Journey through the Chinese History
หากเอ่ยชื่อซีอานให้บรรดานักอ่านนิยายจีนต่อสู้อิงประวัติศาสตร์ได้ยิน เชื่อว่าส่วนใหญ่จะร้อง “อ๋อ” เพราะหลายต่อหลายเรื่องมีฉางอานหรือซีอานเป็นฉากหลังในการดำเนินเรื่องด้วยเพราะเมืองนี้เป็นที่ตั้งของราชวงศ์ถึง 13 ราชวงศ์ นักเขียนชาวจีนจึงมีวัตถุดิบ มีช่วงเวลามากมายที่สามารถเลือกพาผู้อ่านดำดิ่งไปในห้วงเวลาของประวัติศาสตร์จีน และเมื่อพรรณนาถึงซีอานจะมีบรรยากาศของเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรือง เมืองที่มีผู้คนอยู่อาศัยมากมาย มีพระราชวังอันโอ่อ่า เป็นศูนย์กลางของสรรพสิ่ง มีตลาดที่เต็มไปด้วยสินค้าหลากหลายผู้คน และความคึกคัก
ซีอานนับเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่สำคัญเมืองหนึ่ง มีอายุถึงสามพันกว่าปี ถือเป็นหนึ่งในเจ็ดเมืองโบราณที่สำคัญของจีน ชื่อเดิมของซีอาน คือ “ฉางอาน” มีความหมายว่า “ความสงบสุขชั่วนิรันดร์” ในอดีตซีอานยังเป็นเมืองปลายทางของการค้าขายในเส้นทางสายไหม ซีอานจึงเป็นเมืองนานาชาติอย่างแท้จริง เพราะเป็นที่รวมของพ่อค้าที่มาจากหลากหลายแห่งฉางอานถูกเปลี่ยนชื่อเป็นซีอานในสมัยราชวงศ์หมิง และถูกใช้ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
สิ่งที่ทำให้ผู้คนยุคปัจจุบันเกือบทั่วโลกรู้จักซีอาน คือ สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ ซึ่งถูกค้นพบในปีค.ศ. 1974 โดยเรียกหลุมขุดค้นที่ถูกเปิดขึ้นเพื่อทำการศึกษาและให้ผู้คนทั่วไปเข้าชมว่า The Terracotta Army เป็นสถานที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้เดินทางมาเยือนซีอาน ภายในมีหลุมขุดค้นที่เปิดให้เข้าชมสามหลุม มีขนาดแตกต่างกัน The Terracotta Army เป็นจุดหมายหลักที่เราปักหมุดไว้สำหรับการเดินทางมาซีอาน เฉกเช่นเดียวกับนักเดินทางทั้งหลาย
เมื่อได้มายืนอยู่เบื้องหน้ากองทัพหุ่นทหาร (ดินเผา) ในหลุมขุดค้นที่หนึ่งหรือ Pite1 ซึ่งเป็นหลุมขุดค้นที่ใหญ่ที่สุด ก็ห้ามความตื่นเต้นได้ยากจริงๆ มิใช่เพราะขนาดที่ใหญ่โตเท่านั้น บรรดาหุ่นทหารที่ยืนแถวเรียงรายอยู่จำนวนมาก ไม่ใช่งานสร้างที่ง่าย ทุกตัวมีรายละเอียดสมจริง ใบหน้าของหุ่นแต่ละตัวไม่ซ้ำกันเลย นอกจากทหารแล้วยังมีบรรดาม้าศึกอีกจำนวนมาก เมื่อกองทัพทหารดินเผาเดินทางผ่านกาลเวลามาจนถึงปัจจุบัน และเผยโฉมสู่ชาวโลกด้วยการค้นพบโดยบังเอิญของชาวนาผู้หนึ่ง ทำให้เรื่องราวของ “จิ๋นซี” จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ของโลกองค์หนึ่งยิ่งลึกลับและมีมิติ ชวนให้นักโบราณคดีนักประวัติศาสตร์อยากเจาะเวลาย้อนกลับไปหายุคสมัยของพระองค์
