริกันอีกด้วย
ส่วนรองเท้าบู๊คลายพิเซลแบบอันเตอร์บู้ตก็เป็นอีกหนึ่งที่ไซน์ที่มาช่วยทำให้ลุคดุสตรองขึ้น ไม่ว่าจะสวมกับกางเกงขาสั้นหรือกระโปรง จะเห็นว่าเขาเลือกกระโปรงมาเป็นสิ่งตัดเลี่ยนโดยไม่ทิ้งความมาสคิวลีน เพราะเป็นกระโปรงพลีทขนาดใหญ่ในแบบคิลท์ของชาวสก็อต


งานออกแบบของเขาจะมีการคุมให้ทุกอย่างไปทางหนึ่งทางเดียวกัน มีดีไซน์ที่มาตัดเลี่ยนหรือตัดความจำเจบ้างแต่ทั้งหมดจะไปแนวเดียว อย่างซิลลูเอทของชุดที่ไม่ได้เยอะจนวุ่นวายแต่มีลวดลายที่มาทำไม่ให้น่าเบื่อ อย่างลายดาเมียร์ หรือลายตารางสุดคลาสสิกของเมซงจะทำให้ดูพิเศษด้วยสีสันหลากหลาย โดยนำเอา DAMOFLAGE / Damier มาผสมผสานให้เป็นสิ่งใหม่ โดยมีการนำเอาดอกโมโนแกรมมาเป็นส่วนประกอบเล็ก ๆน้อยๆ หรือการใช้ตัวย่อ LV มาสร้างสรรค์ใหม่เป็น LV overs ที่อ่านเป็น LV Lovers ได้


เช่นเดียวกับสะพานปงเนิร์ฟที่เชื่อมพื้นที่สองข้างของแม่น้ำแซนเข้าด้วยกัน สะพานนี้ยังเป็นสิ่งที่เชื่อมเวอร์จิเนียบีชกับปารีสเข้าด้วยกัน(ฟาเรลล์มีพื้นเพอยู่ที่เวอร์จิเนียบีช รัฐเวอร์จิเนีย) เขาได้หลุยส์ วิตตองก้าวเข้าสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่อย่างดงาม หมดความกังขาว่าเขาจะสืบทอดสิ่งที่ครีเอทีฟคนก่อนๆ ของหลุยส์ วิตตอง ได้ทำไว้ได้หรือไม่ จากการได้ไป ReeSee ในวันนี้ทำให้รู้สึกได้ว่ายุคใหม่แผ่นดินใหม่ของหลุยส์ วิตตองได้เร่ิมขึ้นแล้ว