แนวคิดการออกแบบคอลเลคชั่น ในนิทรรศการอันทรงเกียรติ “UNIVERSE OF SIRIVANNAVARI” ภายใต้แบรนด์ SIRIVANNAVARI

Share This Post

- Advertisement -

แนวคิดการออกแบบคอลเลคชั่น ในนิทรรศการอันทรงเกียรติ “UNIVERSE OF SIRIVANNAVARI” ภายใต้แบรนด์ SIRIVANNAVARI ณ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี
ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. – 29 ก.ค. 62  

2008

PRESENCE OF THE PAST 2008

ในปี 2008 การนําเสนอเสื้อผ้าและเครื่องประดับ คอลเลกชั่นนี้อยู่ภายใต้แนวพระดําริ “ฮาร์โมเนียส” ที่ผสมผสานความเป็นไทยโบราณ เข้ากับแฟชั่นทันสมัย จึงทําให้เสื้อผ้าและเครื่องประดับ ที่ทรงออกแบบมีรูปลักษณ์ของความเป็นโอเรียนทัล อาวองต์ การ์ดแบบไทยอย่างชัดเจน สําหรับเสื้อผ้า ในคอลเลกชั่นนี้บางส่วนจะถูกตัดเย็บด้วยผ้าไหมไทยจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ  เพื่อสอดแทรกศิลปะไทยในมุม มองใหม่ อาทิ ลายนกยูง และลายพุดตาน สําหรับใน ส่วนของคอลเลกชั่นเครื่องประดับจะมีลวดลายไทย ลายประจํายาม หรือลายดุนตามลายสถาปัตยกรรมของไทย อีกทั้งยังทรงนําความวิจิตรบรรจงของการแกะสลักไม้ของไทยเข้ามาผสมผสานกับงานเครื่องเงิน ได้อย่างลงตัว

2009

ETHNIC ROCK 2009

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ครั้นทรงดำรงพระอิสริยยศ เป็นพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ผู้อํานวยการฝ่ายสร้างสรรค์ (CREATIVE DIRECTOR) แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI ทรงมีรับสั่งว่า “คอลเลกชั่นเสื้อผ้า และเครื่องหนังประจําฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2009 ประกอบไปด้วยเสื้อผ้าทั้งสิ้น 40 ชุด โดยมีแรงบันดาลพระทัยหลักๆ มาจากเพลงร็อค จากยุค 70S-80S และผลงานภาพถ่ายของช่างภาพ ชื่อดังในสไตล์ บอนเดจ (BONDAGE) เช่น ภาพการทรมานผู้หญิงด้วยการรัด เป็นต้น อีกทั้งเอกลักษณ์ของคอลเลกชั่น ยังอยู่ที่การนําสองวัฒนธรรมที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว มาผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI  ดังได้เห็นตั้งแต่คอลเลกชั่นที่แล้ว โดยในคอลเลกชั่นนี้ข้าพเจ้าได้ถึงรายละเอียดต่างๆ ของวัฒนธรรมชนเผ่า มาผสมผสานกับจุดเด่นของวัฒนธรรมร็อค แล้วนํามาตีความ และถ่ายทอดออกมาในภาษาของแฟชั่นภายใต้คอนเซ็ปท์ “ETHNIC ROCK” นอกจากนี้ จุดน่าสนใจของคอลเลกชั่น ยังอยู่ที่ความขัดแย้งที่ลงตัวของการสไตล์ และการตัดเย็บ โดยการนําอารมณ์ของเสื้อผ้า ที่หนักแน่นแบบฤดูหนาว มาดัดแปลง และถ่ายทอดให้ดูบางเบาแบบ ฤดูร้อนด้วยเนื้อผ้า และสไตล์”

