Photographer: Napat Gunkham
Fashion Editor: Chanond Mingmit
คุยกับนานิ
เปิดการแสดงเรื่องแรกด้วยบทเอ็มเจใน F4 ส่วนมากคนจำนานิได้ในฐานะเอ็มเจ หรือฐานะนานิ
น่าจะติดภาพเอ็มเจมากกว่าครับ
การสลัดภาพจำของเอ็มเจเพื่อไปเล่นซีรีส์ Home School ยากมากไหม
ถามว่ายากไหมเหรอครับ จริงๆ ผมว่า… (นิ่งคิด) ผมอาจจะติดการแสดงหรือบุคลิกของเอ็มเจมานิดหน่อย แต่ในฐานะนักแสดง ผมก็ต้องแยกตัวละครที่เล่นแต่ละตัวให้ได้นั่นล่ะครับ
ถ้าอย่างนั้น มันยากมากไหมกับการเอาภาพเอ็มเจออกไปจากตัวนานิ
ผมว่าไม่ยากเลยนะ เพราะเอ็มเจกับนานินี่ห่างกันแบบคนละขั้วเลย ตอนถ่าย F4 นี่คือพอผู้กำกับสั่งคัต ผมก็กลับมาเป็นตัวเองได้แบบทันทีเลยครับ คนละคนกันเลย
หลังแสดง F4 ก็ดังเปรี้ยงทันทีเลย นานิรับมือกับชื่อเสียงและแรงกดดันที่ตามมาได้อย่างไร
เอาจริงๆ เลยนะ ผมไม่รู้เลยนะว่าผมดังขนาดไหน หรือดังอย่างไร ผมก็ใช้ชีวิตปกติ เป็นตัวผมเหมือนเดิม อาจจะมีบางอย่างรอบตัวที่เปลี่ยนไป อย่างมีคนรู้จักผมมากขึ้น แต่ผมก็ได้แบบอย่างจากการทำงานของเพื่อนๆ หรือพี่ๆ ที่เคยรับมือกับเรื่องนี้มาก่อนแล้ว ก็ได้คำแนะนำมาว่าผมควรจะต้องทำตัวยังไง วางตัวแบบไหน อะไรแบบนี้ครับ
ได้แสดงซีรีส์เรื่อง Home School กับดิวอีกครั้ง บทแตกต่างจาก F4 มากเลย การแสดงครั้งนี้ยาก-ง่าย ต่างจากบทเดิมขนาดไหน
ต่างมากครับ มันเลยเป็นความท้าทายใหม่ที่จะต้องทำความรู้จักกับธิเบต เขาคือตัวละครที่ผมไม่เคยเจอ ตอนแรกผมคิดว่าเขาจะคล้ายๆ ตัวผมแต่สุดท้ายเขาก็คือตัวละคร การเข้าไปสวมบทเป็นตัวเขาก็ยากอยู่ดี ผมต้องเรียนรู้การกระทำของเขาในทุกๆ วันที่ผมไปกองถ่าย Home School ทุกวันที่ได้เห็นมุมใหม่ๆ และลักษณะนิสัยเพิ่มเติมของธิเบต เหมือนกับได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กับตัวละครเลยครับ
หลังจากได้ร้องเพลง Best Life ประกอบ F4 คิดว่าตัวเองเหมาะกับเพลงแรปขนาดไหน
(คิด) ส่วนตัวผมไม่ได้ฟิกซ์นะว่าจะต้องแรปหรือต้องร้องอย่างเดียว ผมเป็นคนค่อนข้างเปิดกว้างเรื่องการฟังเพลงอยู่แล้ว แต่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ผมแสดงเรื่อง F4 และบุคลิกของผมก็เหมาะกับการแรป ส่วนเพื่อนๆ ก็ไม่ได้จะแรป ผมก็เลยรับหน้าที่นี้ไป ผมค่อนข้างฟังเพลงไปเรื่อยๆ ไม่ได้แรปขนาดนั้น ถ้าถามว่าผมแรปได้ไหม ก็แรปได้ล่ะครับ แต่ผมอยากจะพัฒนาตัวเองทุกๆ ด้านในทุกๆ วัน
เคยมองภาพตัวเองในฐานะนักร้องเต็มตัวไว้บ้างไหม
