PradaxWinMetawin บทสัมภาษณ์และบทบาทใหม่ของ ‘วิน-เมธวิน’

PradaxWinMetawin

Photographer: Napat Gunkham 
Fashion Editor: Chanond Mingmit
Author: Pimpilai Boonjong

เสื้อคอปีนผ้าฝ้ายพิมพ์ลายสวมทับด้วยโค้ตผ้าฝ้ายพิมพ์ลาย ทั้งหมดจาก Prada

“หรือวงการบันเทิงไทยจะเป็นเคป็อปรายต่อไปในอนาคต?”….

นี่คือหนึ่งในหัวข้อที่หลายคนกำลังพูดถึง ซึ่งไม่เฉพาะในหมู่แฟนๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงในแวดวงธุรกิจด้วย โดยเฉพาะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พูดเลยว่าสปอตไลต์ได้ส่องมายังผลงานจากวงการบันเทิงบ้านเรา รวมถึงนักแสดงและศิลปินไทยกันมากขึ้น ทำให้ชื่อของพวกเขาที่กลายเป็นกระแส หรือขึ้นเทรนด์ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก หนึ่งในนั้นก็คือชื่อของ วิน – เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร นักแสดงและศิลปินหนุ่มจากไทยที่ก้าวเข้าสู่การเป็นนักแสดงครั้งแรกจากบทบาทในซีรีส์วาย ‘เพราะเราคู่กัน’ ซึ่งโด่งดังเป็นปรากฏการณ์ไม่ใช่แค่ในประเทศของเรา ตลอดเวลาที่ผ่านมา วินมีผลงานให้เราได้ติดตามอย่างต่อเนื่อง ทั้งการแสดง ดนตรี คอนเสิร์ต แฟนมีตติ้ง ไปจนถึงงานพรีเซนเตอร์ต่างๆ ที่เข้ามีเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย แถมชื่อของเขายังหอมหวนในโลกแฟชั่นอย่างมากจนได้มีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์ต่างๆ มากมาย ล่าสุด นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจทั้งสำหรับตัววินเอง รวมถึง เราคนไทยด้วยเมื่อแบรนด์แฟชั่นระดับโลกอย่าง Prada ได้ประกาศแต่งตั้งให้นักแสดงหนุ่มจากไทยที่กำลังจะอายุ 24 ปีคนนี้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์  หลังจากเมื่อปีที่แล้ว วินได้รับเชิญจากทาง Prada ให้ไปร่วมชมแฟชั่นโชว์คอลเลกชั่นผู้ชาย Spring/Summer 2023 ที่กรุงมิลาน ประเทศอิตาลีเป็นครั้งแรก แถมการปรากฏตัวของวินยังช่วยช่วยสร้างยอดมูลค่าทางสื่อ (Media Impact Value) ให้กับแบรนด์สูงถึง 26 ล้านดอลลาร์ เป็นอันดับ 1 ของช่วง Milan Men’s Fashion Week ในตอนนั้น พูดได้ว่าความมีชื่อเสียงได้ถาโถมเข้าหาหนุ่มคนนี้อย่างต่อเนื่องในขณะที่เขาเองก็พยายามบาลานซ์มันและทุ่มเททำงานที่ได้รับอย่างเต็มที่

“ผมอยากจะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ในทุกๆ ด้าน ไม่อยากจะหยุดตัวเองไม่ว่าเราจะก้าวไปไหนก็ตาม ทุกๆ ปีผมอยากจะพัฒนาตัวเอง และอยากได้โอกาสใหม่ๆ เข้ามาในชีวิตเสมอครับ” วินบอกกับเราในวันถ่ายแฟชั่นเซ็ตนี้ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะเดินทางไปมิลานครั้งล่าสุดไม่กี่วัน ใครๆ ก็บอกว่ากระแสอยู่ได้เพียงไม่นาน แต่สำหรับผู้ชายคนนี้ เราเว่าเขาก้าวข้ามคำว่ากระแสขึ้นไปอีกขั้นแล้วล่ะ นั่นเป็นเพราะความมุ่งมั่นไม่หยุดนิ่งของเขา

