Road To IBIZA
ช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาลอปติมัม ไทยแลนด์ได้รับเชิญจาก TAG Heuer (แท็ก ฮอยเออร์) ไปร่วมงาน Global Launch เปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Aquaracer Black Titanium ที่อีบิซ่า เกาะสวรรค์ของคนรักดนตรีและปาร์ตี้ที่คุณจะได้ตื่นเต้นและตาลุกวาวเหมือนกับเราตั้งแต่อยู่บนเครื่องบินแน่ๆ เพราะก่อนที่เครื่องบินจะแตะรันเวย์นั้นคุณจะได้ชมทัศนียภาพของอีบิซ่าทั้งเกาะในมุมกว้างโดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มแต่อย่างใด เพราะระหว่างทางที่เครื่องบินมุ่งหน้าไปยังสนามบินนั้นคุณจะได้เห็นตั้งแต่อ่าวจอดเรือยอร์ชสำหรับปาร์ตี้ส่วนตัวของเหล่าเศรษฐี ชายหาดสีที่มีทรายสีขาวนวลและน้ำทะเลสีครามมองทะลุลงไปเห็นพื้นด้วยตาเปล่าโดยไม่ต้องเพ่ง แต่นี่เป็นเพียงแค่เริ่มต้นสำหรับการเดินทางมาอีบิซ่าของเราครั้งนี้เท่านั้น
เมื่อเราถึงสนามบินก็ต้องพบกับความอลังการของทุกเสาในสนามบิน เพราะมันถูกห่อหุ้มด้วยโฆษณานาฬิกา TAG Heuer หลากหลายรุ่น เรารู้ได้ทันทีที่เหยียบสนามบินเลยว่าจะต้องมีอะไรตื่นเต้นรอเราอยู่ที่นี่แน่ๆ พ้นจากประตูสนามบินมาก็สัมผัสได้ทันทีว่าอากาศที่อีบิซ่านั้นร้อนระอุถึง 36 องศาเซลเซียส ไม่ต่างอะไรกับเตาไมโครเวฟเลย แต่ก็ถือว่าชดเชยกันได้อย่างลงตัวกับสาวผมบลอนด์ที่สวยระดับนางแบบวิกตอเรียซีเคร็ตที่เดินขวักไขว่ไปมาเป็นเรื่องธรรมดาในชุดสบายๆ จนเราอยากจะมุ่งหน้าไปเก็บของที่โรงแรมแล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อยืดบางๆ พร้อมกางเกงขาสั้นเพื่อกระโดดลงทะเลในทันที แต่พอถึงโรงแรม Hard Rock Ibiza สถานที่พักพิงของเราในครั้งนี้นั้น ความคิดที่สนามบินก็เปลี่ยนไปในทันที เพราะปาร์ตี้ในสระน้ำของโรงแรมนั้นเริ่มตั้งแต่เที่ยงวันจนกระทั่ง 6 โมงเย็นโดยที่คุณไม่ต้องเดินไปไหนไกลจากห้องพัก หลังจากที่ปาร์ตี้ริมสระกันอย่างสนุกสนานก็ถึงเวลาที่จะอาบน้ำแต่งตัวรีเฟรชตัวเองให้พร้อมเพื่อที่จะไปพบกับ David Guetta (เดวิด เก็ตต้า) แบรนด์แอมบาสเดอร์คนสำคัญของ TAG Heuer ในปาร์ตี้ F*** Me I’m Famous ณ Pacha Ibiza ไนท์คลับที่ดังที่สุดในอีบิซ่า แต่ถ้าคุณได้เดินทางไปเยือนเกาะอีบิซ่า ไม่ต้องตกใจเพราะเวลาเที่ยวราตรีที่นี่นั้นแตกต่างกับที่อื่นโดยสิ้นเชิง ไนท์คลับจะเปิดเที่ยงคืนถึง 7 โมงเช้า แต่ก่อนหน้านั้นคุณจะต้องไปอุ่นเครื่องตามโรงแรมหรือบาร์ที่เปิดเวลา 6 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน นั่นหมายความว่าคุณจะเริ่มต้นเที่ยวได้ตอนที่พระอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า และเสร็จสิ้นเมื่อพระอาทิตย์กำลังโผล่ขึ้นรับวันใหม่ และคืนแรกในการมาเยือนอีบิซ่าของเรานั้น เดวิด เก็ตต้าก็เริ่มเล่นตั้งแต่ช่วงตี 3 และก็ไม่ผิดหวังด้วยดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์เอกลักษณ์ของเขาที่ขับเคลื่อนให้นักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาในคลับนั้นต้องเต้นตามและระเบิดความมันกันแบบเต็มที่ และตามสเตจที่เล่นระดับขึ้นมารอบๆ คลับจะมีสาวสวยในชุดวาบหวิวที่คุณสามารถมองเธอเต้นได้โดยเธอจะไม่ว่าคุณสักคำ
