A Watch for All Seasons

Maurice Lacroix เผยโฉมนาฬิการุ่นใหม่ โดยภูมิภาคนี้จัดขึ้นที่โกตากีนาบาลู ประเทศมาเลเซีย เป็นการเผยโฉมนาฬิกา AIKON รุ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น AIKON Venturer, AIKON Automatic: All Black, AIKON Automatic Mercury เป็นต้น โดยเริ่มจากงานดินเนอร์ในค่ำคืนแรกที่ทุกคนได้เห็นนาฬิการุ่นใหม่เหล่านี้ ก่อนที่วันรุ่งขึ้นจะได้สัมผัสนาฬิกาเหล่านี้อย่างใกล้ชิด

หนึ่งในคนที่มาร่วมงานอย่างดัช – ณัฐกิจ แตงไทยนายแบบและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังที่ชอบออกกำลังกายและเล่นกีฬากลางแจ้ง ดัชได้ลองสวมนาฬิกา Maurice Lacroix แต่ละแบบกับไลฟ์สไตล์ในแต่ละวันที่อยู่ที่นั่น อย่างการสวมนาฬิกา Maurice Lacroix AIKON Venturer ตอนเล่นเจ็ตสกี นาฬิกานี้ออกแบบมาสำหรับคนที่ชอบเล่นกีฬาและไลฟ์สไตล์กลางแจ้ง ตัวเรือนสเตนเลสสตีลหน้าปัดขนาด 43 ม.ม. พร้อมวงหน้าปัด (bezel) เซรามิกหมุนได้ทิศทางเดียว กันน้ำได้ 30 ATM มาพร้อมสายสเตนเลสสตีล ดีไซน์โก้และสายยางสุดเท่
Maurice Lacroix AIKON Venturer Maurice Lacroix AIKON Venturer Maurice Lacroix AIKON Venturer
ดัชสวมนาฬิการุ่นนี้กับสายสเตนเลสสตีลก่อนจะเปลี่ยนเป็นสายยางอย่างง่ายดายเมื่อจะลงเล่นเจ็ตสกี นาฬิการุ่นนี้ออกแบบมาสำหรับคนชอบเล่นกีฬาและคนรักการผจญภัยโดยเฉพาะ พร้อมฟังก์ชั่นต่างๆ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนชอบความท้าทาย Maurice Lacroix รุ่นใหม่ AIKON Venturer พร้อมจำหน่ายในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้
Aikon Automatic Chronograph Aikon Automatic Chronograph Aikon Automatic Chronograph
นอกจากนี้ยังมีรุ่น Aikon Automatic Chronograph ที่เป็นนาฬิกาเท่สไตล์สปอร์ตสามารถจับเวลาได้ โดยระบบฟังก์ชั่นต่างๆ ออกแบบมาเพื่อการใช้งานได้อย่างง่ายดาย ตัวเรือนเป็นสแตนเลสสตีล หน้าปัดขนาด 44 มม. ภายในมีหน้าปัดเล็กๆ จับเวลาเป็นวินาทีที่ 9 นาฬิกา จับเวลารอบละ 30 นาทีที่ 12 นาฬิกา จับเวลารอบละ 12 ชั่วโมงที่ 6 นาฬิกา เข็มและขีดบอกเวลาเป็น Rhodium plated กลไกอัตโนมัติ ML112 สำรองพลังงานนาน 48 ชั่วโมง ในประเทศไทยมีจำหน่ายเพียง 5 เรือนเท่านั้น
AIKON Automatic: All Black AIKON Automatic: All Black AIKON Automatic: All Black
แต่ใครที่หลงใหลเสน่ห์ของสีดำ นาฬิกา Maurice Lacroix รุ่นใหม่ AIKON Automatic: All Black ทั้งตัวเรือนและสายเป็นสีดำโทนเดียวกันทั้งหมดรวมทั้งหน้าปัด 42 ม.ม. ไม่ว่าคุณจะแต่งตัวสไตล์ไหน นาฬิกาสีดำล้วนเรือนนี้คือเพื่อนคู่กายคุณเสมอ
ตัวเรือนสเตนเลสสตีลเคลือบสีดำ PVD ที่สวยและทนทานต่อการขูดขีด หน้าปัด black sun brushed Clous de Paris สวยเท่ ขีดบอกเวลาและเข็มนาฬิกาเคลือบ black Super-LumiNova เรืองแสงในที่มืด ทำให้อ่านเวลาได้อย่างง่ายดายในทุกสภาพแสง
Aikon Automatic Mercury Aikon Automatic Mercury Aikon Automatic Mercury
ใครที่ชอบดีไซน์หรูโก้ Aikon Automatic Mercury เท่สะดุดตาด้วยหน้าปัด 44 ม.ม. แบบ Skeketon ที่มีนวัตกรรมพิเศษในการดูเวลาที่เฉพาะคนสวมจะเห็นเวลาจริงเท่านั้น
เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ Mr. Stephane Waser ซึ่งเป็น Managing Director ของ Maurice Lacroix Ltd. โดยเขาบินมางานเปิดตัวนาฬิกานี้ เราจึงได้ถามคำถามสั้นๆ กับเขา

