เห็นผลแล้ว! Gucci ประกาศ ผลประกอบการด้านสิ่งแวดล้อมปี 2562 โดยปริมาณการปล่อยคาร์บอนลดลงกว่า 21%

Share This Post

- Advertisement -

ในโอกาสวันสิ่งแวดล้อมโลก Gucci เปิดตัวแคมเปญใหม่ที่อุทิศให้กับงานพัฒนาความยั่งยืนบนอินสตราแกรม Instagram.com/GucciEquilibrium และ Equilibrium เว็บไซต์ www.equilibrium.gucci.com เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นที่มีอย่างต่อเนื่องของGucciในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดขึ้นกับผู้คนและโลกใบนี้ นอกจากนั้น Gucci ยังได้ประกาศผลประกอบการด้านสิ่งแวดล้อม หรือที่เรียกว่า EP&L ว่าสามารถลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมโดยรวมไปได้อย่างมากถึง-21% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

Gucci Equilibrium เปิดตัวครั้งแรกในงานวันสิ่งแวดล้อมโลกในปี 2561โดยในปีนี้แคมเปญมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของคนในชุมชนที่รวมตัวกันแสดงความคิดเห็นในหัวข้อต่างๆ ที่มีความสำคัญมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในโลกปัจจุบัน นอกเหนือจากช่องทางดิจิตัลอื่น ๆ ของGucci Instagram.com/GucciEquilibriumและ www.equilibrium.gucci.comแคมเปญนี้เป็นการปูทาง ปละเปิดช่องทางใหม่เพื่อสื่อสารกับกลุ่มคนที่มีความสนใจ ชื่นชอบ และมีแรงบันดาลใจเดียวกัน ที่เรียกกันในชื่อว่า #GucciCommunity

GucciCommunity นี้ประกอบด้วยบุคคลที่มีความคิดเห็นเดียวกัน ต้องการทำงานร่วมกันเพื่อยืนหยัดขึ้นต่อสู้เพื่อประเด็นทางสังคมที่กำหนดวิถีปฏิบัติต่อโลกและซึ่งกันและกัน แพล็ทฟอร์มดิจิตัลใหม่ของGucci จะทำหน้าที่แบ่งปันข้อมูลจากชุมชนที่อยู่บน Gucci Equilibrium และที่อื่น เพื่อกระตุ้นให้เกิดการแบ่งปันประสบการณ์และความคิดสร้างการเปลี่ยนแปลง

ดูโพสต์นี้บน Instagram

@gucciequilibrium is defined by one of its pillars—Planet—to reduce environmental impacts within Gucci’s direct operations and across the entire supply chain and introduce sustainability at every stage of the Gucci creation process—from the design phase where designers think outside traditional material choices, to use alternative and sustainable approaches. Other production and manufacturing processes include the Gucci Scrap-less program, uses less water and chemicals and minimizing the amount of finished leather scraps by tanning only the leather needed for production. Gucci also promotes metal or chrome free tanning for a lower environmental impact and upcycles leather and textile offcuts created during manufacturing through the ‘Gucci-Up’ program. Discover more on @gucciequilibrium.

โพสต์ที่แชร์โดย Gucci (@gucci) เมื่อ

Gucciดำเนินการภายใต้แรงผลักดันของประเด็นปัญหาที่เป็นพื้นฐานและมีอิทธิพลต่อการสร้างอนาคตส่วนรวมของพวกเราทุกคน เราจะยืดหยัดมุ่งมั่นสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับผู้คนและธรรมชาติที่อยู่รายล้อมธุรกิจของพวกเรา ดังจะเห็นได้จากผลประกอบการและความคืบหน้าในการลดปริมาณคาร์บอนที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากรายงาน EP&L ฉบับใหม่ปี2562นอกจากนั้น เรายังได้แสดงความรับผิดชอบในฐานะแบรนด์ดังระดับโลกและพาร์ทเนอร์ที่ทำงานภายในชุมชนเพื่อ  เพื่อปลุกระดมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและGucci Equilibrium มีความสามารถในการเรียกประชุมและรวบรวมเสียงของสมาชิกชุมชนเพื่อช่วยนำทางให้งานนี้ก้าวไปข้างหน้าได้”  Marco BizzarriประธานและซีอีโอของGucci กล่าว

