keep punching till the beat drops
เราขอแนะนำคุณประโยชน์ของการต่อยมวยที่จะทำให้เหงื่อของคุณไหลเป็นน้ำ
ผู้ชายเป็นสัตว์ที่ประหลาด หากเดินผ่านกระสอบทรายเมื่อใดเป็นต้องขอลองชก แม้เบาๆ ก็ยังดี อาจเพราะสัญชาตญาณของสัตว์เพศผู้คือการต่อสู้เพื่อขยายเผ่าพันธ์ุมาแต่โบราณ และได้ส่งต่อ DNA มาถึงพวกเราทุกคน
พูดถึงการออกกำลังกายแบบต่อยมวย ทุกคนย่อมรู้ดีว่าเป็นการออกกำลังที่เผาผลาญแคเลอรีมหาศาล โชคดีที่วันนี้บ้านเราเองก็หันมาสนใจการออกกำลังกายต่อยมวยกันมากขึ้น ทำให้มียิมมวยเกิดขึ้นมากมาย แท้จริงการออกกำลังกายชนิดนี้ยังมีข้อดีอีกเยอะที่จะช่วยทำให้สุขภาพเราดีขึ้น
อันที่จริงการต่อยมวยก็ถือเป็นการออกกำลังแบบ HIIT (High Intensive Interval Training) คือ การออกกำลังกายแบบเข้มข้นในช่วงเวลาอันสั้น ที่มีผลต่อระบบเผาผลาญช่วงเวลาที่เรานอน เรียกได้ว่ายอมเหนื่อยหน่อยแต่ใช้เวลาแป๊บเดียว แต่การออกกำลังกายแบบนี้อาจไม่เหมาะกับคนที่มีน้ำหนักตัวมากนัก อย่างน้อยควรเป็นคนที่มีพื้นฐานมาเสียก่อนจากการเล่นกีฬาอย่างอื่น อีกทั้งการออกกำลังแบบ HIIT ยังมีคุณประโยชน์คือการสร้างกล้ามเนื้อและเผาผลาญไขมันโดยใช้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตและไขมันในร่างกาย นั่นแปลว่าหากคุณคุมอาหารไปด้วย การออกกำลังแบบนี้จะเห็นผลอย่างรวดเร็ว โดยที่คุณจะดูบึกบึนและเห็นกล้ามชัดขึ้นมาเลยทีเดียว
อย่าเพิ่งเมินหน้าหนีจากกระสอบทราย (เรารู้ว่ามันน่าเบื่อ) แต่กระสอบทรายนั้นคือตัวเบิร์นแคเลอรีชั้นดี กระสอบทรายปกติมีน้ำอยู่ที่ประมาณ 100 ปอนด์ ต้องอาศัยกำลังค่อนข้างเยอะเพื่อที่จะชกให้ปลิว การต่อยกระสอบเป็นการโฟกัสการใช้กล้ามเนื้อที่เป็นจังหวะ (Tempo) เพราะเรารู้ว่าจะออกหมัดต่อไปเมื่อกระสอบทรายแกว่งกลับมา หากคนหนัก 90 กิโลกรัมต่อยกระสอบทรายครึ่งชั่วโมงอาจเผาผลาญได้มากถึง 550 แคเลอรีเลยทีเดียว
ความจริงแล้วเราไม่ค่อยอยากใช้คำว่าลดน้ำหนักเสียเท่าไร เพราะหากคุณไม่ได้น้ำหนักเกินเกณฑ์อยู่แล้ว น้ำหนักคุณอาจเท่าเดิมด้วยซ้ำไป แต่ไขมันในร่างกายได้เปลี่ยนเป็นกล้ามเนื้อแล้ว เพราะไขมัน 3 ส่วน มีน้ำหนักเท่ากับกล้ามเนื้อ 1 ส่วน ถึงแม้น้ำหนักจะไม่ลด แต่รับรองได้ว่าหุ่นเฟิร์มแน่ๆ อีกอย่างคือบุคลิกทั้งภายนอกและภายในของคุณจะดีขึ้น เพราะการต่อยมวยเป็นการใช้กล้ามเนื้อทั้งตัว และยังเป็นการสร้างความแข็งแกร่งของจิตใจคุณในขณะเดียวกัน
สิ่งที่ช่วยต่อมาคือการทำงานที่สัมพันธ์กันระหว่างสายตาและสมองที่ไวขึ้น โดยเฉพาะการต่อยกระสอบทรายใบเล็ก เพราะสมองและร่างกายคุณจะตอบสนองกันตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยทำให้คุณหายจากการเป็นคนเฉื่อยชาอีกด้วย ทั้งยังช่วยเร่งการผลิต Growth Hormone หรือฮอร์โมนหลักของร่างกายที่ใช้ในการเจริญเติบโตในช่วง VO2 Max (อัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด) หากคุณออกกำลังไปถึงจุดนั้น