เสื้อคอกลมผ้าฝ้ายแขนกุดพิมพ์ลายสวมทับด้วยคาร์ดิแกนผ้าขนสัตว์ถักนิต กางเกงผ้าขนสัตว์ กระเป๋าสะพายข้างทอลายตราสัญลักษณ์ ทั้งหมดจาก Prada

ใกล้จะถึงวันเกิดอีกปีแล้ว ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าตัวเองเติบโตขึ้นเป็นพี่วินไหม 

มากๆ เลยครับ พอเราก้าวเข้าสู่การทำงาน มันทำให้เราคิดถึงอนาคตมากขึ้น รู้จักวางแผนอนาคตมากขึ้น ถ้าเทียบกับตอนเรียน เราใช้ชีวิตไปวันจริงๆ สนุกสนานเฮฮาโดยไม่คิดถึงอนาคตเท่าตอนนี้

แล้ววินยังเป็นเด็กติดครอบครัวเหมือนเดิมไหม 

แต่เรื่องนี้ผมเหมือนเดิมครับ คือไม่ว่าผมจะเติบโตไปแค่ไหน แต่ครอบครัวก็ยังเป็น priority ของผมเสมอ อย่างช่วงปีใหม่ก็เพิ่งไปเที่ยวกับครอบครัวที่เกาหลีมาเองครับ

ถ้าให้รีวิวปี 2022 ที่เพิ่งผ่านไปล่ะ 

ปี 2022 เป็นปีที่ผมเจอเรื่องมากมายในชีวิต เป็นปีที่ผมเติบโตขึ้น ต้องจัดการอะไรหลายๆ อย่างด้วยการตัดสินใจและการคอนโทรลของตัวเอง ส่วนใหญ่ก็เรื่องงานนี่แหละครับ ทั้งงานในวงการและธุรกิจของผมเองด้วย

เพิ่งผ่านคอนเสิร์ตใหญ่ Side by Side Bright Win Concert เมื่อช่วงปลายปีมา มีอะไรที่ยังตราตรึงจนถึงวันนี้ไหม

โห ทุกโมเมนต์เลยจริงๆ ถึงจะผ่านมาหลายอาทิตย์แล้ว แต่ก็เราก็ยังรู้สึกว่าติดอยู่ในโมเมนต์นั้นอยู่ดี เพราะเป็นคอนเสิร์ตที่เรารอคอยและตั้งใจมากๆ ถึงมันจะจบไปแล้ว มันยังอิ่มความสุขมากๆ อยากจะเก็บทุกโมเมนต์ไว้ในความทรงจำตลอดไปเลย

สเวตเตอร์ผ้าขนสัตว์ทอลาย กางเกงผ้าขนสัตว์ กระเป๋าสะพายหนังลูกวัว ทั้งหมดจาก Prada 

ถ้าจะมีสิ่งสำคัญที่ได้เรียนรู้จากปีที่แล้ว 

ด้วยความที่เวลาทำงานและหลายๆ อย่างเราต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นคีย์หลักในการตัดสินใจของเรา เราต้องมองด้วยเหตุและผลเป็นหลัก ต้องใช้เหตุผลนำอารมณ์ความรู้สึก ถ้าใช้อารมณ์เป็นหลัก มันอาจจะผิดพลาดได้ง่าย บางครั้งก็ต้องถอยหลังมาก้าวนึงเพื่อมองภาพใหญ่ มองแต่ละอย่างด้วยเหตุและผล

ในวัยแค่นี้ แต่ต้องทำอะไรเยอะมาก ผ่านความกดดันต่างๆ มาได้อย่างไรถ้าเป็นเรื่องงานในวงการ

แรงขับเคลื่อนหลักของผมก็แฟนคลับของผมนี่แหละ พวกเขาคอยสนับสนุและคอยติดตามผลงานของผมไม่ว่าจะทำอะไร พวกเขาก็เลยเป็นแรงขับเคลื่อน ทำให้ผมอยากสร้างความสุขให้กับพวกเขา ด้วยการสร้างผลงานดีๆ มีคุณภาพเพื่อให้พวกเขาได้เอ็นจอยกับผลงานของเรามากที่สุด คือพอเรามองไปที่คนที่รักเราและให้กำลังใจเรา มันก็ยิ่งทำให้เรายิ่งอยากทำอะไรดีๆ

