THE TEERADON’S METHOD

90 วัน กับภารกิจอันยิ่งใหญ่ในประเทศออสเตรเลีย รอยยิ้มและคราบน้ำตาจากบทบาทใหม่ที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน

Photographer: Perakorn Voratananchai

Direction by: Napat Roongruang

Author: Neeraj Trirongaubon

23 มิถุนายน 2561 เวลา 22:00 น. เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้รับแจ้งว่ามีผู้ติดอยู่ในถ้ำหลวง 13 ชีวิต

“ถ้าเป็นคนดูที่ไม่ใช่คนไทย คิดว่าไม่มีใครจำผมได้ เพราะแต่ละบทที่รับมาไม่เคยเหมือนกันเลย” ไม่รู้ว่าอะไรอยู่ในหัวของเจมส์ – ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ ถึงทำให้เขาตอบกับเราแบบนี้เพียงเพราะเราถามว่าอยากให้คนดูคาดหวังอะไรในตัวเขา ในช่วงกลางเรื่องของภาพยนตร์ Thirteen Lives เราแทบจำเขาไม่ได้เพราะหน้าตาผอมซูบจนเห็นกระดูกโครงหน้าอันชัดเจนและเบ้าตาที่ลึกลงไปอย่างน่าใจหาย เจมส์ต้องรับบทเป็น ‘โค้ชเอก’ (เอกพล จันทะวงษ์) 1 ใน 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงนับสิบวันเพราะระดับน้ำเพิ่มสูงจนไม่สามารถออกมาได้ นี่เป็นความท้าทายครั้งใหม่ของเขาที่ต้องเล่นเป็นคนอื่นซึ่งมีชีวิตอยู่จริง เจมส์ค่อยๆ เปลี่ยนตัวเองเป็นโค้ชเอกจากการดูคลิปในอินเทอร์เน็ตทุกวัน เลียนแบบสำเนียงและท่าทาง รวมทั้งสายตาของชาวแม่สายที่ไร้รัฐไร้สัญชาติผู้ต้องดูแลเยาวชนอีก 12 ชีวิตให้รอดไปพร้อมกัน

“ผมเริ่มได้ยินข่าวจากทวิตเตอร์ประมาณ 2 วันหลังเกิดเหตุเพราะติดเทรนด์ขึ้นมา ตอนแรกที่เห็นก็คิดว่าวันสองวันคงจะออกมาแล้ว รู้สึกว่าไม่ใช่เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่อะไร แต่สักพักหนึ่ง พอเวลามันเริ่มผ่านไปหลายๆ วัน หน่วยซีลเริ่มเข้าไปแล้วช่วยไม่ได้ ยังไม่เจอ ก็เริ่มรู้สึกว่ามันซีเรียสเหมือนกันนะ ผมก็ตามอยู่เรื่อยๆ เพราะตอนนั้นเป็นข่าวใหญ่มากทั้งในประเทศไทย แล้วก็สำหรับคนทั้งโลกเหมือนกัน” เขานึกย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์วันนั้นในฐานะผู้ชมที่เฝ้ามองอย่างสนใจ “ผมว่า (นิ่งคิด) มันเป็นภารกิจที่ดูเป็นไปไม่ได้ เรียกอย่างนั้นดีกว่า ทุกคนเลยอยากช่วย เรามีเป้าหมายเดียวกันทั้งโลก อยากจะช่วยพวกเขาออกมาให้ได้ เป้าหมายนี้มันใหญ่มาก”

26 มิถุนายน 2561 เวลา 20:00 น. ทีมกู้ภัยจากองค์กร British Cave Rescue Council มาถึงถ้ำหลวง

“ทุกคนต้องแคสต์หมดเลย” เจมส์เริ่มเล่าขั้นตอนคัดเลือกนักแสดงตั้งแต่ช่วงแรกให้ฟัง “คนไทยทุกคนก็ทำการแคสต์โดยเอเจนซี่ของไทย ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าแคสต์เป็นบทอะไรไม่รู้ว่าแคสต์เรื่องอะไรด้วย ไม่รู้อะไรเลย แต่เขาบอกว่าเป็นหนังต่างประเทศ โปรดักชั่นใหญ่ รู้แค่ว่าเล่นเป็นโค้ช ก็ลองแคสต์ดู หลังจากนั้นอีกหนึ่งอาทิตย์เขาก็บอกว่าอยากแคสต์อีกรอบ คราวนี้จะให้วิดีโอคอลกับรอน (รอน ฮาวเวิร์ดผู้กำกับ) โห ยิ่งใหญ่แล้วนะ ไม่ได้คิดว่าจะได้ เพราะต้องเล่นเป็นบุคคลที่มีอยู่จริง รูปลักษณ์หน้าตาเราก็ไม่ได้เหมือนโค้ชเอกตัวจริง คิดว่าเราคงไม่ได้ แต่หลังจากนั้น 3 วันทีมงานก็โทรมาบอกว่า รอนเขาเลือกนะ เดี๋ยวทำวีซ่า สิ้นเดือนต้องบินเลย ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ขั้นตอนทุกอย่างเกิดขึ้นในระยะเวลาแค่เดือนครึ่งเอง