ทำอย่างไรให้ Maurice Lacroix แตกต่างจากนาฬิกาอื่นๆ ในตลาด
“นอกจากการพัฒนานวัตกรรมและดีไซน์ของนาฬิกาของเราให้มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแล้ว กลุ่มเป้าหมายของเราก็มีความชัดเจนคือเป็นกลุ่มมิลเลนเนียล กลุ่มคนที่มองหานาฬิกาที่มีคุณภาพ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ระดับราคาของนาฬิกาสะสมหรือนาฬิกาคลาสสิก ในแง่ของฟังก์ชั่นและดีไซน์ของ Maurice Lacroix จะตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านาฬิกาของเราจะเป็นนาฬิกาสะสมไม่ได้ เพียงแต่เราไม่ได้ไปเน้นที่กลไกที่ซับซ้อนอย่างตูร์บิญองเหมือนนาฬิกาสะสมทั้งหลาย ของเราจะเน้นที่พวกเขาสวมใส่ใช้งานจริง ใช้ในชีวิตประจำวันเลย และไม่ต้องทะนุถนอมมาก คือถ้าเป็นระดับของสะสมก็คงไม่ได้นำมาใส่จริงๆ คงจะเก็บไว้ดู”
AIKON Automatic: All Black Aikon Automatic Chronograph Maurice Lacroix AIKON Venturer Aikon Automatic Mercury
อย่างนาฬิการุ่น AIKON ล่าสุดนี้มีอะไรที่คุณคิดว่าพิเศษที่แม้แต่นักสะสมก็คงอยากจะมีไว้
“อย่างที่บอกว่าเราเน้นนวัตกรรม ดังนั้น AIKON Automatic Mercury ที่คนทั่วไปจะมองเห็นเวลาเป็น 12 นาฬิกาเสมอ แต่ถ้าเจ้าของยกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาก็จะแสดงเวลาจริง ซึ่งเราใช้ตุ้มถ่วงและแรงดึงดูดของโลกทำให้เกิดลูกเล่นเช่นนี้ ซึ่งผมคิดว่าจะโดนใจกลุ่มเป้าหมายหลักของเรา แต่คนที่ซื้อนาฬิกาเพื่อสะสมก็คงจะสนใจฟังก์ชั่นนี้ รวมทั้งดีไซน์ที่เป็น skeleton ที่ผมเชื่อว่าหลายคนชอบ เพราะเราได้เห็นความสวยงาม
ของกลไกที่ซับซ้อนของนาฬิกา”
จะเห็นว่าแม้จุดยืนของนาฬิกา Maurice Lacroix จะมีกลุ่มเป้าหมายที่เป็นชาวมิลเลนเนียลที่มีไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเองและชื่นชอบงานดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ แต่ขณะเดียวกันการพัฒนากลไกของนาฬิกาก็ยังเน้นนวัตกรรมใหม่ๆ รวมทั้งลูกเล่นที่บ่งถึงศาสตร์ของการทำนาฬิกาแบบสวิสที่ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นอันดับหนึ่งเสมอ