ที่หลุมขุดค้นที่สอง ด้านหนึ่งมีพื้นที่จัดแสดงหุ่นบางส่วนที่นำขึ้นมาจากหลุมขุดค้น โดยจัดโชว์อยู่ในตู้กระจกสี่ด้านให้ได้ชม รอบๆตู้มีผู้คนเข้ามามุงล้อมไม่ขาดช่วง เพื่อพินิจดูรายละเอียดของหุ่นแบบใกล้ชิด
ซีอานไม่ได้มีแค่ The Terracotta Army ในตัวเมืองยังมีสถานที่น่าสนใจมากมายให้ไปเยือน อาทิ กำแพงเมืองโบราณของซีอาน ตลาดมุสลิม วัดเจดีย์ห่านป่าใหญ่ (สร้างในรัชสมัยจักรพรรดิถังเกาจง) ซึ่งนับเป็นจุดที่ไม่ควรพลาดการไปเที่ยวชม เป็นวัดที่พระถังซัมจั๋งเคยจำวัดอยู่ เป็นสถานที่ตั้งต้นเดินทางไปยังชมพูทวีปของท่านเพื่ออัญเชิญพระไตรปิฎกกลับมายังเมืองจีน ถือเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ของเมืองซีอานที่ยังคงหลงเหลืออยู่มาจนถึงปัจจุบัน
สถานที่อีกแห่งในตัวเมืองที่ไม่ควรพลาดการไปเที่ยวชม คือ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ซ่านซี (Shaanxi History Museum) พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมฟรี โดยกำหนดจำนวนผู้เข้าชมในแต่ละวันไว้ที่สี่พันคน แบ่งเป็นสองรอบ รอบเช้าสองพันห้าร้อยคน รอบบ่ายพันห้าร้อยคน โดยช่วงเช้าเปิดให้รับบัตรตั้งแต่ 8.30 น. นักท่องเที่ยวต้องนำพาสปอร์ตไปยื่นขอบัตร รอบบ่ายจะเปิดแจกบัตรตอน 13.30 น. ภายในมีสิ่งของทางด้านประวัติศาสตร์ของจีนที่สำคัญมากมาย
ยามบ่ายแก่ๆไปจนถึงย่ำค่ำเป็นช่วงเวลาที่เดินเที่ยวย่านตลาดมุสลิมได้สนุก (Muslim Quarter) ที่นั่นมีของขายสารพัด สินค้าต่างๆ ของที่ระลึก โดยเฉพาะอาหารมีให้เลือกหลากหลาย ตลาดมุสลิมมีผู้มาเยือนมากมาย ทั้งคนท้องถิ่นและผู้มาเยือนจากต่างแดนต่างถิ่น
สถานที่อีกแห่งในตัวเมืองที่ต้องแวะไปเยือนคือกำแพงเมืองซีอาน ซึ่งเป็นกำแพงโบราณ ผ่านการบูรณะก่อสร้างเพิ่มเติมมาหลายยุคสมัย โอบล้อมเขตตัวเมืองซีอานชั้นในไว้ มีความยาวประมาณสิบสี่กิโลเมตร สูงถึง 12 เมตร เริ่มต้นสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1370 การเที่ยวชมให้รอบตัวกำแพง ทำได้ด้วยการเช่าจักรยาน ปั่นไปตามทางเดินกว้างบนตัวกำแพงเมือง กำแพงเมืองโบราณของซีอานมีประตูอยู่หลายทิศ แต่ประตูที่สำคัญที่สุดคือ ประตูเสวียนอู่ (ประตูทางทิศเหนือ) ในอดีตนอกจากเป็นประตูหลักที่เชื่อมตรงเข้าสู่ที่ประทับของฮ่องเต้แล้ว ยังเป็นประตูสำคัญในการพลิกหน้าประวัติศาสตร์ราชวงศ์ถัง เป็นจุดเปลี่ยนในการขึ้นสู่จุดสูงสุดของบุรุษนามหลี่ซื่อหมิน หรือที่รู้จักกันในนามฮ่องเต้ถังไท่จง ผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์จีนเมื่อมาเยือนซีอานล้วนอยากไปยืนอยู่ที่ประตูเสวียนอู่สักครั้งหนึ่ง
