สองขั้วที่ถูกนำมาผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ผ่านการสร้างสรรค์ของ Kim JONES และ ELI RUSSELL LINNETZ ผู้อำนวยการสร้างของ ERL การผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมห้องเสื้อชั้นสูงของปารีสกับวัฒนธรรมแคลิฟอร์เนียที่ไม่อยากเกินเข้าใจตั้งแต่ลุคแรกที่เผยโฉมบนรันเวย์ แจ็คเก็ตที่มาจากการต่อยอดจาก Bar jacket ของมิสเตอร์ดิออร์แต่มาครั้งนี้มีเทคนิคใหม่ที่ทำให้เกิดการเข้าช่วงเอวของแจ็คเก็ตเพียงเล็กน้อยและผายออกในช่วงชายแจ็คเก็ตโดยมีความพองอยู่เล็กๆ แต่ไม่ได้พองแบบเสื้อกันหนาว ถือว่าสะดุดตาแต่แรกที่คิม โจนส์ นำเอาดีเอ็นเอของ Dior มาต่อยอดอย่างดงาม กางเกงทรงหลวมที่มีกลิ่นอายของกางเกงคาร์โก้แต่ละเลยกระเป๋าปะเพื่อทำให้ลดความเป็นสตรีทลง เสริมความหรูหราด้วยผ้าซาตินทีมีความมันวาว แต่รองเท้าก็เป็นรองเท้านักสเก็ตที่มีดีไซน์เฉพาะตัวและแน่นอนว่าเป็นที่หมายปองของสาวกดิออร์
แฟชั่นโชว์ที่จัดในค่ำคืนแห่งฤดูใบไม้ผลิบนถนนแห่งสายลมที่เวนิซบีช แคลิฟอร์เนีย นี้เป็นคอลเลกชั่นฤดูใบไม้ผลิ 2023 ซึ่งเป็นแคปซูลคอลเลกชั่นก่อนการแสดงคอลเลกชั่นฤดูร้อนที่จะมีในปารีสช่วงเดือนมิถุนายนนี้ แต่การทำเป็นแคปซูลคอลเลกชั่นที่ทำให้เกิดงานสร้างสรรค์ร่วมกันระหว่าง Kim JONES และ ELI RUSSELL LINNETZ ที่ถูกในสายสตรีทกูตูร์อย่างแน่นอน สำหรับเวนิซบีช ที่แอลเอนั้นมีชื่อเสียงว่าเป็นย่านที่โด่งดังเป็นที่คุ้นเคยทั้งในโลกแห่งภาพยนตร์ ศิลปะ ชีวิต และแฟชั่นถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันอย่างไม่เคยมีมาก่อน
เราจึงเห็นเสื้อถักทรงหลวมแต่ถักด้วยไหมที่มีความมันวาวในตัวมีลวดลายตัวหนังสือ(อย่างคำว่า Californis Couture)ที่ออกแบบมาในแบบชาวสเก็ตชื่นชอบแต่มีความเนี้ยบความหรูมากกว่าเสื้อยืดพิมพ์ลายตามปกติ เสื้อถักแขนยาวนี้จะมีมากหน่อยเพราะฤดูใบไม้ผลิที่นั่นอากาศยังค่อนข้างเย็น แต่ในส่วนของแจ็คเก็จเดนิมหรือกางเกงขาสั้นนักสเก็ต(ทรงหลวม ยาวระดับหัวเข่า)ตัดจากผ้าเดนิมสีซีดตกแต่งด้วยการปักคริสตัลเพิ่มความหรูก็ดูสะดุดตาและเทรนด์นี้มาแน่นอน ถ้ายังไม่กูตูร์พอก็มีกางเกงขาสั้นทรงนี้ปักด้วยขนนกแบบชุดโอ๊ตกูตูร์สวมกับเสื้อมีฮู้ดปักเลื่อมสีเงินแวววาวลายรูปคลื่น