ถ้ามีโอกาสผมก็อยากจะพัฒนาตัวเองเรื่องการร้องเพลงให้สุดเหมือนกัน อยากจะไปให้เต็มตัวเลยครับ เพราะรู้สึกว่าผมชอบด้านนี้ค่อนข้างมาก เลยอยากจะไปให้สุด อยากทำเพลงของตัวเองออกมา อยากอยู่บนสเตจที่มีทุกคนมาฟังเพลงของผม เพราะตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข
ถ้ามันเกิดขึ้นได้จริง คิดว่าตัวเองเหมาะกับเพลงประเภทไหน
ผมไม่รู้หรอกว่าตัวเองจะเหมาะสมกับเพลงประเภทไหน แต่ถ้าได้ทำเพลงของตัวเองออกมาจริงๆ มันคือสิ่งที่ผมอยากจะถ่ายทอดมันออกมาจากใจ น่าจะเป็นเพลงที่ผมรัก และอยากให้ทุกคนฟัง เท่านั้นล่ะครับ
มองอนาคตของตัวเองในวงการบันเทิงไว้จุดไหน
ถ้าเป้าหมายตอนนี้ ผมก็คิดแค่ว่าถ้าผมได้ทำงานด้านศิลปินไปเรื่อยๆ ผมก็อยากจะไปจุดที่ผมเรียกตัวเองว่าศิลปินได้อย่างเต็มปาก มีทัวร์เป็นของตัวเอง สามารถไปร้องเพลงที่ไหนก็ได้ ผมว่าผมก็แฮ้ปปี้มากๆ แล้วครับ
ถ้าสามารถเที่ยวได้แบบไม่จำกัดอะไรเลย จะไปไหน เพราะอะไร
ส่วนตัวผมชอบอยู่ห้องมากกว่านะ เวลาอยากไปไหน คืออยากไปกับคนที่ผมแฮ้ปปี้ กับครอบครัว กับคนที่ผมรัก ไปไหนก็มีความสุขหมดล่ะครับ ไปหาของกินอร่อยๆ หน้าปากซอยก็มีความสุขแล้ว แค่ได้ไปเที่ยว ได้ไปเจออะไรใหม่ๆ กับคนที่ผมรัก ก็เหมือนได้สร้างโมเมนต์ใหม่ๆ ด้วยกันแล้วครับ
รู้สึกยังไงที่ได้มาถ่ายปกคู่กับดิววันนี้
ผมร่วมงานกับน้องดิวมานานแล้ว รู้สึกดีนะครับ รู้สึกสบายใจที่ได้ร่วมงานกับน้อง การได้มาถ่ายกับดิวเหมือนมาเจอเพื่อน มาพูดคุย ถามสารทุกข์สุกดิบ ให้คำแนะนำกัน แฮ้ปปี้มากครับ
สไตล์การแต่งตัวที่เป็นนานิที่สุดคืออะไร
นิยามยากจัง ผมว่ามันแล้วแต่ความรู้สึกในแต่ละวันนะครับ การแต่งตัวมันไม่มีอะไรมาจำกัด นอกจากความรู้สึกของเราเลย
อยากบอกอะไรกับแฟนคลับบ้าง
อยากขอบคุณทุกคนที่คอยซัพพอร์ตนานิมาตลอด ทั้งๆ ที่อาจจะไม่เคยเจอกันเลย เราอาจจะอยู่ไกลกันแบบเป็นพันๆ ไมล์ แต่จะไกลแค่ไหน ทุกคนก็คอยส่งความคิดถึง ส่งกำลังใจให้นานิตลอด เคยฝันว่าสักวันจะได้เจอแฟนคลับทุกคนพร้อมๆ กัน ขอให้มีวันนั้น ยังไงผมก็รักทุกคนเหมือนกับที่ทุกคนรักผมนะครับ
Author: Pacharee Klinchoo
Make Up: Yotiny Chuaysri
Hair: Akkarapong Punkaew
Assistant Photographers: Amorethep Kumjumpa / Anan Eiammee
Digital Content Creator: Teeratat Somudomsup
Videographers: Vasavas Bhangsa-ard / Panlit Voravutvityyaruk
Prop: Sittichai Pliaplong