ให้สังเกตว่าเวลาคุณวิ่งในสปีดที่เร็วที่สุดของคุณแช่ไว้ประมาณ 2-3 นาที แล้วหยุด หัวใจของคุณจะเต้นเร็วมากๆ เพราะแตะจุด VO2 Max แล้ว จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการสร้าง Growth Hormone ที่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายโดยรวม และช่วยลดความเครียด นี่ยังไม่รวมการหลั่งฮอร์โมนเอนโดฟีนซึ่งทำให้คุณหลับสนิท
First Time
กินอาหารที่เน้นพลังงานโดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน วอร์มอัพด้วยการกระโดดเชือก 10-15 นาทีเพื่ออบอุ่นกล้ามเนื้อให้ยืดหยุ่น ก่อนจะต่อยกระสอบทรายจริงให้ชกลม (Shadow Boxing) กับตัวเองในกระจก ประมาณ 15 นาที ฝึกการออกหมัดและเตะที่ถูกต้อง เริ่มชกกระสอบทรายใบใหญ่โดยแบ่งเป็นเซ็ต ทำ 3-4 เซ็ต เซ็ตละ 2 นาที โดยเตะต่อยเป็นจังหวะ พร้อมย่ำฟุตเวิร์กชกเป้ากับอาจารย์หรือผู้ฝึกสอน อันนี้เราคงไม่ต้องบอกอะไรคุณมาก เพราะอาจารย์หรือผู้ฝึกสอนจะออกคำสั่งกับคุณเอง
Mark Wahlberg
มาร์กเป็นคนที่บ้าการออกกำลังกายมาก เพราะหนังส่วนใหญ่ที่เขาแสดงมักจะเป็นหนังแอ็กชั่น มาร์กมียิมส่วนตัวที่บ้าน เมื่อเขาต้องรับบทนักมวยในเรื่อง The Fighter เขาตั้งเวทีมวยภายในยิมส่วนตัวของเขา ใช้เวลาฝึกอยู่ 2 ปี โดยฝึกมวยครั้งละ 45 นาทีแต่เป็นแบบเข้มข้น เริ่มด้วยการกระโดดเชือก ต่อยกระสอบเล็กและใหญ่ ล่อเป้าแบบสองคนและ (บางครั้ง) สามคน
Brad Pitt
แบรดเป็นคนประเภท Ectomorphs คือกินเท่าไรก็ไม่อ้วน ซึ่งยากมากต่อการสร้างกล้ามเนื้อ ยิ่งพอมาซ้อมมวยด้วยแล้ว มวลไขมันในร่างกายยิ่งลดลง ตอนถ่ายร่างกายเขามีมวลไขมันเพียง 6 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอาหารที่เขาต้องกินเพื่อสร้างกล้ามเนื้อมีถึง 7 มื้อ ยกตัวอย่างมื้อใหญ่ๆ เช่น มื้อเช้ากินไข่ 6 ฟองกับโอ๊ตมีล มื้อกลางวันกินอกไก่ 2 อกกับพาสต้า และมื้อเย็นกินปลาหรืออกไก่กับพาสต้า
Tom Hardy
ทอมเป็นคนที่ไม่มีประสบการณ์ด้านมวยเหมือนกัน เพียงแต่หนังเรื่อง Warrior ที่เขาแสดงนั้นคือกีฬา MMA ซึ่งนั่นแปลว่าเขาต้องยกเวท เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้เขาดูตัวใหญ่ด้วย สิ่งที่เขาต้องฝึกซ้อมใน 1 วัน มีการต่อยมวยพื้นฐาน 2 ชั่วโมง ซ้อมมวยไทย 2 ชั่วโมง และยกเวท 2 ชั่วโมง และเขาทำน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจาก 162 ปอนด์เป็น 185 ปอนด์
Jake Gyllenhaal Jake Gyllenhaal
เจคเป็นคนที่ต่อยมวยไม่เป็นเลย ก่อนที่จะถ่ายหนังเรื่อง Southpaw เขาต้องทำการเทรนมวยและฟิตหุ่นประมาณ 6 เดือน โดยการซ้อมมวยของเขาจะเริ่มตอนเช้าด้วยการวิ่งประมาณ 8 ไมล์ และช่วงบ่ายเป็นการต่อยกระสอบใบใหญ่ 6 เซ็ต กระสอบใบเล็ก 3-4 เซ็ต และจบด้วยการล่อเป้า เขาต้องฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อให้ดูเหมือนนักมวยอาชีพมากที่สุดทั้งร่างกายและจิตใจ