ทำความเข้าใจเจมส์ – จิรายุให้มากขึ้นกับ See More อัลบั้มเดี่ยวครั้งแรกในชีวิตของเขา

Share This Post

- Advertisement -

“จริงๆ เพลง ‘วางใจ’ นี่เป็นเพลงที่สามในอัลบั้มแล้วครับที่ถูกปล่อยออกมา”​ เจมส์ – จิรายุ ตั้งศรีสุข เริ่มต้นบทสนทนากับเราผ่านโปรแกรมซูมตามวิถีปกติใหม่ เขาเพิ่งจัดงานเปิดตัวเพลงใหม่ของเขาออนไลน์ไปเมื่อวานหยกๆ แต่ดวงตาใสแจ๋วของเขาไร้แววเหน็ดเหนื่อย หากเต็มไปด้วยความตื่นเต้น และส่องประกายราวกับเด็กน้อยได้ของเล่นใหม่ ซึ่งเป็นแววตาเดิมที่เราเคยเห็นเมื่อทีมงานเราได้ร่วมงานกับเขาในครั้งที่เรายังใช้ชื่อว่า L’Optimum อยู่ “แต่เพิ่งได้เปิดตัวจริงจังเป็นเพลงแรก พอได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ มีคนเห็นเยอะขึ้น เพื่อนๆ ก็ทักมาว่า ‘ดีใจด้วยนะที่เพลงดังขึ้นแล้ว’ ผมก็ดีใจมากครับ ตื่นเต้นกว่าเพลงที่แล้วหน่อยนึง”

เพลงนี้ เจมส์ได้ร่วมงานกับทั้งตั้ม โมโนโทน (สถาปัตย์ ธีรนิตยภาพ) ในฐานะโปรดิวเซอร์ และสิงโต นำโชค ในฐานะคนแต่งเนื้อร้อง ซึ่งทั้งสองคนก็ถือว่าเป็นเบอร์ใหญ่ในวงการเพลง เจมส์รู้สึกอย่างไรที่ได้ร่วมงานกับพวกเขาตั้งแต่อัลบั้มแรกแบบนี้ “ก็… พี่ๆ เขาน่ารักมากเลยครับ ช่วยเหลือผมแบบสุดๆ เลย” เขาหัวเราะสดใส “ผมได้มีโอกาสไปหาพี่ตั้มที่ออฟฟิศบ่อยๆ เขาก็บอกเลยว่านี่เป็นเพลงที่เขาแต่งให้ เป็นเพลงแบบสนุกๆ นะ ส่วนพี่โตก็น่ารักมากเลยครับ บอกเสมอว่ามีอะไรอยากแก้ไขให้บอกเขาได้เลย ซึ่งผมก็บอกไปเลยว่าเพลงมันดีจนผมไม่มีอะไรจะแก้ไขเลยครับ” 

ให้คนอื่นทำเนื้อเพลงให้แบบนี้ อัลบั้มนี้บ่งบอกความเป็นตัวตนของเจมส์มากน้อยอย่างไร เราอดสงสัยต่อไม่ได้ “ผมว่าทั้งอัลบั้มนี้บ่งบอกตัวตนของผมเยอะมากเลยนะครับ” เจมส์ตอบทันทีแบบไม่หยุดคิด “เพราะว่าแต่ละเพลงจะมีสารตั้งต้นมาจากสิ่งที่ผมเป็นอยู่แล้ว หรือไม่ก็มาจากนิสัยของผม มันเลยค่อนข้างบอกได้ชัดเจนว่าเพลงในอัลบั้มจะมีหลากแนว หลายสไตล์นะ เพราะมันเป็นตัวผมที่ผมนำเสนอออกมาในอีกหลายๆ แง่มุม ซึ่งก็ตรงกับชื่ออัลบั้ม See More ที่พี่อีกคนหนึ่งช่วยกันคิด จากตอนแรกที่ผมจะใช้ชื่ออัลบั้มว่า ‘ดื้อ’ คือเด็กดื้อ หัวรั้นจะทำเพลง แต่พี่คนนั้นเสนอว่าให้ใช้ชื่อนี้แทน เพราะโปรเจ็กต์นี้จะทำให้คนนอกมองเห็นแง่มุมที่แตกต่างของผมค่อนข้างเยอะมาก ทั้งสไตล์เพลง เนื้อหา และเอ็มวี การ See More คือการให้แฟนเพลงค้นหาเราไปได้เรื่อยๆ กับโปรเจ็กต์นี้ครับ” 

แล้วคาดหวังกับอัลบั้มแรกในชีวิตไว้มากขนาดไหน เราเห็นความสดใสของเด็กหนุ่มตรงหน้าแล้วก็อดตั้งคำถามพื้นๆ ไม่ได้จริงๆ “ส่วนตัวไม่ได้คาดหวังเลยครับ”​ เจมส์ตอบทันที ก่อนจะชะงักและรีบอธิบายเพิ่มแบบไม่ทิ้งช่วง “ต้องอธิบายอย่างนี้ครับ มันมีสองช่วงครับ ช่วงแรกที่ผมเริ่มต้นนั่งทำโปรเจ็กต์นี้ ผมคาดหวังมากครับ คาดหวังว่ามันจะต้องเท่มากๆ ดีมากๆ แต่พอได้ลงมือทำจนเสร็จกระบวนการทุกอย่างแล้ว ก่อนที่จะปล่อยออกมา ได้มานั่งไล่ๆ ดูภาพรวมทั้งหมด ก็ได้เห็นศักยภาพของตัวเองที่ได้ทำทุกอย่างลงไป ความคาดหวังก็ลดลงครับ ผมรู้สึกแค่ว่าผมได้ทำเต็มที่แล้ว ณ วันนี้ มันอาจจะไปไม่ถึงในจุดที่ผมจะคาดหวังกับตัวเองได้ ผมก็คิดว่า โอเคนะ… ถ้าเป็นแบบนั้น ผมทำทุกอย่างเต็มที่แล้วจริงๆ เลยอยากจะมาสื่อสารให้ทุกคนได้เห็นว่าสิ่งที่ผมได้พยายามทำมาตลอดทางนั้นคืออะไร เท่านั้นเองครับ” 

ดูเหมือนว่าเจมส์จะสงบนิ่ง ยอมรับความจริง และเติบโตขึ้นกว่าเจมส์คนเดิมที่เราเคยสัมภาษณ์เมื่อนานมาแล้วอย่างเห็นได้ชัดเจน มองอนาคตตัวเองในฐานะศิลปินไว้อย่างไรกัน เราตั้งคำถามสุดท้ายกับเขา “ผมไม่ได้มองเลยครับว่ามันจะเป็นแบบไหน” อีกครั้งที่เขาตอบราวกับไม่คิด “แต่ผมมองว่าผมจะทำสิ่งนี้ และจะสนุกกับสิ่งนี้ไปเรื่อยๆ เพราะสิ่งที่ผมต้องการในการทำงานเพลงคือความสนุกในการได้ค้นหาตัวเอง และความสนุกในการพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อยๆ ในวงการเพลง เท่านั้นเองครับ” ขออีกสักคำถามแล้วกัน คิดว่าตอนนี้ต้องพัฒนาอะไรบ้าง “อันดับแรกคือเสียงก่อนเลยครับ ที่อยากพัฒนามากๆ” เจมส์ยิ้ม “แล้วก็สไตล์การร้อง กับคาแรกเตอร์ในการร้องที่ควรจะชัดเจนกว่านี้ครับ” 

สตรีมอัลบั้ม See More ของ JAMESJI ได้แล้วทุกช่องทางออนไลน์

- Advertisement -