ดินเนอร์และซัมเมอร์ปาร์ตี้เปิดบ้านต้อนรับคนดังในบรรยากาศเป็นกันเอง
ปูทางสู่การขยายธุรกิจสู่ระดับโลก รวมถึงมัลดีฟส์และประเทศไทย เหล่าเซเลบริตี้และศิลปินคนดังต่างมาร่วมยินดีกับการเปิดตัวโรงแรมเดอะ สแตนดาร์ดแห่งแรกนอกสหรัฐอเมริกาและแห่งที่หกของโลก ซึ่งมีทั้งดาราระดับโลกอย่าง เทสซ่า ธอมป์สัน, ลิลลี่ อัลเลน, ดีเจเบนจี้ บี, แรพเปอร์ โกลด์ลิงค์, นักแสดงสาวเจม วินสโตน, นักร้องมาเบิล, นางแบบข้ามเพศ มอนโร เบิร์กดอร์ฟ,นักออกแบบ เบธาน ลอร่า วู้ด และสาวสังคมนักธุรกิจ ลุย ลิม รวมไปถึงเหล่าเซเลบริตี้ชาวไทยสายอาร์ต โดยไฮไลท์ของงานนี้ได้ศิลปิน เดฟ ไฮนส์ (Dev Hynes) นักดนตรีที่เป็นที่รู้จักในชื่อ Blood Orange มาเล่นเพลงฮิตอย่าง Take Your Time และ Holy Will ประกอบเสียงบรรเลงจากเบบี้ แกรนด์เปียโนที่บริเวณไลบราลี่เลาจน์ของโรงแรมเดอะ สแตนดาร์ด ลอนดอน สร้างบรรยากาศความบันเทิงสุดฮิปอย่างน่าจดจำ
อาคารที่เป็นที่ตั้งของโรงแรมเดอะ สแตนดาร์ด ลอนดอน เคยเป็นสำนักงานเมือง Camden Town Hall Annexe จากอาคารสไตล์บรูทัลลิสต์ที่แรกเริ่มก่อสร้างในปีค.ศ. 1974 สู่การปรับโฉมในครั้งล่าสุดโดยได้ชอว์น เฮาส์มัน (Shawn Hausman) นักออกแบบผู้ร่วมงานกับเดอะ สแตนดาร์ดมาอย่างยาวนาน ร่วมกับอาร์เชอร์ ฮัมฟรีส์ (Archer Humphryes) ที่มาช่วยออกแบบสถาปัตย์ภายใน ผลลัพธ์ก็คืออาคารสวยเด่นที่ช่วยยกระดับภาพลักษณ์บริเวณโดยรอบ แต่ก็ยังสอดคล้องกับจิตวิญญาณและแนวคิดที่ฝังลึกอยู่ในย่านคิงส์ครอสแห่งนี้
หลังประตูหมุนบานใหญ่สีน้ำเงินที่หน้าโรงแรมคือโต๊ะรีเซปชั่นที่ตั้งอยู่ด้านหน้าผลงานศิลปะฝีมือศิลปินชาวลอนดอน ลุบนา ชาวดารี่ (Lubna Chowdhary) งานศิลป์อินสตัลเลชั่นจากเซรามิกชิ้นนี้มีชื่อว่า “Perfect Time” ซึ่งศิลปินใช้สีสันสดใสและรูปทรงโค้งมนเพื่อสื่อถึงวิถีของเวลา อีกอย่างที่คุณจะได้เห็นที่โต๊ะรีเซปชั่นก็คือเครื่องแบบของพนักงานต้อนรับที่ออกแบบโดยเครก กรีน (Craig Green) ดีไซเนอร์เจ้าของหลายรางวัล Menswear British Fashion Designer of the Year ถึงสามปีต่อเนื่อง (ในปี 2016 2017 และ 2018)
เพื่อให้สอดคล้องไปกับความตั้งใจเดิม ทีมงานเดอะ สแตนดาร์ดจึงออกแบบให้ชั้นล่างเป็นเลานจ์ห้องสมุดตามอย่างที่เคยเป็นมาก่อนที่จะได้เข้ามารับช่วงต่อ พร้อมบรรณารักษ์ประจำที่คอยดูแลหนังสือที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี แบ่งทั้งหมด 28 หมวดหมู่จากคู่แนวคิดที่สัมพันธ์กันอย่างคาดไม่ถึง อย่างเช่น Romance & Technology, Politics & Tragedy และ Order & Chaos โดยจุดประสงค์แฝงของชื่อเหล่านี้คือการสร้างบรรยากาศที่จุดประกายให้เกิดการสนทนากันในชีวิตจริงแทนที่จะคุยกันในโลกดิจิตัล เพื่อให้คนที่เข้ามาได้แบ่งปันช่วงเวลาดีๆ ร่วมกันนั่นเอง
