ROLEX : Oyster Perpetual GMT-Master II.
สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากในการเปิดตัวนาฬิการุ่นล่าสุดของ ROLEX ในงาน Watches and Wonders-Geneva 2022 กับนาฬิกาที่มีเม็ดมะยมด้านซ้ายรวมทั้งหน้าต่างวันที่ก็ขยับมาอยู่ที่ 9 นาฬิกา โดยมี เลนส์ขยายหรือ Cyclops lens ช่วยขยายให้มองเห็นวันที่ได้ชัดเจนขึ้น เป็นการพลิกการจัดวางกลไกด้านในให้มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเพราะไม่ใช่การกลับขวาเป็นซ้ายกับกลไกแล้วจะออกมาเป็นเช่นนี้ได้


การกลับมาของ Oyster Perpetual GMT-Master II. นับตั้งแต่ปี 1982 ที่เผยโฉมเป็นครั้งแรก แต่รุ่นใหม่นี้ก็มาพร้อมกับความใหม่ทั้งสีของขอบหน้าปัดที่ทำหน้าที่บอกเวลาของไทม์โซนที่สองซึ่งแบ่งเป็นสีดำกับสีเขียวซึ่งไม่เคยมีมาก่อนสำหรับนาฬิการุ่นนี้ ทำจาก Cerachrom โดยตัวเรือนทำจาก Oystersteel ขนาด 40 มม. ซึ่งเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติกันน้ำ และนาฬิการุ่นนี้กันน้ำได้ลึก 100 เมตร โดยปุ่มเม็ดมะยมมีการล็อค 3 ชั้นเพื่อกันน้ำโดยมีชิ้นส่วนที่ปกป้องเม็ดมะยมหรือ crown guard ที่กันไม่ให้ไปโดยเม็ดมะยมโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งเป็นดีไซน์ที่เน้นความสมบุกสมบันของนาฬิกาเพื่อการใช้งาน



กลไก Calibre 3285 ที่มีความเที่ยงตรงสูงจาก blue Parachrom hairspring ที่ทาง ROLEX ได้คิดค้นขึ้นเพื่อให้เกิดความเที่ยงตรงของจังหวะการเดินของเข็มนาฬิกา โดยกลไกชุดนี้ถือว่าเป็นชุดที่มีประสิทธิภาพสูงชุดหนึ่งของ ROLEX รับประกันด้วยการผ่านการทดสอบจาก Swiss Official Chronometer Testing Institute (COSC) ด้วยคุณสมบัติที่เหมาะเป็นนาฬิกาสำหรับนักเดินทางทำให้ Oyster Perpetual GMT-Master II. ไม่เพียงแต่มีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์และทำมาสำหรับคนที่ชอบใส่นาฬิกามือขวา และคงถูกใจอย่างยิ่งสำหรับคนที่ถนัดมือซ้ายเพราะเหมือนออกแบบมาให้พวกเขาโดยเฉพาะ แต่ทว่าไม่ได้หมายความว่าคนถนัดขวาจะใช้นาฬิกานี้ไม่ได้หรือจะสวมนาฬิกานี้กับมือซ้ายไม่ได้ แต่กลับเป็นดีไซน์ที่สร้างความเท่อย่างมีเอกลักษณ์ ด้วยคุณสมบัติที่สำรองพลังงานได้นานถึง 70 ชั่วโมง

สายนาฬิกาเป็น Oyster bracelet สุดคลาสสิกที่แต่ละข้อต่อมีส่วนประกอบ 3 ชิ้นอันเป็นดีไซน์คลาสิกของสายนาฬิกาออยสเตอร์มายาวนาน โดยสายสำหรับนาฬิการุ่นนี้จะมีคลิปเป็นตัวล็อคเพื่อความมั่นใจว่าจะไม่ไปโดยตัวล็อคโดยบังเอิญแล้วทำให้สายนาฬิกาปิดออก โดยตัวล็อคสายเป็นแบบบานพับ
ดีไซน์ที่สะดุดตั้งแต่เม็ดมะยมอยู่ด้านซ้ายของ Oyster Perpetual GMT-Master II. ยังมีรายละเอียดอื่นๆ ที่ทรงประสิทธิภาพแฝงไว้อีกมาก เชื่อว่าหลายคนต้องการจับจองที่จะเป็นเจ้าของนาฬิกาเรือนพิเศษนี้ และถือเป็นดีไซน์แห่งปีของ ROLEX ที่ออกมาสร้างความฮือฮาจริงๆ