Lenny Kravitz : The Artist.

Share This Post

Lenny Kravitz นักดนตรีร็อคแนวหน้าที่ก้าวข้ามผ่าน สไตล์ เชื้อชาติ และชนชั้นตลอดเส้นทางอาชีพนักดนตรีกว่าสามทศวรรษ ผู้หลงใหลในจิตวิญญาณร็อค เป็นผู้เขียนบท โปรดิวเซอร์ และสร้างสถิติเป็นผู้ชนะ Grammy® Awards มากที่สุดในสาขา”การแสดงเพลงร็อกชายยอดเยี่ยม” เรามาทำความรู้จักกับเขากับจากการที่เขาได้ร่วมงานกับ Jaeger-LeCoultre และรู้จักตัวตนที่แท้จริงของศิลปินมากความสามารถท่านนี้

- Advertisement -


นอกจากสตูดิโออัลบั้ม 11 ของเขาที่ทำยอดขายได้ 40 ล้านแผ่นทั่วโลกแล้ว ศิลปินหลากมิติผู้นี้ยังมีผลงานภาพยนตร์ โดยแสดงเป็น Cinna ใน The Hunger Games และ The Hunger Games: Catching Fire คราวิตซ์ยังแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Precious และ The Butler
Kravitz Design InC. บริษัทสร้างสรรด์ของเขานำเสนอผลงานที่น่าประทับใจเกี่ยวกับการลงทุนที่น่าจดจำ ซึ่งรวมถึงอสังหาริมทรัพย์โรงแรม โครงการคอนโดมิเนียม ที่พักอาศัยส่วนตัว และแบรนด์ระดับไฮเอนด์ระดับตำนานอย่าง Rolex, Leica และ Dom Perignon ในปี 2022 เขาได้เปิดตัวแบรนด์เดรื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับพรีเมียมของตัวเองอย่าง Nocheluna Sotol
เขายังได้รับการยอมรับจาก CFDA ในปี 2022 ด้วยรางวัล “Fashion Icon Award” จากการเป็นผู้มีอิทธิพลทางแฟชั่นที่สำคัญอีกด้วยคราวิตซ์ ยังเป็นผู้เขียน Flash หนังสือที่นำเสนอภาพถ่ายหินที่ไม่เหมือนใคร ส่วนบันทึกความทรงจำล่าสุดของเขา Let Love Rule ติดอันดับหนังสือขายดีของ New York Times
Lenny เปิดตัวอัลบั้มเต็มชุดที 11 ชื่ออัลบัมว่า Raise Vibration ในปี 2018 ปัจจุบันเขาทำหน้าที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์และภาพลักษณ์ระดับโลกให้กับ YSL Beauty’s Y cologne ล่าสุดเขาได้รับเลือกให้เป็นผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็น Hollywood Walk of Fame ประจำปี 2023
มาทำความรู้จักตัวเขาให้มากขึ้น จากการได้พูดคุยกับเขาในการร่วมงานกับ Jaeger-LeCoultre

คุณค้นพบแรงบันดาลใจได้จากที่ไหน ?
แรงบันดาลใจของผมเกิดจากการดำเนินชีวิต ทุกๆแง่มุมของมัน ชีวิตไม่เคยหยุดยั้งการเสริมสร้างจิตนาการต่างๆให้กับผม

อะไรจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ของคุณ โดยปกติแล้วเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติหรือคุณพยายามสร้างมันขึ้นมา ?
ความคิดสร้างสรรค์ของผมเกิดขึ้นมาโดยธรรมชาติ ผมพยายามไม่เข้าไปก่าวกายและปล่อยให้มันไหลลื่นเสียมากกว่า ฉะนั้นในหลายๆครั้งผมฝันถึงเพลงของผม ความคิดสร้างสรรค์ของผม หลังจากนั้นก็นำมาปรับใช้ ทำให้เกิดขึ้นจริง มันค่อยข้างจะเป็นอะไรที่บริสุทธิ์มาก ปราศจากความพยายามตัดสินใดๆ

ปกติคุณใช้เวลานานเท่าไหร่ในการแต่งเพลงเพลงหนึ่ง และเจออุปสรรคอะไรบ้างไหม ?
ผมสามารถเขียนเพลงเพลงนึงขึ้นมาได้ภายใน 5 นาทีถึง 5 สัปดาห์ ผมไม่สามารถคาดเดาได้ว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นเช่นไร โดยปกติมันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแบบรวดเร็วมาก ผมเคยมีอุปสรรคในการเขียนเพลงตอนผมกำลังทำงานในอัลบัมแรกของตัวเอง ช่วงระหว่างบันทึกเทปอยู่นั้น มันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคเสียทีเดียว แต่มันแค่ช่วงเวลาในตอนนั้นที่ผมต้องการความเงียบสงบขึ้นมาในใจ ต้องการการอยู่นิ่งๆไม่เคลื่อนไหวเพื่อฟังสิ่งที่ตัวผมเองกำลังจะสื่อออกไป บางครั้งคนเราแค่ต้องการเวลาที่สงบเงียบ