2014

HUMAN DNA 2014

คอลเลกชั่นเสื้อผ้าและเครื่องหนังประจํา SPRING/SUMMER 2014 ประกอบไปด้วยเสื้อผ้าทั้งสิ้น 40 ลุค โดยคอลเลกชั่นใหม่นี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ครั้นทรงดำรงพระอิสริยยศ เป็นพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงมีรับสั่งว่า “เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของตัวข้าพเจ้าเองในช่วงที่ผ่านมาไม่นานนี้ ซึ่งข้าพเจ้าไม่สบาย ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยที่มาจากอุบัติเหตุการตกม้า หรือด้วยโรคอื่นๆ โดยข้าพเจ้าได้นําเรื่องราวเหล่านั้นมาผสมผสานกับงานศิลปะในสไตล์ที่ชื่นชอบ นอกจากนี้ อย่างที่ทุกท่านทราบกัน ว่าข้าพเจ้าชื่นชอบงานศิลป์ ดังนั้น
แรงบันดาลพระทัยอีกหนึ่งอย่างก็คงมาจากภาพศิลป์ของศิลปินชื่อดัง อย่าง LEONARDO DA VINCI, DAMIEN HIRST และ FRIDA KAHLO (ฟรีดา คาห์โล) ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวถึงนั้นได้ถ่ายทอดออกมาทางลายผ้าพิมพ์แบบ X-RAY COLLAGE ซึ่งนับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งในเอกลักษณ์ของคอลเลกชั่นนี้สําหรับคอนเซ็ปต์ของโครงสร้างเสื้อผ้านั่น คอลเลกชั่นนี้จะมีความเป็น SPORT COUTURE อย่างเด่นชัด คือเสื้อผ้าจะเต็มไปด้วยกลิ่นอายของ สปอร์ทแวร์ ทะมัดทะแมง คล่องตัว ให้ความอิสระแก่ผู้สวมใส่ แต่แฝงไว้ด้วยรายละเอียดการตัดเย็บ และการทําแพทเทิร์นที่ประณีตเฉกเช่นงานกูตูร์ อีกทั้งแนวคิดของโครงสร้างเสื้อผ้ายังมีความล้ําสมัย แบบ FUTURISTIC อีกด้วย จึงทําให้คอลเลกชั่นนี้ดูโมเดิร์น และสดใหม่เป็นอย่างมาก ที่สําคัญโครงเสื้อที่ข้าพเจ้าได้ออกแบบนี้ จะทําให้ผู้สวมใส่มีรูปร่างที่สวยงาม กระฉับกระเฉง และ มั่นใจ”

2015

NAPOLEONIC 2015

ผลงานทรงออกแบบเสื้อผ้าและเครื่องประดับ คอลเลคชั่นซัมเมอร์ 2015 ถ่ายทอดสู่แฟชั่นเซตใน CHARM OF SIRIVANNAVARI เป็นผลงานการออกแบบที่ได้แรงบันดาลพระทัยจากสุนทรียะความงามจาก ยุคนีโอคลาสสิก ยุคจักรวรรดิโรมัน และเสน่ห์ของเครื่องแบบทหารนโปเลียน ถูกปรับให้มีความแตกต่างจากคอลเลกชั่นที่ผ่านมา โดดเด่นด้วยโครงเสื้อและเทคนิคการตัดเย็บแบบใหม่ที่พระองค์หญิงทรงสร้างสรรค์ รวมถึงลายกราฟฟิคฝีพระหัตถ์ที่ทรงนําสัญลักษณ์นําโชคต่างๆ ของยุคนีโอคลาสสิคมาทรงวาดลวดลายใหม่ในเชิงงานศิลป์แบบดาด้า (DADAISM) อีกทั้งคอลเลกชั่นเครื่องประดับจิวเวอรี่ (BIJOUX COLLECTION) โดดเด่นด้วยตัวเรือนทองที่แสดงถึงสัญลักษณ์และลวดลายต่างๆ ที่สื่อถึงความหมายอันดีงามตามความเชื่อในสมัยนีโอคลาสสิค อาทิ ผึ้งบ่งบอกถึงความเป็นอมตะ ช่อมะกอกคือมงกุฏแห่งชัยชนะ ในขณะที่รวงข้าวสื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ เครื่องประดับจิวเวอรีทุกชิ้นผลิตจากทองเหลืองเคลือบด้วยสีทองขาวและสีทองแฮมมิลตัน ประดับด้วยอัญมณีเพื่อเพิ่มความโก้หรู เช่น อะมีทิส โรสควอร์ท มุกน้ำจืด เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีพลอยสังเคราะห์เจียระไนพิเศษหลากหลายสี ทั้งสีเขียวมรกต สีเหลือง อําพัน สีเขียวมะกอก และสีชมพูแซฟไฟร์ โดยยังคงเอกลักษณ์ของ SIRIVANNAVARI ไว้ได้อย่างลงตัว