วินได้ติดตามหรือเห็นข้อความแฟนๆ ตามโซเชียลมีเดียบ้างหรือเปล่า

ติดตาม ติดตามครับ (อย่างเวลาที่แฟนๆ โพสต์ถามว่าน้องวินหายไปไหน) ก็…ครับ ก็หายครับ (หัวเราะ) คือบางทีเราอยู่กับครอบครัวหรือคนรอบตัว เราก็ใช้เวลากับเขาเต็มที่ เราจะไม่ค่อยติดโซเชียลขนาดนั้นด้วย คือเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรกเลยครับ เราพยายามจะใช้เวลาอยู่กับโมเมนต์ตรงนั้น แต่เราก็รับรู้ตลอดเลยนะ  ก็เลยพยายามแชร์โมเมนต์เท่าที่แชร์ได้ครับ

พูดถึงผลงานในปี  2023 นี้ เท่าที่ประกาศออกมาแล้ว มีทั้งซีรีส์เรื่อง  Enigma และ Beauty Newbie ตอนนี้ถ่ายทำไปถึงไหนแล้ว

เรื่อง Enigma น่าจะเริ่มถ่ายทำเร็วๆ นี้แหละครับ เพราะก่อนหน้านี้ต้องเทคิวให้กับการซ้อมคอนเสิร์ตหมดเลย แล้วหลังปีใหม่ก็คิวงานแน่นมากๆ มีไปต่างประเทศหลายครั้ง ก็เลยคิดว่าน่าจะช่วงเดือนหน้านี่แหละครับ ระหว่างนี้ก็เตรียมเวิร์ก็อปกันไปก่อน

เวลารับบทบาทในผลงานต่างๆ วินอยากให้คนมองเห็นอะไรในตัวเรา

จริงๆ ไม่ได้คิดเรื่องอยากให้เห็นอะไรในตัวเราครับ แต่เวลาที่จะรับบทอะไรสักเรื่อง ผมคิดว่าต้องมีความสุขและต้องสนุกก่อนเป็นอันดับแรก เพราะถ้าเราอินและเอ็นจอย ตอนที่เราถ่ายทอดบทนั้นออกมาก็น่าจะทำให้คนที่ได้ดูผลงานของเรามีความสุขเหมือนกับตอนที่เราอ่านบทและได้แสดงบทบาทนั้นจริงๆ ครับ อย่างเรื่อง Enigma ก็คือพลิกคาแร็กเตอร์สำหรับผมแบบสุดๆ เป็นบทที่ชอบมากๆ

คำว่า ‘พัฒนาการ’ สำคัญต่อการเป็นนักแสดงอย่างไรบ้าง 

มันเป็นตัวขับเคลื่อนการทำงานเลยครับ จริงๆ ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร เราต้องไม่หยุดอยู่ที่เดิม ถ้าเราพัฒนาต่อไป เราก็จะมีความสามารถ ความชำนาญมากขึ้นครับ ในฐานนะที่ผมเป็นนักแสดง ผมก็อยากจะทำงานทุกชิ้นออกมาให้ดีที่สุดเสมอครับ นอกจากบทบาทในเรื่อง เพราะเราคู่กัน แล้ว ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากจะมีบทบาทใหม่ที่ทำให้คนจดจำผมได้ แบบว่าบทนี้ต้องเป็นวิน – เมธวิน เท่านั้นที่สามารถเล่นได้ อะไรแบบนั้นน่ะครับ

พูดถึงบทบาทใหม่ เมื่อไม่มีกี่วันก่อน มีข่าวประกาศว่าวินได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Prada ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง

จริงๆ ผมรู้มาสักพักแล้ว และก็อึดอัดในใจที่ยังบอกใครไม่ได้สักที (หัวเราะ) ตอนนี้ผมดีใจและภูมิใจมากๆ เลยครับที่ได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เพราะก่อนหน้านี้ผมเองได้มีโอกาสไปสัมผัสกับแบรนด์มาก่อนแล้ว แล้วตัวเราเองกับคนรอบตัวก็รักแบรนด์นี้และใช้แบรนด์นี้อยู่แล้ว ผมก็เลยแฮปปี้และเป็นกียรติมากๆ ที่ได้มีโอกาสมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Prada ครับ