คุณเคยมีที่ปรึกษา(mentor) หรือไม่ ?
เคยครับ คุณตาของผมเอง Albert Roker ท่านเคยเป็นที่ปรึกษาและปัจจุบันก็ยังอยู่ในใจผมตลอดเวลา

คุณเคยเป็นที่ปรึกษา (mentor) ให้ใครหรือไม่ ?
เคยครับ ผมเคยเป็นที่ปรึกษา (mentor) ให้กับนักดนตรีที่เด็กกว่าไปจนถึงเด็กๆ โดยเฉพาะที่เครือรัฐบาฮามาส (The Bahamas) ที่ที่ผมอาศัยอยู่ และมันเป็นอะไรที่น่าสนใจและสุขใจอย่างมากที่ได้ไปที่นั่น

คุณเป็นแนวหน้าในวงการเพลงมาเป็นเวลานานและยังได้มีโอกาสทำงานด้านแฟชั่นอื่นๆด้วย อะไรคือสิ่งที่คุณชื่นชอบมากที่สุด ?
สิ่งที่ผมชื่นชอบที่สุดเป็นสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง

จากผลงานอันแสนพิเศษทั้งหมดของคุณ คุณภูมิใจกับผลงานชิ้นใดมากที่สุด สิ่งนั้นคือเพลง ภาพยนตร์หรือโปรเจกต์ไหนที่คุณรู้สึกภูมิใจในตนเองมากที่สุด ?
ผมเป็นคนที่ไม่ตัดสินว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งดีกว่าอีกสิ่งหนึ่ง ทุกสิ่งเป็นไปในสิ่งที่ควรจะเป็น แต่แน่นอนมันจะต้องมีช่วงเวลาอันแสนพิเศษ ผมหมายถึงว่า ในช่วงที่ผมทำอัลบัมแรกของตนเองนั้น มันพิเศษมากๆ อัลบัมแรกของผม Let Love Rule คือจุดเริ่มต้นของผมและเป็นแนวทางการทำงานของผมมาจนถึงทุกวันนี้

คุณมีเพลงโปรดจากผลงานของตัวเองหรือไม่ ?
เพลงโปรดของผม…คำถามนี้ยาก Thinking of You คือหนึ่งในนั้นแน่นอนเพราะมันคือเพลงที่ผมแต่งให้แม่ของผมหลังจากที่เธอจากผมไป

คุณมีสิ่งใดที่คุณรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ยากและคุณจำเป็นจะต้องทำมันหรือไม่ ?
ผมต้องทำงานกับความอดทน ทำทุกอย่างให้ช้าลงและรอคอย ผมชอบการทำทุกอย่างพร้อมๆกันและผมไม่อยากหยุด แต่ในความเป็นจริงนั้นเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นผมเรียนรู้ที่จะอดทน รอคอย และอยู่จุดศุนย์กลางของความอดทนนั้น สิ่งที่คือสิ่งที่ผมฝึกปฏิบัติอยู่

คุณมีพิธีการใดที่คุณต้องทำก่อนขึ้นเวทีหรือไม่ ?
ก็ไม่ถึงขนาดนั้น พิธีการของผมคือการรู้สึกตัว ต้องรู้สึกพร้อม เมื่อผมรู้สึกพร้อม เมื่อวงของเราผ่านการซ้อมมาอย่างเพียงพอ นั่นคือสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้กับผมว่าผมสามารถจะแสดงออกมาได้อย่างดีที่สุดเพราะผมพร้อมแล้ว ดังนั้นมันคือแค่ช่วงเวลาสั้นๆในการอยู่เงียบๆก่อนขึ้นแสดง จากนั้นผมจะเดินผ่านอุโมงค์เพื่อขึ้นไปบนเวทีและทำการแสดง

คุณจะนิยามตนเองว่าอย่างไร ?
ผมคือศิลปิน

คุณประสบความสำเร็จอย่างมากในบทบาทของนักดนตรี นักร้อง นักแสดง นักออกแบบ และช่างภาพ มีพรสวรรค์ใดของคุณที่ยังไม่ได้โชว์ให้โลกเห็นหรือไม่ ?
ผมอยากวาดภาพ มันจะเป็นสิ่งต่อไปที่ผมจะทำ และกีฬาโต้คลื่น (surfing)

