เชฟ Karime Lopez จาก Gucci Osteria ร้านอาหารที่คิวจองยาวเหยียดที่ Gucci Garden เมืองฟลอเรนซ์ เธอคิดค้นสูตรอาหารสำหรับช่วงอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ มาให้สาวกกุชชี่ลองทำดู เธอคิดแล้วว่าส่วนใหญ่เครื่องปรุงเหล่านี้ก็มีติดตู้เย็นอยู่แล้ว(สำหรับคนอิตาเลียนหรือยุโรป) แต่คนไทยอย่างเราก็หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ
สีสันนั้นมาจากการเคี่ยวซอสที่ได้จากผักในธรรมชาติที่มีคุณค่าอาหารสูง ตัวพาสต้าถ้าไม่ต้มทั้งหมดที่ทำไว้ก็เก้บในตู้เย็นแล้วนำมาต้มรับประทานกับซอสมะเขือทำเองก็ได้อร่อยเช่นกัน
อาหารจานนี้เชฟ Karime Lopez ได้แรงบันดาลใจมากจากงานจิตรกรรมของ Jackson Pollock ศิลปินแนวเอ็กซ์เพรสชั่นนิสต์ของอเมริกา นอกจากสีสันสายงามแล้ว ยังมากด้วยคุณค่าทางอาหาร ขั้นตอนการทำซอสอาจจะหลายชนิด(4 ชนิด) แต่ทำไม่ยากเลย ลองดูแล้วจะรู้ว่าการปรุงอาหารให้ดูเป็นขั้น advance นั้นก็ไม่ยากเท่าไรนะ #GucciOsteria @GucciOsteria @Gucci @karylmt #HommesThailand #LofficielHommesThailand สูตรเข้าไปดูได้ในเว็บไซต์ www.hommesthailand.com
เร่ิมจากการทำซอส 4 ชนิดก่อน
Datterino tomato sauce
เครื่องปรุง
มะเขือเทศสีเหลือง(พันธ์ุ Datterino) ถ้าหาไม่ได้จะใช้มะเขือเทศเชอร์รีแทนก็ได้ 100 กรัม
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมปอกเปลือกสับ 5 กรัม
ใบเบซิลสับ 2 ใบ
ปรุงรสด้วยเกลือ
วิธีทำ
นำมะเขือเทศมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตั้งกระทะบนไฟกลางค่อนข้างอ่อน ใส่น้ำมันลไปให้ร้อน ใส่กระเทียมสับและใบเบซิล ใส่มะเขือเทศลงไป ผัดเร็วๆ ลดไฟลงเคี่ยวต่อราว 20 นาที ปรุงรสด้วยเกลือ
Red Pepper Sauce
เครื่องปรุง
พริกหวานสีแดง 100 กรัม
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมปอกเปลอืกแล้วสับ 5 กรัม
ใบกระวานแห้ง 1 ใบ
นำเอาพริกหวานหรือพริกหยวกสีแดงเข้าเตาอบไฟ 180 องศาเซลเซียสนาน 40 นาที จากนั้นนำเอาออกมาลอกเปลือก มีเทคนิคที่ง่ายๆ คือเอามาใส่ถุงพลาสติกทันทีแล้วรัดปากถุงทิ้งไว้สักพัก จากนั้นนำออกมาลอกเปลือกออกจะง่ายมาก เปลือกไม่ติดเนื้อ แล้วสับเนื้อให้เป็นชิ้นเล็กๆ
นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันมะกอกลงไป พอร้อน ใส่กระเทียมสับ ใบกระวาน ผัดจนหอม ใส่พริกหวานที่เตรียมไว้ผัดจนเข้ากันดี ราไฟลงเคี่ยวต่อ แต่ให้คีบเอาใบกระวานออกก่อน
