เมื่อสมาชิกทั้งเจ็ดของวง K-pop ยอดนิยมอย่าง GOT7 ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับค่ายเดิม แต่ละคนต่างแยกย้ายไปสร้างผลงานเดี่ยวและประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามด้วยแรงสนับสนุนจาก ‘อากาเซ่’ ที่แยกร่างซัพพอร์ตศิลปินทั้งเจ็ด ชนิดแรงดีไม่มีแผ่ว พี่ใหญ่ของวงอย่างมาร์ค GOT7 บินกลับบ้านเกิดที่ลอสแองเจลิส แต่ระยะทางไม่ใช่อุปสรรค เพราะมาร์คฝากความคิดถึงของเขามาถึงประเทศไทยแล้ว และได้มาจับเข่าคุยอัพเดทชีวิตและความคิดของเขาให้แฟนคลับได้หายคิดถึง กับคอลเลกชั่นของ Saint Laurent by Anthony Vaccarello แบรนด์โปรดที่สร้างแรงบันดาลใจให้แรปเปอร์และนายแบบหนุ่มคนนี้
“ผมชอบสไตล์ที่ไม่จำกัดยุคสมัยของ Saint Laurent by Anthony Vaccarello แม้ว่าบางชิ้นจะเรียบง่าย แต่ยังแสดงความหรูหราสง่างามได้อย่างเยี่ยมยอด มันกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผมในเรื่องแฟชั่นและดนตรีด้วย” ตัวอย่างไอเท็มหลักของ Saint Laurent by Anthony Vaccarello ที่ต้องมีติดตู้ของซุปเปอร์สตาร์หนุ่มคือ “เบลเซอร์หนังกระดุมเดี่ยวเลยครับ” มาร์คตอบทันที

ในฐานะศิลปินเดี่ยว มาร์ค ต้วน หรือต้วน อี๋ เอิน หนุ่มอเมริกันเชื้อสายไต้หวัน เซ็นสัญญากับ Creative Artist Agency โดยทีม DNA ดูแลงานส่วนตัว ตอกย้ำว่านักร้องหนุ่มวัย 29 ปีต้องการมีส่วนร่วมหลักในการกำหนดทิศทางผลงานของเขาเอง แม้ว่าการบินเดี่ยวที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ค่ายเพลงอีกต่อไปอาจนำมาซึ่งความท้าทายมากมาย แต่ไม่ได้ทำให้แรปเปอร์หนุ่มหวั่นเกรงคลื่นลมแต่อย่างใด
“ผมมีส่วนในการตัดสินใจทุกอย่าง ซึ่งนั่นหมายความว่าผมต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับทุกด้านหากเปรียบเทียบกับตอนอยู่กับค่าย ผมไม่จำเป็นต้องเรียกมันว่าความท้าทาย เพราะมันช่วยให้ผมได้ควบคุมเส้นทางการทำงานและอาชีพต่อไปของผม ผมยังเกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ตลอดกระบวนการผลิตอัลบั้ม ผมชอบฟังเพลงที่รู้สึกตามได้ง่าย และผมอยากให้คนฟังเข้าถึงเพลงแบบเดียวกัน ผมนึกภาพไว้แล้วว่าอยากให้อัลบั้มเป็นอย่างไร และผมเชื่อว่าจะทำได้ก็ต่อเมื่อผมมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์และออกแบบอัลบั้มของตนเองอย่างเต็มที่”
ขณะที่เจบีเป็นลีดเดอร์ผู้รวมใจเมมเบอร์ทั้งเจ็ด มาร์คถูกมองเป็นพี่ใหญ่ของวงผู้เงียบขรึมและคอยซัพพอร์ตเมมเบอร์อยู่เบื้องหลัง แต่มาร์คได้แสดงความกล้าหาญและความเป็นผู้นำในช่วงสำคัญที่สุดของวง เมื่อเขารับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ของซิงเกิ้ล ‘Encore’ (แต่งโดยจินยอง) ซึ่งช่วยให้เหล่าอากาเซ่ทั่วโลกปาดน้ำตาแห่งความเศร้าทิ้งไปแล้วร้องไห้โฮออกมาด้วยความโล่งใจที่เมมเบอร์ทั้งเจ็ดยังคงและจะยังคงเป็น GOT7 ไม่เปลี่ยนแปลง