เว็บไซต์www.equilibrium.gucci.comถูกกำหนดกรอบการทำงานภายใต้หลักสองประการคือ เพื่อมนุษย์และโลก จึงมุ่งเน้นสนับสนุนคำมั่นสัญญาและการดำเนินงานเพื่อลดปริมาณคาร์บอนในสิ่งแวดล้อมและปกป้องธรรมชาติ ในขณะที่ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและต่อสู้เพื่อการเคารพระหว่างบุคคล รวมถึงการมีส่วนร่วม เพื่อให้ทุกคนในGucci Community มีอิสรภาพในการแสดงออกตัวตนที่แท้จริงและแตกต่าง เว็บไซต์นี้มาพร้อมกับโลโก้ใหม่ออกแบบโดยศิลปิน MP5

นอกจากนั้น Gucci ยังเพิ่มความหนักแน่นให้กับข้อความที่ต้องการสื่อสารในEquilibrium ให้เป็นมากกว่าข้อความจากแพลตฟอร์มด้วยการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ Gucci.com, และGucci App  ที่ทำให้ผู้คนจากทั่วโลกสามารถมีส่วนร่วมและชมสินค้าต่างๆที่มีส่วนในการสร้างความยั่งยืนมากกว่า400แบบ

Gucci 2019 EP&L

วันนี้ Gucci ได้ประกาศผลประกอบการด้านสิ่งแวดล้อมปี2562 (EP&L) เพื่อเป็นข้อมูลมาตรฐาน     สำหรับวัดความคืบหน้าการทำงานเปรียบเทียบกับเป้าหมายความยั่งยืนที่ตั้งไว้ด้วยความทะเยอทะยาน และเป็นปัจจัยผลักดันกลยุทธ์วัฒนธรรมการทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในช่วงปี 2558-2568วัตถุประสงค์เหล่านี้รวมถึง การลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมรวมของ Gucci 40% ของการดำเนินงานตรงและตลอดห่วงโซ่อุปทาน และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 50% ภายในปี 2568 เมื่อเทียบกับปีฐาน พ.ศ.2558ทั้งหมดนี้ Gucci ได้สร้างความก้าวหน้าไปไกลกว่าที่กำหนดไว้และใกล้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้สำหรับปี2568 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

รายละเอียดผลประกอบการEP&L ปี2562 แบบดิจิตัลแสดงให้เห็นว่า เมื่อเทียบกับข้อมูลฐานปี พ.ศ.2558 Gucci สามารถลดผลกระทบโดยรวมของห้องเสื้อไปได้ทั้งหมด 39% โดย 37% เป็นการลดก๊าซเรือนกระจกเพียงอย่างเดียว,เมื่อเทียบกับผลประกอบการด้านสิ่งแวดล้อมปี 2561 Gucci สามารถลดปริมาณคาร์บอนรวมได้ทั้งหมด21% เป็นก๊าซเรือนกระจก 18% ซึ่งสัมพันธ์กับการเติบโต(ปีฐาน 2558) ผลลัพธ์ที่สุดยอดแบบนี้เชื่อมโยงโดยตรงกับความพยายามของGucci ทั้งหมดที่เน้นขับเคลื่อนการปรับปรุงในพื้นที่ที่มีผลกระทบสูงตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกและสามารถวัดผลได้รวมถึง:

  • เพิ่มการใช้วัตถุดิบรีไซเคิลและเส้นใยแบบธรรมชาติกับคอลเลคชั่นต่าง ๆ ของห้องเสื้อ และนำเหล็กมีค่าที่นำมาจากแหล่งวัตถุดิบที่ดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบมาใช้กับฮาร์ดแวร์และจิวเวลรี่ตกแต่ง เช่น การใช้ทองคำ 100% ethical gold ในงานผลิตจิวเวลรี่
  • ขยายกระบวนการทำงานแบบยั่งยืนและการผลิตแบบมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้วัตถุดิบไร้เศษ (scrap-less) สำหรับผลิตหนังและGucci-up เพื่อเวียนในวัฏจักรการผลิต
  • เปลี่ยนมาใช้พลังงานสีเขียว ทำให้ Gucci ใช้พลังงานแบบหมุนเวียนในร้าน สำนักงาน คลังสินค้า และโรงงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย100% ที่ตั้งไว้สิ้นปี 2563 

