เหตุผลที่ทำให้คีนูกลายเป็นพระเอกตลอดกาลของใครหลายต่อหลายคนนั้นไม่ใช่เพียงหน้าตาที่หล่อเหลาเท่านั้น (อันนั้นใครๆ เขาก็มีกัน) แต่เป็นเรื่องของความตั้งใจทำงาน มนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อนร่วมงาน รวมไปถึงชีวิตส่วนตัวอันแสนเศร้า และความ ‘ติดดิน’ อย่างน่านับถือของเขา และด้วยเส้นทางอาชีพที่ยาวนาน ทำให้คีนูมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง เขาไม่ใช่ดาราที่มุ่งสะสมกล่องรางวัล แต่เขาเล่นภาพยนตร์หลากหลายแนว อาจจะเพื่อพิสูจน์ฝีมือตัวเอง หรือค้นหาแนวที่ตัวเองถนัด หรือเพียงเพื่อต้องการทำงานให้ดีที่สุด เราก็ไม่อาจรู้ได้ อย่างไรก็ตาม ลอปติมัมเลือก 5 บทบาทของคีนูที่ประทับใจเราตั้งแต่ยุค ’90s มาจนถึงยุคปัจจุบันมารีรันกันอีกรอบ
Siddhartha – Little Buddha (1993)
แม้นี่จะไม่ใช่ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ทำให้คีนูโด่งดังเปรี้ยงปร้าง แต่การแสดงเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเขาก็ชวนให้เราสงสัยว่า … พระพุทธเจ้าเป็นชาวอินเดียไม่ใช่เรอะ?? … นั่นเป็นประเด็นเกือบจะฮ็อตที่มีคนจับมาเล่นในช่วงหลังๆ ว่าการใช้นักแสดงคนละเผ่าพันธุ์กับตัวละครแบบที่ฮอลลีวูดชอบทำนั้นเป็นเรื่องชอบธรรมจริงๆ เหรอ … แต่เอาเถอะ … คีนูก็เล่นได้ดีเสมอตัวน่ะนะ เราก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรหรอกตอนที่เราดูภาพยนตร์เรื่องนี้ (จริงๆ นะ)
Jack Traven – Speed (1994)
นี่ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ทำให้คีนูโด่งดังเปรี้ยงปร้างในประเทศไทย และชายชาวไทยเกินครึ่งประเทศ (และอาจจะชายชาวอื่นๆ เกินครึ่งโลก) ต่างก็หันมาตัดผมทรงสกินเฮ้ดโดยพร้อมเพรียงกัน (ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นนี่แอนตี้ผมทรงนักเรียนกันถ้วนหน้า) และคีนูก็กลายมาเป็นขวัญใจสาวๆ ในยุค ’90s ลากยาวมากันถึงบัดนี้ (และที่น่าอิจฉาก็คือ เขาดูจะไม่ร่วงโรยไปตามวัยเลยนะ แบบว่ายิ่งแก่ยิ่งหล่อ)
Neo – The Matrix (1999)
อีกหนึ่งผลงานคลาสสิกสร้างชื่อให้กับคีนู เราคงไม่ต้องอธิบายอะไรมากนักสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ฉากหยุดกระสุนอันโด่งดัง (รวมไปถึงฉากเอฟเฟ็กต์เหลือเชื่อตระการตาต่างๆ ที่ขนกันมาปิดท้ายยุค ’90s กันแบบจัดเต็มก่อนเข้าสู่มิลเลนเนียมกันอย่างสมบูรณ์) นั้นก็เป็นตัวการันตีได้ว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้จะขึ้นหิ้งของสุดยอดภาพยนตร์ไซไฟตลอดกาลอย่างแน่นอน … นี่เราไม่ต้องพูดถึงความสามารถของเขาเลยนะ แค่ความหวือหวาของหนังก็เอาเขาอยู่หมัดแล้ว
John Constantine – Constantine (2005)
เราประทับใจเรื่องนี้ ไม่ใช่เพราะฉากสูบบุหรี่เท่ๆ หรือฉากควงปืนงามๆ ของเขาหรอกนะ แต่เราประทับใจว่าคีนูก็มีความสามารถในการเล่นดราม่าอยู่(บ้าง)เหมือนกัน ถ้าดูภาพยนตร์เฉยๆ แบบไม่คิดอะไรมาก มันก็เป็นแอ็กชั่นที่สนุกดี มีมุกตลกสอดแทรกอยู่แบบได้จังหวะดี๊ดี แต่พอมานึกดีๆ ถึงเบื้องหลังของตัวละครที่คีนูเล่น (เคยฆ่าตัวตายในวัยเด็ก แต่ไม่สำเร็จ เลยต้องหาทางหนีนรกจากบาปครั้งนั้น) เราก็จะเข้าใจถึงสีหน้าและแววตาที่เขาแสดงออกตลอดทั้งเรื่องมากขึ้น
John Wick – John Wick (2014) / John Wick: Chapter 2 (2017)
แม้จะเข้าสู่วัยกลางคนตอนปลายแล้ว แต่คีนูก็พิสูจน์แล้วว่า กาลเวลาไม่อาจพรากเสน่ห์ไปจากเขาได้เลย เมื่อ John Wick ภาคแรกออกฉาย เราจำได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สนุกมาก เป็นแอ็กชั่นที่มันมากแบบไม่อยากจะละสายตาออกจากจอเลยทีเดียว และในปีนี้จอห์นกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ด้วยลุคที่เนี้ยบยิ่งกว่าเดิม พร้อมแอ็กเซสเซอรี่จัดเต็มแบบที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเราก็อยากจะเป็นแบบเขาเช่นกัน
ไปพิสูจน์ฝีมือของคีนูใน John Wick Chapter Two ได้ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์เป็นต้นไปในโรงภาพยนตร์เท่านั้น