คุณวางแพลนอะไรไว้ในปีหน้า ? อัลบัมใหม่ ? การทัวร์คอนเสิร์ต ?
แน่นอนครับ ช่วงหลายปีที่ผ่านมาในขณะที่ผมกำลังท่องโลก ผมวางแผนที่จะปล่อยเพลงใหม่ที่ผมได้อัดไว้ในช่วงสามปีที่ผ่านมาและออกเดินทางไปกับเสียงเพลงเหล่านั้นพร้อมกับดื่มด่ำเสียงดนตรีในชีวิต

อะไรคือสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดสำหรับคุณและคุณอยากจะสอนให้กับเด็กๆรุ่นต่อไป ?
ความรัก. ความรักและความรักที่มากขึ้น 

คุณคือนักสะสมนาฬิกา ช่วยบอกได้ไหมว่าจุดเริ่มต้นของความชอบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง ?
ผมคิดว่าความชอบนี้เกิดขึ้นก่อนผมจะรู้จักสิ่งนี่ด้วยซ้ำ จุดเริ่มต้นจริงๆมากจากคุณพ่อที่สะสมและมีนาฬิกามากมายในยุค 70s ที่ผมเคยเห็นและได้สัมผัสมาก่อน ณ ตอนนั้นผมยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใส่ แต่ก็มีโอกาสได้ลองกดปุ่มต่างๆเล่นดู นั่นแหละครับ จุดเริ่มต้นมาจากตอนผมยังเด็ก 

การผลิตนาฬิกาและเสียงดนตรีนั้นมีความสัมพันธ์กันมากกว่าที่เห็น ทั้งเสียงจังหวะติ๊กต่อกของเข็มนาฬิกา เสียงฆ้องระฆังของกลไกการบอกเวลาด้วยเสียง หรือการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆของนาฬิกา อะไรคือสิ่งที่คุณสนใจมากที่สุดกับการผลิตนาฬิกานื้ ?
ความแม่นยำและงานฝีมือครับ 

และอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในนาฬิกาสำหรับคุณ ?
ก็ต้องเป็นกลไกแน่นอนครับ แต่รูปลักษณ์ของนาฬิกาก็มีผลเช่นเดียวกัน มองแล้วชอบหรือเปล่า สวมใส่บนข้อมือแล้วเหมาะหรือไม่ มันสำคัญมากเลยนะครับที่เราต้องใส่แล้วมีความรู้สึกสัมพันธ์และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับเรา 

คุณเลือกที่จะใส่ Reverso ยังไง ? และคุณจะพลิกหน้าปัดด้วยเหตุผลใด ?
สิ่งที่ง่ายที่สุดในการอธิบายให้เห็นภาพคือ ผมใส่ในทุกๆวันครับ สิ่งนี้ทำให้ผมรู้สึกถึงความมั่นใจในตัวผมตลอดเวลา นี่คือสิ่งที่มหัศจรรย์มากที่เกิดขึ้น Reverso คือส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้ว ผมจะพลิกหน้าปัดทุกครั้งที่ผมอยากจะพลิกมัน เป็นอีกสิ่งที่สามารถสื่อออกมาได้ผ่านนาฬิกาเรือนนี้ ความรู้สึกคุณเปลี่ยน อารมณ์คุณเปลี่ยน คุณก็แค่พลิกหน้าปัดคุณจะรู้สึกเหมือนได้พบเจอสิ่งใหม่ อารมณ์ใหม่

แล้วโอกาสไหนที่คุณเลือกจะสวมล่ะ ? 

โดยปกติจะใส่เวลาอยู่ในเมืองครับ เพราะเวลาผมอยู่ที่เกาะ ผมไม่ได้คิดถึงเวลาด้วยซ้ำ แต่เมื่อกลับมาอยู่ในเมือง เวลาที่ผมต้องทำงานและเจอผู้คนมากมาย มีหลายอย่างที่ต้องทำ ฉะนั้นผมจึงเลือกสวมนาฬิกา

อะไรคือสิ่งที่เจเกอร์-เลอคูลทร์แสดงออกมาให้คุณเห็น ?
แสดงให้เห็นถึงความเป็นที่สุดในทุกสิ่งครับ ทั้งงานฝีมือที่เป็นที่สุด งานออกแบบที่สวยที่สุด และการสร้างกลไกที่เยี่ยมยอดที่สุดครับ 

นี่คงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราได้รู้จักกับอาร์ติสท์อย่างเขาคนนี้มากขึ้น จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่ากาลเวลาทำอะไรเขาไม่ได้ เขาคงยืนหนึ่งอยู่เหนือกระแสความนิยมที่มาประเดี๋ยวประด๋าว แต่เขาคือคนที่มากความสามารถที่ทำทุกคนปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคู่ควรแล้วที่จะถูกเรียกว่า The Artist.

jaeger-lecoultre.com

- Advertisement -