“ผมดูคลิปโค้ชเอกทุกวันเลยนะ แล้วก็พูดเลียนเสียงเขาพูดตามประโยคที่เขาพูด ก็อปปี้ไปเรื่อยๆ แล้วก็ต้องไปฝึกภาษาเหนือเพิ่ม สังเกตว่าเวลาออกสื่อเขาจะพูดเป็นสำเนียงกลาง แต่พออยู่กับเด็กเขาก็จะพูดเป็นภาษาถิ่นเชียงราย ซึ่งผมรู้ว่ามันแตกต่างกับเชียงใหม่” ถ้าเอาประโยคแรกของบทสัมภาษณ์นี้ทาบกับผลงานของเขาที่ผ่านมาก็จะรู้ว่าสิ่งที่เจมส์พูดไม่ใช่เรื่องโกหก เขาเคยรับบทเด็กนักเรียนมัธยม หนุ่มสกินเฮด เด็กรวยลูกเจ้าของโรงแรม และเด็กเนิร์ดที่เฝ้ามองคนในตระกูลห้ำหั่นกันเอง เหมือนกับครั้งนี้ เจมส์นับหนึ่งใหม่กับหลายอย่างในชีวิต มีภารกิจซ้อนภารกิจมากมายที่เขาต้องเริ่มก่อนการถ่ายทำ “ต้องทำหลายอย่างทั้งฝึกนั่งสมาธิ พูดสำเนียงเหนือ ลดน้ำหนักด้วย ผมไม่เคยนั่งสมาธิเลย มาศึกษาเพราะเรื่องนี้นี่แหละ ไปอยู่วัด ไปนอนวัด ไปให้พระสอนการนั่งสมาธิ ก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ดีนะมันทำให้เรามีสมาธิกับการทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้มากขึ้นเราโฟกัสกับสิ่งต่างๆ ที่จะทำได้มากขึ้น รับรู้ได้มากขึ้น พอถึงเวลาที่ต้องซ้อมกับเด็กหลายๆ คน ก็พยายามลิ้งก์เข้ากับบทที่ต้องสอนให้เด็กนั่งสมาธิตอนอยู่ในถ้ำ ทุกการซ้อม ผมจะนำเด็กนั่งสมาธิก่อนเวิร์กช็อป 10 นาที แล้วก็หลังเวิร์กช็อปอีก 10 นาทีเป็นเหมือนแอคติ้งโค้ชช่วยสอนเด็กๆ ไปด้วย ตอนแรกน้องจะซนหน่อย แต่พอถึงเวลาทำงานจริงพวกเขาตั้งใจมากนะ ได้ความเรียลมากๆ แม้แต่วิกโก้ (วิกโก มอร์เทนเซน) กับคอลลิน (โคลิน ฟาร์เรล) ก็บอกว่าอะเมซิ่งมากตั้งแต่วันแรก”

2 กรกฎาคม 2561 เวลา 21:38 น. นักประดาน้ำชาวอังกฤษ 2 คน ได้ค้นพบผู้รอดชีวิตทั้ง 13 คน

ในภาพจำของเรา เจมส์เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความมั่นใจสูง และเป็นตัวของตัวเองอย่างถึงที่สุด เขาเคยผ่านงานในวงการมาหลายประเภทจนไม่น่าจะมีอะไรเป็นอุปสรรคในอาชีพของเขาได้อีกแล้ว แต่ความเป็นจริงที่เจมส์ต้องเผชิญมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น“ผมพยายามนำเสนอสิ่งที่ได้รับมอบหมายออกมาให้ดีที่สุด ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด สิ่งที่ต้องปรับตัวคือการไปถ่ายที่ออสเตรเลียนาน 3 เดือน ภาษาที่ใช้สื่อสารก็แตกต่าง พยายามฝึกมาเพราะผมไม่ได้มีภาษาอังกฤษที่แข็งแรง เวลานั่งรถไปโลเคชั่นจะใช้เวลาประมาณ 40 นาที เราก็คุยกับคนขับรถไปเรื่อยๆ อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ อยู่ให้มันคุ้นชินมากขึ้น แต่เรื่องงานไม่กังวลอะไรมาก เพราะระบบในกองถ่ายมันมีความคล้ายกันอยู่แล้วในความเป็นสากลของการทำงาน