เมื่อเที่ยวซีอานจนทั่วแล้วหากอยากไปยังเมืองอื่นๆจากซีอานสามารถเดินทางได้สะดวกสบายด้วยบริการรถไฟความเร็วสูง เราเลือกเมืองประวัติศาสตร์ที่เคียงคู่อยู่กับซีอานคือลั่วหยาง เป็นเมืองข้างเคียงในการโฉบออกไปสำรวจสั้นๆ นั่งรถไฟใต้ดินจากตัวเมืองมุ่งตรงไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงซึ่งเป็นสถานีสุดท้าย เดินขึ้นไปข้างบนคือตัวสถานีรถไฟความเร็วสูงที่ใหญ่โตทันสมัย นับว่าสะดวกสบายมาก จุดหมายของเราคือเมืองลั่วหยาง อีกหนึ่งเมืองโบราณที่อยู่ไม่ไกลจากซีอาน
ด้วยความเร็ว 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงของรถไฟความเร็วสูงทำให้การแวะไปเที่ยวลั่วหยางแบบทริปสั้นๆจากซีอานทำได้สะดวก เราแวะไปนอนลั่วหยางหนึ่งคืน เพื่อไปชื่นชมมรดกโลกแห่งลั่วหยาง ถ้ำผาหลงเหมิน (ถ้ำผาประตูมังกร) ถ้ำโบราณที่เกิดจากการสลักเสลาผนังหินเป็นโพรง สลักรูปปั้นเทพเจ้าและพระพุทธรูปจำนวนมาก ตลอดความยาว 1 กิโลเมตรของผาถ้ำ มีถ้ำเล็กถ้ำน้อยถึง 2,345 คูหาถ้ำ จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องมาชมเมื่อมาถึงลั่วหยาง ทั้งงดงามและน่าตื่นตาตื่นใจ จากตัวเมืองสามารถนั่งรถประจำทางมาสุดสายที่ถ้ำผาหลงเหมินริมแม่น้ำอี้ เพื่อเข้าไปสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของงานประติมากรรมที่เกิดจากความศรัทธาของผู้คนในอดีต
ย่ำค่ำเราออกไปเดินเที่ยวตลาดอาหารกลางคืนในย่านเมืองเก่าใกล้กับที่เราพัก ส่งภาษามือกับบรรดาพ่อค้าแม่ขายสั่งอาหารจีนรับประทาน ครึ่งวันเช้าก่อนกลับไปซีอาน เราตื่นแต่เช้าออกไปเดินสำรวจชีวิตผู้คนชาวลั่วหยาง ทั้งที่ตลาดย่านเช้าและย่านค้าขายในเขตเมืองเก่า สีสันของชีวิตผู้คนที่นี่แตกต่างไปจากซีอานที่ทันสมัยและมีความเจริญกว่า ตกเย็นเรานั่งรถไฟความเร็วสูงกลับซีอาน พักที่ซีอานอีกหนึ่งคืนก่อนจะบินกลับกรุงเทพฯ เมืองจีนยุคสมัยใหม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้โดยสะดวกจริงๆ เป็นจีนที่ก้าวกระโดดและก้าวไปข้างหน้า ในแบบที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่ในขณะเดียวกันยังคงเก็บรักษาประวัติศาสตร์ที่เป็นต้นธารของประเทศชาติ ผู้คน และศิลปะวัฒนธรรมเก่าก่อนไว้ได้อย่างดี