จริงๆ แล้ว Prada เป็นลักชัวรี่แฟชั่นแบรนด์แรกที่วินได้มีโอกาสร่วมงานด้วยเลยนับตั้งแต่เข้าวงการมา

ใช่ครับ ผมจำได้ว่าไปงานป็อปอัพสโตร์ในห้าง แล้วหลังจากนั้น ก็ปิดห้างเลย (หัวเราะ) คือไปเหยียบห้างปุ๊ป ล็อกดาวน์ทันที (หัวเราะ)

แจ๊กเก็ตและกางเกงผ้าเดนิม รองเท้าหนังหุ้มข้อ ทั้งหมดจาก Prada

จากที่ได้สัมผัสกับแบรนด์มา คิดว่ามี Prada ความพิเศษอะไร

ผมว่า Prada มีความยูนีคมากๆ เลย  เป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์เสมอ เราเห็นโปรดักต์ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม เราจะรู้ได้เลยว่านี่คืองานออกแบบของ Prada ผมว่ามันก็ยากมากเลยนะที่แบรนด์จะสร้างความยูนีคของตัวเองที่เห็นแล้วจดจำได้ทันที และผมว่าหลังๆ มา Prada หันมาเล่นสีสันมากขึ้นด้วย ซึ่งตัวผมเองก็ชอบพวกสีสันครับ แล้วก็เรื่องคุณภาพซึ่งเป็นที่สุดอยู่แล้ว ซึ่งผมเป็นคนให้ความสำคัญกับเรื่องของคุณภาพมากๆ ไม่ว่าจะเป็นโปรดักต์อะไรก็ตาม

แล้วคอลเลกชั่น Spring-Summer 2023 ที่วินได้เป็นดูโชว์มาเมื่อกลางปีที่แล้วล่ะ มีอะไรที่ชอบเป็นพิเศษหรือเปล่า

ผมชอบเสื้อเชิ้ตที่มีกระดุมอยู่ข้างหลังซึ่งปกติเราจะติดด้านหน้า ผมว่านี่แหละความ Prada ทุกอย่างจะมีสตอรี่ มีความพิเศษไม่เหมือนใครมากๆ เวลาเราใส่ก็เลยรู้สึกว่ามันมีสตอรี่ที่จะไปเล่าต่อได้

มีลุคไหนของ Prada ที่เป็นลุคในความทรงจำไหม

ผมเชื่อว่าลุคนี้น่าจะเป็นลุคในความทรงจำทุกคนเหมือนกัน นั่นก็คือลุคโค้ตผักกาดดอง (หัวเราะ) เป็นโค้ตสีเหลืองที่ผมใส่ไปแฟชั่นโชว์ที่มิลานเมื่อปีที่แล้ว คิดว่าเป็นลุคในความทรงจำของทุกคนจริงๆ เพราะเวลาคนรอบข้างเห็นชุดนี้ก็ยังบอกว่าชุดวิน ผมก็ภูมิใจมากๆ นะ จริงๆ ก่อนจะใส่ชุดนี้ เราฟิตติ้งกันหลายชุดมาก แต่ผมก็รู้สึกว่าใส่ชุดนี้แล้วดูหล่อสุดเลย (หัวเราะ) คือชอบชุดสไตล์โอเวอร์ไซส์อยู่แล้วครับ แล้วก็อย่างที่บอก ผมเป็นคนที่ชอบสีสันอยู่แล้วด้วย ก็เลยคิดว่าชุดนี้น่าจะโดดเด่น

แล้วเห็นภาพที่วินเข้าไปทักทายคุณมิวเซีย พราด้า กับคุณราฟ ซิมอนส์ ตอนนั้นคือคุยอะไรกัน

คุยเยอะเลยครับ บอกเขาว่า Congratulations แค่นี้ครับ (หัวเราะ) คือความที่แขกเยอะมากๆ เรามีเวลาสั้นๆ แค่ได้เซย์ไฮกัน แต่ก็มีตอนที่ดินเนอร์หลังโชว์ครับ เขาก็เข้ามาทักทายทำความรู้จักกัน 