Chard sauce
เครื่องปรุง
Chard/Swiss chard 100 กรัม
ถ้าไม่มีใช้ผักโขม(สปิแนช)หรือผัก Kale และผักกาด Bok Choy ได้แต่ต้องเคี่ยวให้นานขึ้น
เกลือสำหรับปรุงรส
วิธีทำ
ตั้งน้ำใส่เกลือป่นสำรหับต้มผักบนไฟกลาง พอน้ำเดือนใส่ผักที่หั่นแล้วลงไป ลวกพอสุกตักมาใส่น้ำที่มีน้ำแข็งแช่ไว้ เทคนิคนี้เรียกว่า Blanch โดยครึ่งหนึ่งของผักที่ลวกไว้นี้แบ่งเอาไปสับละเอียดเพื่อทำไส้ แต่อีกครึ่งหนึ่งให้นำไปสับแล้วเคี่ยวต่อในน้ำ(ไม่ต้องใส่น้ำเยอะ)เพื่อทำซอส ปรุงรสด้วยเกลือป่น
Bechamel sauce
นม 250 กรัม
แป้งข้าวโพด 15 กรัม
เนย 25 กรัม
ลูกจันทน์เทศ(mutmeg)ขูด 2 กรัม
ใส่นมในหม้อตั้งบนเตาไฟกลางค่อนข้างอ่อน พอนมร้อน ให้ตักมาใส่ในถ้วยที่มีเนย คนให้เข้ากัน อีกส่วนหนึ่งใส่ในถ้วยที่มีแป้งข้าวโพดนิดหน่อย คนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปผสมรวมกันในหม้อที่ตั้งไฟอ่อนๆ ใช้ตะกร้อมือคนเรื่อยๆ จนกลายเป็นซอสข้น ปรุงรสด้วยเกลือป่นได้
Pollock
Discs of pasta
แป้งสาลีGluten Free Flour หรือป้งสาลีธรรมดา 100 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
ผสมแป้งและไข่ไก่ที่ตีให้ไข่ขาวไข่แดเข้ากันเล็กน้อยก่อนผสมกับแป้ง นวดให้เข้ากัน ถ้าแห้งไปให้เติมน้ำได้นิดหน่อย นวดพอแป้งจับเป็นก้อน พักไว้ในอ่างผสมที่มีฝาหรือแผ่นฟิล์มปิด 30 นาที
ไส้พาสต้า
ริคอตต้าชีส 50 กรัม
Chard ที่เตรียมไว้ 50 กรัม
Evo Oil 10 กรัม
เกลือป่นสำหรับปรุงรส
นำทุกอย่างมาผสมให้เข้ากัน ถ้าไม่มี Evo oil ให้ใช้น้ำมันมะกอกแทนได้ ปรุงรสให้ได้ตามชอบด้วยเกลือป่นและพริกไทยป่น
การทำพาสต้าให้นำแป้งที่พักไว้มานวดไล่ลม ก่อนจะแบ่งเป็นสองส่วน คลึงให้เป้นแผ่นสี่เหลี่ยมบางๆ อีกก้อนหนึ่งก็คลึงให้ได้เป็นแผ่นเท่ากัน ตักไส้ลงเป็นจุดๆ เช่นเป็นแนวสี่เหลี่ยม ทาน้ำเปล่ารอบๆ ไส้ เอาแผ่นแป้งอีกแผ่นมาวางประกบ ใช้นิ้วกดให้แป้งรอบๆ ไส้ติดกัน ตัดออกมาเป็นตัวๆ อาจจะเป็นสี่เหลี่ยมหรือวงกลมถ้ามีพิมพ์สำหรับกด จากนั้นนำไปต้มในน้ำร้อนที่ใส่เกลือเล็กน้อยจนแป้งสุก
วิธีการจัดจาน
นำพาสต้าชิ้นแรกวางกลางชามก้นลึก วางชิ้นที่ 2 และ 3 ลงไป ก่อนจะนำซอสแต่ละชนิดแต่ละสีมาวาดสีสันลงไปให้คล้ายงานจิตรกรรมของ Jackson Pollock เสิร์ฟร้อนๆ จะได้ทั้งความสวยงาม รสชาติที่กลมกล่อม