ในพื้นที่เลานจ์ห้องสมุดแห่งนี้ยังมีสตูดิโอดนตรี ที่สามารถมองเห็นได้จากถนนอุสตันด้านนอก และสื่อถึงความสัมพันธ์ยาวนานของโรงแรม เดอะ แสนดาร์ดกับโลกดนตรีผ่านกิจกรรมหลากหลายที่เดอะ สแตนดาร์ดจัดอย่างสม่ำเสมอ เมื่อผ่านห้องสมุดและสตูดิโอนั้นไป ก็จะพบร้านอาหาร 2 ร้าน 2 สไตล์ที่สร้างสรรค์เมนูโดยเชฟอดัม รอว์สัน (Adam Rawson) ภายในโรงแรมเดอะ สแตนดาร์ด ลอนดอน ได้แก่ บาร์ดับเบิล สแตนดาร์ด (Double Standard) ที่เสิร์ฟอาหารสไตล์บาร์รสชาติถึงใจ ดราฟต์เบียร์ และค็อกเทลคลาสสิกที่นำเสนอในรูปแบบที่แปลกใหม่ ส่วนร้านอาหารไอล่า (Isla) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกาะแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ในสวนสวยของโรงแรม เสิร์ฟอาหารตามฤดูกาลโดยเน้นวัตถุดิบอย่างผักสดและอาหารทะเล
ในเดือนกันยายนนี้ ร้านอาหารที่ชั้น 10 ของเชฟปีเตอร์ ซานเชส อิเกลเซียส (Peter Sanchez Iglesias) จะเปิดให้บริการ วิวกรุงลอนดอน 360 องศา ณ ร้านอาหารแห่งนี้คุณสามารถชมการทำอาหารแบบ Live Fire Cooking ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความรักที่มีต่ออาหารสเปนและเม็กซิกันของเชฟปีเตอร์เอง
เดอะ สแตนดาร์ด ลอนดอน มีห้องพักทั้งหมด 266 ห้อง พร้อมสไตล์การตกแต่งที่หลากหลายถึง 42 แบบ ไม่ว่าจะเป็นห้องแบบ Cosy Core ห้องแบบไม่มีหน้าต่างที่ออกแบบมาเพื่อการนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มอิ่มโดยเฉพาะ หรือห้องสวีทพร้อมระเบียงส่วนตัวและอ่างอาบน้ำกลางแจ้งพร้อมวิวสวยมองเห็นสถานี St Pancras ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับการชวนเพื่อนๆ มาปาร์ตี้กันตลอดทั้งค่ำคืน
นอกจากเครื่องแบบของพนักงานต้อนรับ กองเซียร์จ และเบลสตาฟแล้ว เครก กรีน ดีไซเนอร์มือรางวัลยังได้ออกแบบเสื้อคลุมให้กับเดอะ สแตนดาร์ด ลอนดอนโดยเฉพาะ เพื่อให้แขกที่เข้าพักได้สัมผัสถึงเสน่ห์ของเดอะ สแตนดาร์ดในแบบฉบับอังกฤษอย่างแท้จริง
ห้องพักมีให้เลือกตั้งแต่ราคาประมาณ 7,500 – 40,000 บาท (199 ปอนด์ – 1050 ปอนด์) สามารถจองห้องพักได้ที่ www.standardhotels.com