Photographer: Wasu Sukatocharoenkul
Direction by: Napat Roongruang
เริ่มต้นปีใหม่ ด้อมอากาเซ่ก็กดบัตรมือเป็นระวิง เพราะเหล่าเมมเบอร์วง GOT7 วง K-pop ยอดนิยม แวะเวียนมาหาชนิดหัวกระไดไม่แห้ง แถมเพิ่มรอบทุกครั้ง เรียกได้ว่านกไทยฮอตเมนรักเมนหลงอย่างแรง ดังนั้นอังกอร์เวิลด์ทัวร์อัลบั้มเดี่ยว 2022 WORLD TOUR JAY B TAPE: PRESS PAUSE [ENCORE IN BANGKOK] ของ JAY B ลีดเดอร์คนเก่งของวง จะพลาดประเทศไทยได้อย่างไร L’Officiel Hommes Thailand จึงเอาใจเหล่าอากาเซ่ รีบล็อคคิวหนุ่มเกาหลีสุดฮอตมาเจาะใจทุกประเด็น ตั้งแต่เพลง หนังสือ คอนเสิร์ต และบทบาทลีดเดอร์แห่งวง GOT7
JAY B ร่วมงานกับแบรนด์แฟชั่นระดับโลกมากมาย ด้วยสไตล์ที่เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความเท่คูลทำให้เราอดถามไม่ได้ว่า เครื่องประดับชิ้นไหนที่นักร้องหนุ่มขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน
“ผมชอบเครื่องประดับอย่างแหวนครับ ช่วงนี้ใส่แหวนบ่อย แล้วก็พวกผ้าพันคอ อย่างที่ผูกไว้ที่เอวตอนถ่ายแบบวันนี้”
JAY B นับเป็นหนุ่มอัจฉริยะคนหนึ่งในวงการเพลง ในการประกวดเต้น B-boy เมื่อปี พ.ศ. 2552 เขาฉายแววโดดเด่นจนได้รับการทาบทามจาก K-Jay Kim (CBO แห่งบริษัท JYP Three Sixty ในปัจจุบัน) ให้มาออดิชั่นใหญ่ประจำปีของบริษัท JYP Entertainment รุ่นที่ 5 และเป็นผู้ชนะเลิศร่วมกับจินยอง ผู้กลายเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเขา ทั้งคู่เดบิวต์ในฐานะคู่ดูโอ JJ Project เมื่อปี พ.ศ. 2555 จากนั้นจึงเดบิวต์อีกครั้งในฐานะลีดเดอร์ของวงบอยแบนด์ GOT7 ในอีกสองปีต่อมา นับแต่นั้นก็ไม่มีอะไรมาฉุดรั้งความเป็นซุปเปอร์สตาร์ของหนุ่มมากความสามารถคนนี้ได้อีก แต่ JAY B ยังคงความติดดิน เป็นมิตร และเข้าถึงง่าย ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ทำให้เขาเป็นที่รักไม่เสื่อมคลายจนได้ฉายา Best Friend ของแฟนคลับ
“ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองแตกต่างจากคนอื่นเลยนะครับ ส่วนที่พูดถึงการมีชื่อเสียง มันก็จะเป็นข้อดีของการมีชื่อเสียง เพราะว่าพอผมมีชื่อเสียงมากขึ้น ทุกคนก็จะรู้จักการเต้นของผมและเพลงของผม และก็ชอบเพลงของผมและการเต้นของผมมากขึ้น รู้สึกว่าอันนั้นเป็นข้อดีมากๆ แต่ถ้าการที่เราจะมีชื่อเสียงมากๆ เราก็ต้องลดความอิสระของตัวเองลง แต่ว่าช่วงนี้ผมว่าผมบาลานซ์ได้ดีมากๆ เลย”
ด้วยความสามารถ การฝึกฝนยาวนาน และทุ่มเทขยันอย่างหนัก ทำให้ผลงานในฐานะ GOT7 ดูโอ (JJ Project, Jus2) และผลงานเดี่ยวของ JAY B ล้วนแต่ได้รับความนิยมและกวาดรางวัลแทบทุกเวที แต่ก็ยังไม่อาจดับความกระตือรือร้นที่จะพุ่งชนเป้าหมายเพื่อวงของเขา