กระเป๋าหนังลูกวัวรุ่น Jay Camera Case ทั้งหมดจาก Saint Laurent by Anthony Vaccarello
“เรารู้ว่าเราจะยังทำวงต่อไป แต่แฟนคลับไม่รู้แผนการของเรา เราไม่ต้องการให้พวกเขากังวลเรื่องวง วิธีที่จะบอกได้ชัดเจนที่สุดว่าเรายังอยู่ด้วยกันคือการปล่อยเพลงที่ไม่ขึ้นกับค่ายออกมาให้เร็วที่สุด นั่นเป็นครั้งแรกที่พวกเราทำงานกันเองอย่างอิสระ ดังนั้นมันจึงเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่เราก็ดีใจที่ได้ทำมัน เราต้องการรับประกันกับ แฟนคลับว่าเรายังคงอยู่ด้วยกัน และพวกเขาไม่ต้องกังวล” แฟนคลับหวงแหนช่วงเวลาที่เมมเบอร์อยู่ร่วมกัน GOT7 เป็นวง K-pop ที่เมมเบอร์มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นที่สุดวงหนึ่ง การรวมตัวของเมมเบอร์ทั้งเจ็ดสร้างความบันเทิงและสนุกสนานให้ทุกรายการและทุกไลฟ์ที่พวกเขาไปร่วม เพราะเมื่อทั้งเจ็ดรวมตัวกัน พวกเขาจะเกรียนและเอะอะเป็นพิเศษ
“สิ่งที่ผมคิดถึงที่สุดในการมีเมมเบอร์อยู่ใกล้คือช่วงเวลาสนุกๆ ก่อนและระหว่างตารางงาน พวกเราไม่เคยอยู่เงียบๆ เลย เราเล่นและหยอกล้อกันตลอด ผมคิดถึงความวุ่นวายและเสียงเอะอะแบบนั้น เรายังคุยกันในแชทเสมอ ก็เลยไม่รู้สึกว่าเราห่างกัน เมมเบอร์บางคนอาจวุ่นอยู่กับการทัวร์และการถ่ายหนัง ช่วงนี้ผมจึงติดต่อกับแบมแบมมากขึ้นกว่าคนอื่น”


Laurent by Anthony Vaccarello
เมื่อถามถึงการคัมแบ็คของ GOT7 มาร์คตอบบนพื้นฐานของความจริงว่า “ต้องใช้เวลาสักหน่อยครับ เพราะตอนนี้ตารางงานของทุกคนแน่นเอี้ยดเลย แต่เราจะพยายามอย่างหนักที่จะกลับมาพร้อมอัลบั้มที่ยอดเยี่ยมเมื่อเวลาเหมาะสม”
เมื่อมองสำรวจมาร์ค มีบรรยากาศบางอย่างในตัวเขาที่เปลี่ยนไป (นอกจากสีผมใหม่ช่วงทัวร์คอนเสิร์ต) และนั่นเป็นภาพลักษณ์ของมาร์ค ต้วน ศิลปินเดี่ยวที่แตกต่างจากมาร์ค GOT7
“มาร์ค GOT7 เป็นส่วนหนึ่งของ 7 คน เมื่ออยู่ในวง เราจะชดเชยจุดอ่อนของกันและเติมเต็มสิ่งที่เมมเบอร์คนอื่นขาด ดังนั้น GOT7 จึงเป็นวงที่ครบเครื่องและสมบูรณ์ เราจะปล่อยเพลงที่ช่วยไฮไลต์คุณสมบัติของเราทั้งเจ็ดคน แต่กับมาร์คที่เป็นศิลปินเดี่ยว คุณจะได้พบกับดนตรีหลากหลายที่ผมอยากทดลอง ผมยังไม่อยากจำกัดตัวเองกับดนตรีประเภทไหนตอนนี้ การเดินทางเดี่ยวของผมยังค่อนข้างใหม่มาก และผมยังอยากทดลองซาวด์และสไตล์ที่หลากหลายกว่านี้” มาร์คเล่าตาเป็นประกาย สัมผัสได้ถึงพลังที่ขับเคลื่อนในการสร้างสรรค์ผลงานและความทุ่มเท
นอกจากความหล่อเหลาที่ทำให้เขาเป็น ‘visual’ ประจำวง และลีลาการเต้นที่ผสมผสานกีฬาผาดโผน มาร์คยังมีน้ำเสียงทุ้มนุ่มลึกเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้เขาร้องเพลงโรแมนติกละลายหัวใจผู้ฟังได้ไม่แพ้ท่อนแรปที่ทรงพลัง นอกจากนี้ มาร์คยังเคยฝากผลงานการแต่งเพลงโรแมนติกสุดสดใสอย่าง ‘Let Me’ และ ‘If’ (แต่งร่วมกับแบมแบม) ที่ฟังแล้วโลกเป็นสีชมพู แฟนคลับจึงรอจะฟังเพลงรักซึ้งๆ จากอเมริกันบอยคนนี้อีกสักครั้ง