Gucci มีความมุ่งมั่นดำเนินงานโครงการที่เห็นว่าสำคัญต่อการทำงานเพื่อกราฟผลประกอบการด้านสิ่งแวดล้อมดำเนินต่อไปอย่างสวยงามรากฐานที่สาคัญของกลยุทธ์ด้านสภาพภูมิอากาศของGucciนั้นรวมถึง ความรับผิดชอบต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ภายใต้Scope 1, 2 และ 3ของพิธีสารเกียวโต) ที่ห้องเสื้อยึดถือจนกลายเป็นกลางทางคาร์บอนตั้งแต่ปี2561  แนวทางประจำปีของGucci ด้านความเป็นกลางทางคาร์บอนดำเนินงานตามขั้นตอนอย่างแรกเพื่อหลีกเลี่ยงและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากนั้นในมาตรการขั้นสุดท้ายทำการทดแทนการปล่อยก๊าซที่เหลือผ่านวิธีการทางธรรมชาติเช่น การส่งเสริมการอนุรักษ์ป่าไม้และความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลกที่อยู่ภายใต้สถานการณ์วิกฤต


เป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก 50% ของ Gucci (เทียบกับปีฐาน2558) เกี่ยวข้องกับScope1 และ 2 และควบคุมโดยScope3(การขนส่งและกระจายสินค้าต้นน้ำ, การเดินทางทางอากาศชั้นธุรกิจ, และการปล่อยก๊าซผ่านการใช้พลังงานและเชื้อเพลิงทุกชนิด) ด้วยอัตราการลดเพิ่มเติมอีก 40% ตามการปล่อยก๊าซ Scope3จากการซื้อสินค้าและบริการในช่วงเวลาเดียวกัน

พิธีสารเกียวโตเป็นกรอบมาตรฐานระดับนานาชาติเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดย Scope1 พูดถึงการปล่อยก๊าซโดยตรงจากแหล่งที่ควบคุมได้หรือเป็นเจ้าของเอง; Scope 2 กล่าวถึง การปล่อยก๊าซทางอ้อมจากการผลิตพลังงานที่ซื้อขาย; และ Scope 3กล่าวถึงการปล่อยก๊าซทางอ้อมที่เป็นทางอ้อมทั้งหมด (ไม่รวมอยู่ในScope 2) ที่เกิดขึ้นในห่วงโซ่คุณค่าของบริษัทที่กำลังรายงานอยู่ รวมทั้งการปล่อยก๊าซต้นน้ำและปลายน้ำ

การทดแทนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เหลืออยู่ในปี2018 ทั่วโลกของ Gucci ผ่านโครงการ REDD+ระดับเยี่ยมที่ดำเนินงานครอบคลุมประเทศเคนย่า เปรู อินโดนีเซีย และกัมพูชา ได้รับการตรวจสอบเปรียบเทียบกับมาตรฐานที่เข้มงวดระดับโลก เรียกว่า Verified Carbon Standard และthe Climate, Community and Biodiversity Standards

เกี่ยวกับ Gucci Equilibrium

Gucci Equilibrium เป็นความมุ่งมั่นของเราที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดกับมนุษย์และโลก สร้างขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์และความร่วมมือเพื่อลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและปกป้องธรรมชาติ ในขณะที่ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมและความเคารพซึ่งกันและกัน ทำให้ทุกคนใน Gucci Community ทั่วโลกมีอิสรภาพในการแสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงและแตกต่าง  ในขณะนี้เรากำลังเข้าสู่การเฉลิมฉลองครบรอบ100 ปีของเรา เรากำลังมุ่งหน้าไปสู่ทศวรรษใหม่ด้วยความมุ่งมั่นส่งเสริมวัฒนะธรรมการทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย แสดงให้เห็นคุณค่าผ่านแนวทางนวัตกรรมสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม Gucci Equilibrium รวมหลักการทั้งหมดที่เรายึดถือเข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงการกระทำเพื่อดูแลโลกของเราและพวกเราเอง เพื่ออนาคตโดยรวมที่ดีขึ้น

ดูโพสต์นี้บน Instagram

*My heavenly gang*

โพสต์ที่แชร์โดย Alessandro Michele (@alessandro_michele) เมื่อ

- Advertisement -