In My Time of Dying หรือ Jesus Make Up My Dying Bed เป็นเพลงที่ใช้ร้องในโบสถ์ (Gospel Music) ที่ถูกนำมาร้องใหม่โดยศิลปินหลายต่อหลายคน ซึ่งเนื้อหาหลักๆ นั้นกล่าวถึงความตาย ว่ากันว่าเนื้อหาได้รับแรงบันดาลใจมาจากท่อนเพลงสดุดี 41:3 ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลที่ว่า “เมื่อเขานอนเจ็บ พระเจ้าทรงค้ำจุนเขา เมื่อเขาป่วยไข้พระองค์ทรงรักษาความเจ็บไข้ทั้งสิ้นของเขาให้หาย” (บทแปลจาก ichurch.in.th) หรือ “The Lord will strengthen him upon the bed of languishing, thou wilt make all his bed in his sickness”
แต่ในเนื้อหาเพลงนั้นกล่าวถึงการเตรียมตัวตาย และการอ้อนวอนต่อพระเจ้าให้พระเจ้ามาโปรดในวันสุดท้ายของชีวิต เวอร์ชั่นที่ยังคงมีกลิ่นอายของเพลงในโบสถ์ได้แก่เวอร์ชั่นที่ขับร้องโดย Blind Willie Johnson
ต่อมาในปีค.ศ. 1962 Bob Dylan ออกอัลบั้มแรกของเขาพร้อมเพลง In My Time of Dyin เรียกได้ว่าทำให้เพลงนี้กลายเป็นที่รู้จักในหมู่ผู้ฟังทั่วไป
แต่เวอร์ชั่นที่กินใจเราที่สุดขับร้องโดยวงร็อคตัวพ่ออย่าง Led Zepplin ในอัลบั้ม Physical Graffiti ด้วยความยาวถึง 11.06 นาที ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงที่ยาวที่สุดของวง (ที่เจ๋งคือ คุณพ่อทั้งสี่ใส่ชื่อตัวเองเป็นคอมโพสเซอร์แบบไม่สนเวอร์ชั่นก่อนหน้าของเพลงเลยทีเดียว)
คืนก่อนวันเสียชีวิตของคริส เขาขึ้นแสดงคอนเสิร์ตในฐานะนักร้องนำวง Soundgarden ที่เมืองดีทรอยต์ และปิดการแสดงด้วยเพลงนี้ (เรายังหาคลิปอย่างเป็นทางการไม่ได้ ดูเวอร์ชั่นนี้ไปก่อนนะ)
แฟนๆ ของเขาทั่วโลก และผองเพื่อนในวงการดนตรีต่างแสดงความไว้อาลัย และความเสียใจต่อการจากไปอย่างกะทันหันของเขาทั่วโลกออนไลน์ บ้างก็ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะฆ่าตัวตายจริงๆ ในขณะที่บางคนเชื่อมโยงเพลงสุดท้ายของเขาว่าเป็นจดหมายลาตายถึงแฟนเพลงทั่วโลกกันเลยทีเดียว
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เราเชื่ออย่างหนึ่งว่า มนุษย์ทุกคนไม่ได้เป็นอมตะ แต่สิ่งที่เขาสร้างสรรค์ไว้ต่างหากที่จะเป็นอมตะ ดังนั้น แม้คริสจะจากวงการเพลงไปแล้วตลอดกาล แต่โลกนี้ก็ได้รู้จักบทเพลงดีๆ หลากหลายที่เขาได้สร้างสรรค์ไว้
ขอให้หลับฝันดีนะ จากทีมลอปติมัมออนไลน์