2015

SIRIVANNAVARI COUTURE THE  WAY OF SILK THE WAY OF THAI 2015

แรงบันดาลพระทัยในการทำชุดในคอลเลกชั่น SIRIVANNAVARI COUTURE สำหรับงานผ้าไทย โครงสร้างของชุดได้รับแรงบันดาลพระทัยมาจากฉลองพระองค์ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงในโอกาสเสด็จฯ เยือนต่างประเทศ และยังได้รับแรงบันดาลใจจาก โครงสร้างของชุดไทยโบราณ ของตัวละครในวรรณคดีไทย เช่น การใส่สไบ โดยมาผสมผสานกับโครงสร้างของชุดในแบรนด์ SIRIVANNAVARI ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

รายละเอียดของชุด ใช้ช่างปักไทยผสมกับเทคนิคการปักแบบฝรั่งเศส มีการนำผ้าไหมไทยมาประกอบเป็นรายละเอียดงานปัก และสร้างความโดดเด่นด้วย วิธีการปักล้อลายบนผ้าทอมัดหมี่ อีกทั้งยังมีการใช้ดอกไม้ประดิษฐ์จากศูนย์ศิลปาชีพ ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มาผสมผสานบนงานปักอีกด้วย

เครื่องประดับเป็นการต่อยอดเทคนิคในการปัก โดยใช้ผ้าไหมในการทำรายละเอียดอันประณีตบรรจง เน้นความเรียบง่าย แต่หรูหรา

ชุดในคอลเลกชั่นนี้ อ้างอิงสไตล์ ความอ่อนหวาน หรูหรา สวยงาม ยุค 1950’s ในการออกแบบ อีกทั้งยังมีการอ้างอิงรูปแบบในการแต่งกายเสื้อผ้าใน ยุคดั้งเดิมมาประยุกต์เข้ากับผ้าไทย โดยอาจจะมีการผสมผสานผ้า หรือเทคนิคอื่นๆ ประกอบกัน เพื่อเป็นแนวทางให้กับดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ได้ศึกษา และรู้จักนำ ผ้าไทยมาประยุกต์ในการออกแบบให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองและมีความเป็นสากลอีกด้วย

2016

MYSTICAL GARDEN 2016

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ครั้นทรงดำรงพระอิสริยยศ เป็นพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงพร้อมเผยโฉมผลงานทรงออกแบบจากคอลเลกชั่นแฟชั่นทรงออกแบบประจํา ฤดูกาลสปริง/ซัมเมอร์ 2016 ภายใต้แบรนด์ “SIRIVANNAVARI” โดยทรงมีแรงบันดาลพระทัยมาจากศิลปะจากยุคโรแมติคซิซึม (R0MANTICISM) ไปจนถึงยุคอิมเพรสชั่นนิสซึ่ม (IMPRESSIONISM) ผสมผสานกับบรรยากาศชานเมืองบริเวณพระราชวังแวร์ซายส์ จึงเป็นที่มาแห่งคอลเลกชั่นโก้หรูแนวโมเดิร์นล่าสุดนี้

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ครั้นทรงดำรงพระอิสริยยศ เป็นพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ผู้อํานวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI ทรงมีรับสั่งว่า “ข้าพเจ้าเริ่มต้นการทํางานของคอลเลกชั่นนี้ในเขตพระราชวังแวร์ซายส์ โดยเริ่มจากการนั่งสเก็ตช์ภาพ แล้วก็ดูพระตําหนักเปอติ ทรีอานง (PETIT TRIANON) รวมไปถึงสวนรอบๆ โดยคอลเลกชั่นนี้จะมีกลิ่นไอของศิลปะแนว ROMANTICISM และ IMPRESSIONISM

อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสไตล์ภาพวาดของเรอนัวร์ (RENOIR) และโมเน่ต์ (MONET) ซึ่งจะทําให้คอลเลกชั่นดูอ่อนหวาน มีความเป็นผู้หญิง แต่ก็ยังคงความเซ็กซี่ และโมเดิร์นสปอร์ต เฉกเช่นผู้หญิงของแบรนด์ “SIRIVANNAVARI” นอกจากนี้ คอลเลกชั่นล่าสุดยังนําเสนอคอลเลกชั่นเครื่องประดับจิวเวลรี่ที่ดูวิจิตรตระการตาภายใต้ ธีมของคอลเลกชั่นเสื้อผ้าด้วยเช่นกัน ดังเห็นได้จากสร้อยโชกเกอร์โลหะทองประดับด้วยไข่มุกที่นํามาร้อยเป็นพลกูสเบอร์รี่ สนับมือ และแหวนรูปนกฮัมมิ่งเบิร์ด ไปจนถึงต่างหูทองประดับหินพิมพ์กราฟฟิคลายนกฮัมมิงเบิร์ด

2017

SERENITY 2017

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ครั้นทรงดำรงพระอิสริยยศ เป็นพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงเผยโฉมคอลเลกชั่น ทรงออกแบบสปริง/ซัมเมอร์ 2017 ภายใต้แบรนด์ SIRIVANNAVARI และ S’HOMME เรื่องราวแห่งความรักของชายหญิง คู่หนึ่งจากการเดินทางใน ท้องทะเลอันไกลโพ้นราวเทพนิยาย ที่เปี่ยมด้วยความทรงจํา ความโรแมนติค และความโศกเศร้าภายใต้ท้องนภาอันกว้างใหญ่ ซึ่งโอบล้อมไปด้วยประกาย แห่งแสงจันทร์ ดวงดาวที่พร่างพราย และเส้นขอบฟ้าที่ไม่รู้จบ อันเป็นบทพระราชนิพนธ์ ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี
นารีรัตนราชกัญญา คือแรงบันดาลพระทัยหลักในการทรงงานออกแบบคอลเลกชั่นประจําฤดูกาลสปริง/ ซัมเมอร์ 2017 ภายใต้แบรนด์ “SIRIVANNAVARI” ที่โดดเด่นด้วยโครงสร้าง เสื้อผ้าที่ดูเฟมินีนงานปักชั้นครูไปจนถึงลายกราฟฟิคฝีพระหัตถ์

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อํานวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI ทรงมีรับสั่งว่า “ข้าพเจ้าได้ประพันธ์กลอนไว้หนึ่งบท ซึ่งเป็นเรื่องราวของความรักระหว่างคนและเทพธิดาแห่งท้องทะเลหลังจากนั้นข้าพเจ้าก็ได้นําเรื่องราวดังกล่าว มาตีความเป็นแฟชั่นในคอลเลกชั่นสปริง/ซัมเมอร์นี้ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง
เสื้อที่มีความพริ้วไหวและอ่อนหวาน เทคนิคการตัดเย็บที่ทําให้เสื้อมีความเป็นแฟมินีนขึ้นไปอีก งานปักที่บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด รวมไปถึงการนําสัญลักษณ์ต่างๆ ทั้งภาพจักราศรี พระจันทร์ ดวงดาว ม้าน้ํา เข็มทิศ ปะการัง เปลือกหอย ลายทางทะลาสี แมงกะพรุน ฯลฯ มาแสดงถึงจินตนาการของข้าพเจ้า เพื่อให้ทุกท่านได้เข้าใจถึงคอนเซ็ปท์ของคอลเลกชั่นล่าสุดนี้ นอกจากนี้ คอลเลกชั่นล่าสุดยังนําเสนอคอลเลคชั่นเครื่องประดับจิวเวลรี่ที่ดูวิจิตรตระการตา ภายใต้ธีมของคอลเลกชั่นเสื้อผ้าด้วยเช่นกัน ดังเห็นได้จากสร้อยประดับอัญมณีรูปดาว พระจันทร์ ม้าน้ํา แหวนลงยา สัญลักษณ์ตัว S ประดับมุก และลาปิส (LAPIS) ต่างหูรูปพระจันทร์เสี้ยว ต่างหูเปลือกมุก และ EAR CUFF รูปดาว ไปจนถึง HAND CUFF ลงยา ไฮไลท์ ของคอลเลกชั่นเครื่องประดับคงหนีไม่พ้น เทียร่าโลหะทองรูปดาว และ พระจันทร์ประดับมุก พร้อมหวีสับทองในดีไซน์เดียวกัน สร้อยโชกเกอร์โลหะทองรูปดาว และตกแต่งด้วยโซ่ทองระย้า รวมถึงสร้อยสังวาลย์คล้องลําตัว ที่ทําจากไข่มุกและโลหะทองรูปปะการัง