“อัลบั้มหน้าจะแตกต่างจาก ‘The Other Side’ มากครับ จะมีเพลงโรแมนติกมากขึ้นไหม รอดูดีกว่าว่าเพลงแบบไหนจะได้มาอยู่ในอัลบั้มบ้าง! ผมอยากลองสไตล์ดนตรีใหม่ๆ อย่าง R&B และอัลเทอร์เนทีฟด้วย”
เมื่อถามถึงศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจ มาร์คอยากร่วมงานกับศิลปินอย่าง LANY, Justin Bieber, MachineGun Kelly, The Kid Laroi และ Blackbear หากมีโอกาส แม้ว่าส่วนตัวเขาจะยุ่งอยู่กับการทำอัลบั้มใหม่และทัวร์คอนเสิร์ตมากพออยู่แล้ว
“สิ่งที่ผมชอบที่สุดในการทัวร์คอนเสิร์ตคือเห็นแฟนๆ มีความสุข สิ่งที่ดีที่สุดในการแสดงอยู่บนเวทีคือการได้เห็นผู้ชมสนุก การได้รับพลังงานจากแฟนๆ ทำให้คอนเสิร์ตเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนสิ่งใดในโลกนี้”
มาร์ค ต้วน ได้รับการแคสติ้งให้มาเป็นเด็กฝึกของ JYP Entertainment ตอนอายุเพียง 16 ปี และเดบิวต์กับ GOT7 ในอีกสี่ปีต่อมา การเข้าวงการตั้งแต่ยังเด็กหล่อหลอมให้เขามีความสามารถรอบด้าน นอกจากทักษะการร้องและเต้น มาร์คยังเป็นนักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ นายแบบ และดีไซเนอร์ ขณะเดียวกันเขาก็รู้ว่าแฟนคลับยังมีความคาดหวังอื่นต่อตัวเขา

“ผมรู้ว่าแฟนๆ อยากเห็นผมเป็นนักแสดง เรายังไม่มีแผนอะไรตอนนี้ แต่เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง คุณอาจจะได้เห็นผมบนหน้าจอสักวันก็ได้”
เพราะอยู่ไกลถึงลอสแองเจลิสทำให้อากาเซ่ไทยคิดถึงมาร์คเป็นพิเศษและเฝ้ารอการมาถึงของศิลปินหนุ่มทุกครั้ง “ปีหน้าเราจะมีทัวร์คอนเสิร์ต ‘The Other Side’ ในเอเชีย และเราจะมาที่ประเทศไทยอย่างแน่นอน พบกันเร็วๆ นี้นะครับ อากาเซ่ชาวไทย!”
GOT7 มาเยือนในประเทศไทยหลายครั้งตลอดเวลากว่าเจ็ดปีในการทำงาน กระนั้นมาร์คก็ยังทึ่งในพลังการสนับสนุนที่ไม่เคยลดน้อยถอยลงของเหล่านกน้อยชาวไทย

“ผมรู้สึกทึ่งทุกครั้งกับการสนับสนุนที่ได้จากแฟนคลับชาวไทย แม้ว่าผมจะไม่ได้มาที่นี่บ่อยเหมือนสมัยที่มากับ GOT7 แต่ความรักและการสนับสนุนที่ผมได้รับทุกครั้งกลับยังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แฟนคลับยิ่งแสดงความรักมากขึ้นทุกครั้งที่ผมมา ผมรู้สึกขอบคุณแฟนคลับชาวไทยทุกคนและผมจะพยายามมาหาพวกคุณให้บ่อยขึ้นในปีหน้านะครับ!”
และอากาเซ่ไทยก็รู้ว่ามาร์ครักษาคำพูดของเขาเสมอ
– Author: Janejira Sereeyotin –
Photographer: Ricardo Beas
Stylist: Janice Oppenborn
Director of Photographer / Video: Flavio Melgarejo
Assistant Stylist: Jennifer Robinson
Assistant Photographer: Danya Morrison
Grooming: Vivienne Rao