“ถ้าพูดถึงเรื่องแรงบันดาลใจ ทุกๆ สิ่งที่ผมได้รู้สึก พบเจอ หรือสิ่งที่ผมทำ มันก็จะเป็นแรงบันดาลใจให้หมดเลย ถ้ารู้สึกว่าเจอจุดที่ยังไม่ดีพอ มันก็จะเป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น เก่งมากขึ้น แล้วก็สิ่งที่ยังไม่เคยทำ ยังไม่ได้รับ คืออยากได้รับแดซัง รางวัลที่ใหญ่ที่สุด ผมอยากให้ GOT7 ได้แดซังครับ”
หลังจากสิ้นสุดสัญญากับ JYP Entertainment เมมเบอร์แต่ละคนต่างแยกย้ายสร้างผลงานเดี่ยวและเสนอภาพลักษณ์ที่แตกต่าง JAY B เองสรุปตัวตนในฐานะลีดเดอร์แห่ง GOT7 และศิลปินเดี่ยวออกมาเป็นคีย์เวิร์ด 3 คำ (1) JAY B GOT7 ลีดเดอร์ / ความรับผิดชอบ / MUST (2) JAY B Solo และ 3. ความอิสระ / ตามใจตัวเอง / SEXY ครับ
JAY B เป็นลีดเดอร์วง K-pop ที่ได้รับเสียงโหวตว่ามีความเป็นผู้นำมากที่สุดคนหนึ่ง เห็นได้จากความสามารถของเขาที่ดึงให้ลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมดยังเป็นของ GOT7 แม้จะหมดสัญญากับค่ายเดิม และยังเป็นศูนย์รวมใจของเมมเบอร์ โดยเฉพาะเหล่ามักเน่ (ยองแจ แบมแบม ยูคยอม) ที่ทั้งสนิทสนมและแกล้งแหย่ลีดเดอร์ทุกครั้งที่สบโอกาส แต่ขณะเดียวกันทุกคนที่เคยร่วมงานต่างคอนเฟิร์มว่า เมื่อลีดเดอร์คนนี้พูด เหล่าเมมเบอร์ทุกคนก็พร้อมเชื่อฟังเป็นอย่างดี ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนจะทำได้ “อาจจะเป็นเพราะนิสัยของผม ผมเป็นคนที่ค่อนข้างชัดเจนว่านี่คืองาน อันไหนที่ไม่ใช่งานก็คือไม่ใช่งาน อันไหนที่คืองาน คือต้องเป็นงาน เวลาเราทำงาน เราต้องตั้งใจและโฟกัส แต่อันไหนที่ไม่ใช่งาน เราก็อยู่สบายๆ แบบสนุกๆ ได้ ผมก็เป็นกับตัวเองด้วยเหมือนกัน เวลาทำงาน ผมก็จะตั้งใจโฟกัสไปในเรื่องนั้น ถ้าไม่ใช่ ยังไงก็ได้ สบายๆ ได้หมดเลย เป็นความรู้สึกนี้”
เป็นที่รู้กันว่าสมาชิก GOT7 เช่น จินยอง ยูคยอม และ JAY B ต่างเป็นนักอ่านตัวยงจนเกิดกระแส #แจบอมอ่าน ดันยอดขายงานมหกรรมหนังสือถล่มทลายมาแล้ว JAY B แชร์วิธีการเลือกหนังสือ และหนังสือสามเล่มที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของเขามากที่สุดที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหน
“เวลาจะซื้อหนังสือ ผมจะดูเรื่องย่อข้างหลังก่อน มีคำอธิบายว่าเป็นหนังสือแบบไหน อะไรยังไง ผมก็จะดูตรงนั้นก่อน ตอนแรกผมก็จะหยิบหนังสือออกมา และลองอ่านข้อมูลด้านหลังหนังสือก่อนครับ ถ้าน่าสนใจผมจะลองอ่านหน้าแรกหรือหน้าที่สองดู ถ้ารู้สึกว่าหนังสือเล่มนั้นอ่านง่ายและเข้าใจเลย ผมก็จะเลือกหนังสือนั้นมาอ่านครับ ส่วนหนังสือที่มีอิทธิพลกับผมมากที่สุดคงเป็น 1. Put Some Distance – Ayako Sono [약간의 거리를 둔다 (소노 아야코)] 2. Kafka on the Shore – Haruki Murakami [해변의 카프카 (무라카미 하루키)] 3. 청춘불패 – Lee Oi-Soo (이외수)”
JAY B ใช้แรงบันดาลใจจากการอ่านสร้างสรรค์ผลงานเพลงที่เขาแต่งและร่วมแต่งกว่าสองร้อยเพลง แต่ชายหนุ่มผู้เปี่ยมด้วยพลังความสร้างสรรค์เลือกที่จะไม่จำกัดนิยามของเพลงที่ดี