“ผมว่าทีมโปรดักชั่นจากต่างประเทศมี work-life balance ดีมาก” เราไม่คิดว่าเจมส์จะเปิดด้วยประโยคนี้หลังจากที่เราถามว่าเขาได้เรียนรู้อะไรจากการทำงานกับกองถ่ายในต่างประเทศ เจมส์นิ่งคิดสักพักแล้วอธิบายความอึดอัดของเขาออกมาเพื่อให้เราเข้าใจมากขึ้น “พวกเขาทำงาน 10-12 ชั่วโมงแล้วผมว่าด้วยเวลาเท่านี้เราสามารถดึงศักยภาพของตัวเองออกมาได้ ที่จริงกองถ่ายในไทยก็ควรเป็นอย่างนี้ ผมว่าการทำงาน16 ชั่วโมงมันไม่เมคเซนส์เลย พูดตรงๆ เลยว่า work-lifebalance ไม่มี ยังไม่รวมตอนแหกคิวไปอีก ผมรู้สึกว่าสิ่งนี้เมคเซนส์สุดแล้ว ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้ประเทศไทยมาถึงจุดนี้เหมือนกัน การที่เรามีสหภาพแรงงาน มีระบบ มีระเบียบการทำงานที่ชัดเจน จะสร้างคุณภาพชีวิตคนในกองให้ดี เพราะว่าทุกวันนี้กฎหมายยังเรียกการถ่ายหนังว่ากิจกรรมอยู่เลย (ถอนหายใจ) ไหนจะกฎหมายคุ้มครองแรงงานอีก เราควรทำสิ่งนี้ได้แล้ว เราไม่ควรโลกสวยโดยมองว่าการทำงานแบบ 24 ชั่วโมงคือความทุ่มเท Nah! Sh*t! ผมว่ามันไม่เท่ จะเท่กว่าคือมี 12 ชั่วโมงแล้วถ่ายจบ คุณภาพออกมาดี ทำให้ทุกคนมี work-life balance อันนี้เท่กว่า เราเห็นคนในกองถ่ายทำงานหนัก เริ่ม 6 โมง เสร็จ 4 ทุ่ม บางคิวเลทไปถึงเที่ยงคืน กว่าจะถึงบ้าน แล้วนัดกองอีกวันนึงคือ 6 โมงเช้า แล้วทีมไฟที่กลับทีหลังแต่มาก่อน เฮ่ย!นอนน้อยตายไวนะ เข้าใจปะ ชีวิตมันจะสั้นลง นี่คือเรื่องจริง!”

8 กรกฎาคม 2561 เวลา 17:40 น. เจ้าหน้าที่นำเยาวชนคนแรกออกจากถ้ำหลวงได้สำเร็จ

ภารกิจของเจมส์สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ภาพยนตร์เรื่อง Thirteen Lives ถือเป็นความสำเร็จอีกหนึ่งขั้นของเขาในฐานะนักแสดงที่พาตัวเองออกไปสู่คนดูระดับสากลบนแพลตฟอร์มที่มีสมาชิกทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 200 ล้านคน “ไม่รู้ว่ามันจะไปไกลได้ขนาดไหน แต่นี่เป็นโอกาสแรกของผม สำหรับผมมันยิ่งใหญ่มาก แค่เป็นจุดเล็กๆ ในตรงนั้นได้เราก็ดีใจแล้ว มันสำคัญมาก หมายถึงว่าเราไม่รู้ว่าผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง แต่วันนี้เราดีใจมากที่ได้มาถึงตรงนี้ มันมีโอกาสที่มาถึงเรา แล้วเราไปตรงนั้นได้ เป็นความท้าทายที่สนุก ผมชอบความท้าทาย ชอบสิ่งที่ดูจะไม่ใช่เราเลยแต่ต้องเป็นให้ได้ เรียกว่าเป็นความสนุกละกัน” แม้จะยากแค่ไหน แต่ก็ยังดีที่เจมส์มองประสบการณ์เหล่านี้เป็นเรื่องสนุก 8 ปีในวงการบันเทิงอาจเป็นเพียงช่วงเวลาบ่มเพาะให้เขาไปต่อกับภารกิจอันยิ่งใหญ่กว่านี้ ยังมีความสนุกอีกหลายดีกรีที่เราอยากเห็นจากเขา และหวังว่าจะมีโอกาสได้เห็นจริงๆ ในสักวัน

10 กรกฎาคม 2561 เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเยาวชนนักฟุตบอลและผู้ช่วยผู้ฝึกสอนได้ครบทั้ง 13 คน

สามารถรับชมภาพยนตร์เรื่อง Thirteen Lives ได้ที่ Prime Video