2018

HORSE,HELEN,HENRI 2018     

เรื่องราวแห่งความรักระว่างชายชาติทหารและสาวบ้านไร่ ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 อันเป็นบทพระราชนิพนธ์ ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ครั้นทรงดำรงพระอิสริยยศ เป็นพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ คือแรงบันดาลพระทัยหลักในการทรงงานออกแบบ คอลเลกชั่นประจําฤดูกาลสปริง/ซัมเมอร์ 2018 ที่มีชื่อว่า HORSE, HELEN, HENRI ภายใต้แบรนด์ “SIRIVANNAVARI” ที่โดดเด่นด้วยโครงสร้างเสื้อผ้าที่ดูเฟมินีน งานปักชั้นครู ไปจนถึงลายกราฟฟิก ฝีพระหัตถ์อันเป็นเอกลักษณ์ สําหรับคอลเลกชั่นนี้ โครงสร้างของเสื้อมีความซับซ้อนมาก มีทั้งโครงเสื้อแบบ MERMAID (หางปลา) แบบ DECONSTRUCTIVE (โครงเสื้อที่ไม่ใช่ตามแบบแผนเดิมๆ) BALLGOWN (ชุดราตรี) โดยได้นํามาผสมกับเทคนิคการตัดเย็บ และรายละเอียดอันหลากหลายเข้าไปอีกเพื่อความแปลกใหม่ของคอลเลกชั่น อาทิ เทคนิคการเย็บแบบลาย QUILT (ลายข้าวหลามตัด) การตัดเย็บด้วยผ้าพลีต 3 มิติจาก เวิร์คช็อป GERARD LOGNON (เจราร์ โลนญง) ในกรุงปารีส รวมไปถึงการตกแต่งชุดด้วยการปักจากช่างฝีมือชั้นเลิศของแบรนด์ SIRIVANNAVARI เอง

2019

NARAVANNA 2019

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ครั้นทรงดำรงพระอิสริยยศ เป็นพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI ทรงมีรับสั่งถึงคอลเลกชั่นล่าสุดว่า “เรื่องราวในครั้งนี้ เป็นการเดินทางไปสู่โลกใหม่ที่มีชื่อว่า NARAVANNA โดยโลกใบนี้คือโลกแห่งสันติ โลกแห่งความสุขที่อยู่ในจักรวาลที่ไกลโพ้น ปราศจากร่องรอยแห่งอารยธรรมดั้งเดิม ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้เป็นผลแห่งการกลายพันธุ์ของโลกเก่าทั้งสิ้น สภาพแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตแปลกใหม่ในโลกแห่งนี้ล้วนแล้วคือแรงบันดาลพระทัยที่ข้าพเจ้าได้ถ่ายทอดออกมาเป็นรายละเอียดของคอลเลกชั่นล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นลวดลายของแผงวงจรปัญญาประดิษฐ์และกลเฟืองที่แฝงอยู่ในต้นไม้หรือสัตว์ป่า งานหัตถศิลป์แบบชนเผ่าแอฟริกัน ไปจนถึงอารยธรรมใหม่ในโลกอนาคต และสำหรับคอลเลคชั่นนี้ โครงสร้างของเสื้อมีความซับซ้อนมาก โดดเด่นมากด้วยโครงเสื้อแบบ Deconstructive (โครงเสื้อที่ไม่ใช่ตามแบบแผนเดิมๆ) และ Asymmetrical (โครงเสื้อแบบไม่สมมาตร) โดยได้นำมาผสมกับเทคนิคการตัดเย็บแพทเทิร์นและรายละเอียดอันหลากหลายเข้าไปอีก เพื่อความแปลกใหม่และความเท่ให้แก่คอลเลกชั่น อาทิ การตัดเย็บด้วยผ้าพลีต 3 มิติจากเวิร์คช็อป Gérard Lognon (เจราร์ โลนญง) ในกรุงปารีส เทคนิคการเย็บแบบลาย Quilt (ลายข้าวหลามตัด) รวมไปถึงการนำเอางานศิลปะแบบแอฟริกันชนเผ่ามาไซ มาร่า (Maasai Mara) มาผสมผสานกับงานปักจากช่างฝีมือชั้นเลิศของแบรนด์ SIRIVANNAVARI เอง”  