“มันขึ้นอยู่กับการเลือกมากๆ เลยนะครับ เพลงที่ผมชอบก็เป็นเพลงที่ดี เพลงที่คนอื่นชอบก็เป็นเพลงที่ดีเหมือนกันนะครับ เพลงที่ดีมันไม่ได้มีสิ่งที่จะบอกว่าอันนี้เพลงดี อันนี้เพลงไม่ดี ผมคิดว่าทุกเพลงที่เกิดมาบนโลกใบนี้เป็นเพลงดีหมดเลยนะครับ มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของคนฟัง และความรู้สึกของคนฟังในแต่ละวันด้วยครับ วันไหนคนฟังรู้สึกแบบนี้ พอฟังเพลงที่มันเข้าใจความรู้สึกของเขามากๆ ก็เข้าใจได้เลยว่าเพลงนั้นจะเป็นเพลงที่ดีสำหรับคนคนนั้น มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์นะครับ และไม่ใช่ว่าเพลงนี้มันตรงความรู้สึกของคนฟังก็จะเป็นเพลงที่ดี หรือถ้าเพลงไหนที่ไม่เข้าใจคนฟังมันจะเป็นเพลงไม่ดี ผมไม่ได้คิดแบบนั้นนะครับ ผมว่าทุกเพลงเป็นเพลงที่ดีหมดเลย”
ด้วยการทลายข้อจำกัด JAY B เลือกฟังเพลงหลากหลายสไตล์ที่แตกต่าง และนำมาปรับใช้กับผลงานเพลงของตัวเองได้อย่างลงตัว “ช่วงนี้ผมกลับไปฟังเพลง R&B ที่ผมชอบมานานอยู่แล้วครับ และผมชอบฟังเพลงของ Musiq Soulchild และ Maxwell ครับ”
JAY B กลับมาเยือนประเทศไทยครั้งนี้กับคอนเสิร์ต 2022 JAY B ‘NOSTALGIC’ ONOFFLINE FANCON and WORLD TOUR TAPE: PRESS PAUSE ที่เลือกจัดขึ้นเฉพาะที่ประเทศไทยและเกาหลีเท่านั้น คอนเสิร์ตครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจให้แฟนคลับ แต่ยังเป็นความทรงจำล้ำค่าสำหรับศิลปินด้วย
“ถ้าให้พูดถึงความทรงจำที่ดีที่สุดในเวิลด์ทัวร์ TAPE: PRESS PAUSE ก็ต้องเป็นประเทศไทย เป็นคอนเสิร์ตที่กรุงเทพฯ เพราะเป็นคอนเสิร์ตสเกลใหญ่ที่สุดเท่าที่ทำมาเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ และความทรงจำดีๆ ที่ผมมี จำได้แม่นมากที่สุด แล้วก็สนุกด้วย การที่ผมได้มีโอกาสมีเวิลด์ทัวร์แบบนี้ ผมมีความสุขมากๆ เพราะว่าผมเล่นคอนเสิร์ต และจะได้รับฟีดแบ็กทันที เพราะทุกคนอยู่ในฮอลล์เหมือนกันหมด และได้รับเอเนอร์จี้จากทุกๆ คน มันทำให้ผมรู้สึกว่าผมอยากจะเป็นศิลปินที่เก่งมากขึ้น ที่ดีมากขึ้น และการที่ผมได้มีโอกาสแบบนี้ จะทำให้ผมได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่ผมจะต้องพัฒนา คือจุดไหน ครั้งหน้ามั่นใจว่าจะทำได้ดีกว่านี้”
เมื่อให้เปรียบเทียบการเดินทางอันยาวนานในฐานะศิลปิน JAY B ไม่คิดว่าเส้นทางสายนี้เป็นการเดินทางสู่ดวงจันทร์
“รู้สึกเหมือนเดินทางกลับบ้าน แต่ไม่ได้เดินทางสะดวกสบายนะครับ เหมือนเดินผ่านป่ายังไงไม่รู้ มีต้นไม้เยอะ ต้องฝ่าฟันอะไรแบบนี้ ชีวิตก็เป็นอะไรแบบนี้ ผมเห็นด้วยนะครับ ทุกคนรู้สึกแบบนี้หมด”
หลังจากระเบิดความสนุกจนลืมไม่ลง ลีดเดอร์แห่งวง GOT7 ฝากคำอำลากับแฟนคลับในคอนเสิร์ตว่า
“ทุกคนรอผมกลับมานะ”
เรารอได้ รอคุณกลับสู่บ้านนกสีเขียวแสนอบอุ่นแห่งนี้
– Author: Janejira Sereeyotin –