สเวตเตอร์ผ้าขนสัตว์ทอลายสวมทับด้วยแจ๊กเก็ตหนังลูกวัว กางเกงผ้าขนสัตว์ รองเท้าผ้าใบ ทั้งหมดจาก Prada

สำหรับแฟชั่นโชว์ครั้งล่าสุดที่จะเดินทางไปชมในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ล่ะ

ก็ต้องเตรียมตัวและเตรียมใจด้วย เพราะว่าครั้งนี้เราไปในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ด้วย ก็ยังตื่นเต้นเหมือนเดิม แล้วก็ลุ้นกับคอลเลกชั่นใหม่ด้วยว่าจะเป็นอย่างไร มีไอเท็มอะไรบ้าง ดีใจที่จะได้กลับไปที่อิตาลีอีกครับ

แรงบันดาลใจด้านแฟชั่นของวินมาจากไหนบ้าง

ตัวเราเองครับ เพราะเราต้องไม่เหมือนใคร (หัวเราะ) แล้วก็จากหลายๆ ที่ครับ จากคนรอบข้างด้วย ความที่เราทำงานในวงการนี้อยู่แล้ว เรามีโอกาสได้เห็นแฟชั่นเยอะ ไม่ว่าจะถ่ายนิตยสาร ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา บางทีเราก็ไม่คิดว่ามันจะมิกซ์แอนด์แมตช์กันได้ แต่เราทำงานตรงนี้ ได้ลองอะไรหลายๆ อย่าง เรียกว่าได้เปิดโลกด้านสไตล์ของเราตลอดเวลา

ถ้าพูดถึงสิ่งที่วินจอยสุดในชีวิตยามนี้ มีอะไรบ้าง

น่าจะเรื่องงานนี่แหละครับ การทำงานที่ได้พบเจอกับสิ่งใหม่ๆ ได้เปิดประสบการณ์ ได้พัฒนาตัวเอง อย่างการได้ไปแฟชั่นโชว์เมื่อปีที่แล้ว ก็เป็นสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะได้ไปดูแฟชั่นโชว์ เราเคยดูผ่านทางออนไลน์มาบ้าง แต่พอไปสัมผัสด้วยตัวเอง มันเป็นการเปิดประสบการณ์ให้ตัวเอง การที่เราได้เรียนรู้การทำงานของเขา แล้วตอนนั้นเราไปแรกๆ และเป็นคนคนเดียวด้วย ณ ตอนนั้น แล้วก็อย่างคอนเสิร์ตล่าสุดกับพี่ไบร์ท คอนเสิร์ตก่อนๆ จะมีพี่ๆ น้องๆ หลายคนมาช่วยกันโฮลด์สเตจ แต่ครั้งล่าสุด เราโฮลด์กันสองคนจริงๆ แล้วคือเราตั้งใจมากๆ เต็มที่มากๆ ที่จะให้มันออกมาดีที่สุดจริงๆ

ความฝันอะไรที่ยังไม่ได้ทำแต่อยากจะทำ

เยอะเหมือนกันนะ ถ้างานในวงการบันเทิง ก็รู้สึกว่าอยากทำงานในระดับอินเตอร์ ร่วมงานกับต่างชาติ ทำงานในต่างประเทศกับคนต่างประเทศ (แปลว่ามีติดต่อเข้ามา?) ก็อยากให้รอดูครับ (หัวเราะ)

ถ้าสามารถย้อนเวลาได้ อยากบอกอะไรกับเด็กชายวิน

อยากให้ตั้งใจเรียนกว่านี้ (หัวเราะ) เพราะตอนเด็กเราไม่ค่อยเข้าใจว่าเรียนไปทำไม ก็เลยตั้งใจบ้างไม่ตั้งใจบ้าง ถ้าย้อนกลับไปได้ก็อยากจะบอกว่าตั้งใจเรียนนะ เพราะมันได้ใช้นะ

Make Up: Phornpichid Khumnguen
Hair: Akkarapong Punkaew