2019

NARAVANNA 2019 (S’Homme) 

คอลเลกชั่นสุภาพบุรุษภายใต้แบรนด์ S’Homme (เอส ออม) นั้น มีความโก้หรูสไตล์แมสคิวลีน (Masculine) ของโลกแห่ง NARAVANNA อย่างชัดเจน ดังเห็นได้จากเสื้อเทรนช์โค้ตสีเบจประดับฮู้ดที่ประดับตราสัญลักษณ์ของแบรนด์บนแขนเสื้อ เสื้อแจ็คเก็ตซาฟารีสีเหลืองที่ตกแต่งกระเป๋าเสื้อทั้งสี่ด้วยแถบสีแบบแอฟริกันที่เข้าคู่กับกางเกงคร็อปสีน้ำเงิน ไปจนถึงชุดสูทกระดุมสองเม็ดสีเสจกรีน (Sage Green) สำหรับเสื้อเชิ้ตในซีซั่นนี้ เอกลักษณ์สำคัญคือการตกแต่งสาบเสื้อด้วยแถบสีแบบแอฟริกัน ส่วนทรงของกางเกงมีความโมเดิร์นมากด้วยทรงกางเกงแบบคร็อปท์ (Cropped Pants) ในขณะที่คอลเลกชั่นรองเท้าก็นำเสนอทั้งรองเท้าหนังกลับผูกเชือก รองเท้าโลเฟอร์ (Loafer) ตัดเย็บจากผ้าพิมพ์ลายกราฟฟิกฝีพระหัตถ์ประจำซีซั่น และรองเท้าแตะที่ตกแต่งด้วยลูกปัดสไตล์แอฟริกัน ส่วนคอลเลกชั่นกระเป๋านำเสนอกระเป๋าหลากสไตล์ทั้งกระเป๋าคาดเอวหนังกลับสีคาเมล กระเป๋าคลัทช์ผ้าลายกราฟฟิกฝีพระหัตถ์ประดับสัญลักษณ์ S ของแบรนด์ และกระเป๋าดัฟเฟิล (Duffle Bag) ที่ตัดเย็บจากผ้าลายกราฟฟิกฝีพระหัตถ์และตกแต่งด้วยหนังวัวธรรมชาติ นอกจากนี้แล้ว คอลเลคชั่นล่าสุด ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์อื่นๆ อย่างครบครัน ตั้งแต่ไฟน์จิวเวลรี่ อย่างแหวน ที่ตัวเรือนทำจากทองคำขาว ประดับเปลือกมุก หินลาพิสลาซูลีสีน้ำเงิน และหินมาลาไคท์สีเขียว แฟชั่นจิวเวลรี่ อาทิ สร้อยหนังประดับจี้ และเข็มกลัดประดับเสื้อสูท (Pin suit) รูปหัวเสือและสัญลักษณ์ตัว S ไปจนถึงเนคไท เสื้อคลุมอาบน้ำและกางเกงว่ายน้ำลายกราฟฟิกฝีพระหัตถ์ประจำฤดูกาล ซึ่งนับได้ว่าเป็นครั้งแรกของแบรนด์ที่ได้นำเสนอคอลเลกชั่นชุดว่ายน้ำชาย  

- Advertisement -