ขนมาทุกวัสดุที่สุดหรูแต่มาอยู่ในรูปทรงของชุดแนงสตรีทหรือสเก็ตเชอร์ นอกจากรองเท้านักสเก็ตแล้วยังมีกระเป๋าที่สายเป็นโซ่ทองดีไซน์เท่ๆ หลากหลาย สายของกระเป๋าเป็นเครื่องประดับไปในตัว จะสะพายคล้องไหยหรือสะพายเฉียงโซ่ทองของกระเป๋าคือเครื่องประดับ ไม่แปลกใจที่กระเป๋าบางดีไซน์ตัวกระเป๋าจะมีขนาดมินิเพื่อเน้นย้ำว่านี่คือเครื่องประดับมากกว่ากระเป๋าใส่ของ ถือเป็น it bag ที่ต้องมีและไม่แฟมินีนแม้จะเป็นโซ่ทองเพราะดูจะเป็นเครื่องประดับของแรปเปอร์มากกว่า
อีกหนึ่งความเท่คือหมวกต่างๆ ที่เป็นไหมพรมถักแต่เส้นไหมพรมไม่ธรรมดามีการผสมวัสดุที่มีความหรูในเส้นไหม ทรงของหมวกจะแปลกตาเหมือนหมวกของโจ๊กเกอร์ในยุคกลาง(ไม่ใช่โจ๊กเกอร์ในหนังแบทแมนนะ) แต่คนสวมแล้วไม่ดูเป็นตัวตลกแน่นอนเพราะดีไซนืและวัสดุนั้นออกมาสุดหรูมาก เป็นอีกหนึ่งไอเท็มของฤดูใบไม้ผลิปีหน้าที่ช่วยสร้างลุคแบบไอคอนได้ บางใบมีทรงแบบหมวกคาร์ดินัลแต่มีปีกยกสูงดูเท่ ไม่ธรรมดาเลยสำหรับหมวกในซีซั่นนี้
มีเสื้อถักแล้วก็ต้องมีเสื้อบุนวมที่ไม่ดูเทอะทะ แต่บุนวมเป็นลายเส้นคลื่นในเฉดสีหวานอย่างเขียวและชมพู โทนสีพาสเทลนี้มาจากยุคอาร์ตเดโคซึ่งที่เวนิซบีชนั้นก็มีความรุ่งเรืองในยุคเดโคมาก่อน สีพาสเทลทั้งหมดที่แทบจะคลุมคอลเลกชั่นนี้ก็มาจากเหตุนี้นี่เอง และอีกเฉดสีที่โดเด่นก็คือสีชมพูเกือบจะเป็นช็อกกิ้งพิงค์(คือต้องออกเฉดชมพูม่วงกว่านี้ก็จะเป็นช็อกกิ้งพิ้งค์แล้ว) สำหรับลวดลายของแจ็คเก็ตบุนวมยังมีลายสาน cannage ที่เป็นดีเอ็นเอของดิออร์อีกด้วย ในช่วงท้ายๆ โทนสีของชุดจะเป็นสีเข้มขึ้นจนเป็นเฉดแดงน้ำตาล โดยมีลายพิมพ์หนังสือพิมพ์ ลายพิมพ์ที่ออกแบบมาสำหรับคอลเลกชั่นนี้โดยการคอลลาจภาพโบราณของความรุ่งเรืองที่เวนิซบีชแต่เอามาทำในเทคนิคการพิมพ์โมโนโทนที่ล้ำสมัย
จบที่การ Hint เล็กๆ ถึงการสมรสเท่าเทียมด้วยชุดสูทสีขาวที่ตัวแจ็คเก็ตมาจากบาร์แจ็คเก็ตมีหมวกสีขาวเข้าชุดกันและมีตาข่ายสีขาวแต่ไม่ได้เดินออกมาเป็นคู่ เพียงแต่หยอดไว้นิดๆ รับเดือนมิถุนายนแห่ง Pride month แต่นี่แล้วแต่จะตีความกันเองเพราะทางแบรนด์ก็ไม่ได้บอกมา เพียงแต่เราดูแล้วก็คิดว่าน่าจะเป็นฟินาเล่เป็นโอ๊ตกูตูร์ที่จะต้องจบด้วยชุดแต่งงาน