วันที่สองของเรานั้นมีนาฬิกาปลุกชนิดพิเศษนั่นก็คือเสียงเพลงจากปาร์ตี้ริมสระน้ำที่ลอยเข้ามากระแทกแก้วหูจนต้องตื่นเองแบบอัตโนมัติ ทำให้เราต้องรีเฟรชตัวเองและหาอาหารมื้อรวบรัดที่มัดรวมเอามื้อเช้าที่ได้ผ่านไปแล้วและมื้อกลางวันที่มาถึงพอดีเข้าด้วยกันพร้อมกับชมวิวหาดทรายสีขาวน้ำทะเลสีฟ้าที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนเช่นกัน จากนั้นก็ถึงเวลาที่จะต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยกันสักนิด เพราะนี่คือเป้าหมายสำคัญในการเดินทางมาอีบิซ่าครั้งนี้เพื่อร่วมงานเปิดตัว TAG Heuer Aquaracer Black Titanium ที่จัดขึ้นในวิลล่าตากอากาศส่วนตัวและพบกับสองแบรนด์แอมบาสเดอร์ด้านดนตรีอย่าง Martin Garrix (มาร์ติน แกร์ริกซ์) และ David Guetta (เดวิด เก็ตต้า) และเราก็ได้รับโอกาสพิเศษให้สัมภาษณ์ Jean-Claude Biver (ฌ็อง-คล็อด บีเวอร์) ซีอีโอของ TAG Heuer และตัวเดวิด เก็ตต้าด้วย
ทำไมถึงเลือกมาร์ติน แกร์ริกซ์และเดวิด เก็ตต้ามาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์
เพราะว่าทั้งคู่คือตัวแทนของ TAG Heuer ที่ตรงกับคอนเซ็ปต์ “Don’t Crack Under Pressure” พวกเขาคือคนที่เชื่อมเด็กรุ่นใหม่เข้ากับ TAG Heuer ผ่านการแสดงตัวตนและภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เด็กรุ่นใหม่ๆ ได้เข้าใจว่าอะไรคือตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาและของ TAG Heuer
คุณเข้ามาบริหาร TAG Heuer แล้วจะเปลี่ยนแปลงแบรนด์เยอะแค่ไหน
ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเยอะแยะ เพราะ TAG Heuer นั้นมีเอกลักษณ์ของตัวเองที่ชัดเจนอยู่แล้ว และนาฬิกาแต่ละรุ่นนั้นก็มีเรื่องราวในตำนานของตัวเองโดยที่เราไม่ต้องเพิ่มอะไรเข้าไปใหม่เลย
ใครๆ ก็บอกว่าคุณเป็นมือทองในการปั้นแบรนด์นาฬิกา แล้วจับแบรนด์ไหนก็สำเร็จไปทุกแบรนด์จริงไหม
ผมก็ไม่อยากพูดอย่างนั้น แต่ถ้ามันเป็นไปได้ก็คงดี แต่ผมเชื่อว่าทุกแบรนด์นั้นมีวิธีการทำการตลาดที่แตกต่างกัน เราต้องเอาลูกเล่นและเอกลักษณ์ของแบรนด์นั้นออกมาให้ได้ และต้องถูกกลุ่มเป้าหมาย แต่ตอนนี้ผมได้ทำให้แบรนด์ที่เคยผ่านมือของผมไปนั้นสำเร็จมาแล้ว ผมก็ยังคงอยากจะให้เป็นอย่างนั้น
รู้สึกอย่างไรกับการที่ได้มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ TAG Heuer
เป็นอะไรที่วิเศษมาก เพราะ TAG Heuer ก็เป็นเหมือนตัวตนของผม มีนาฬิกาหลายรุ่นที่ผมชอบมาก และผมก็รู้สึกยินดีมากที่ได้ทำงาน กับฌ็อง-คล็อด บีเวอร์ เขาเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ดีมาก ทำงานกับเขาผมรู้สึกสนุกมากเลย
นาฬิกา TAG Heuer รุ่นไหนที่คุณชอบมากที่สุด
ผมชอบอยู่สองรุ่นนะ รุ่นแรกคือ Carrera Calibre Heuer 01 เป็นรุ่นที่ผมชอบมาก ดีไซน์มันสวยและสปอร์ตโดนใจ ผมเพิ่งขอฌ็อง-คล็อดไป แต่ของขายหมดเกลี้ยงผมเองก็ยังไม่มีใส่เหมือนกัน (หัวเราะ) และอีกรุ่นคือ Monaco มันน่าหลงใหลมากทั้งประวัติอันยาวนานและดีไซน์ของตัวเรือนที่มีเอกลักษณ์
คิดอย่างไรกับทิศทางของดนตรี EDM ที่กำลังเปลี่ยนไป คุณคิดว่าจะเปลี่ยนแนวเพลงไหม
มันก็เป็นเรื่องปกตินะ ดนตรีก็จะหมุนเวียนอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จริงๆ ผมเองก็มีดนตรีแนวอื่นที่ชอบแถมมันก็ไม่ใช่แนวอิเล็กทรอนิกส์ด้วย แต่ทำอย่างไรได้แฟนๆ อยากจะฟังเพลงแดนซ์ และพวกเขาก็อยากให้ผมเล่นให้ฟัง แต่อย่างไรก็ตามผมคิดว่า EDM ตอนนี้มันก็คงช้าลงบ้าง เร็วขึ้นบ้างตามจังหวะเวลาของมัน
หลังจบจากสัมภาษณ์ซีอีโอและดีเจชื่อก้องโลก ก็ถึงคิวที่มาร์ติน แกร์ริกซ์และเดวิด เก็ตต้าจะไปร่วมเตะฟุตบอลกับอดีตนักฟุตบอลชื่อดังของลาลีกาลีกประกอบไปด้วย Albert Luque (อัลเบิร์ต ลูเก้), Michel Salgado (มิเชล ซัลกาโด้), Joan Capdevila (โจน แคปเดวิญา), Aitor Ocio (ไอตอร์ โอซิโอ), Fernando Morientes (เฟอร์นันโด มอริเอนเตส), Fernando Sanz (เฟอร์นันโด แซงส์), Gaizka Mendieta (ไกซ์กา เมนเดียตต้า) และ Marcos Senna (มาร์กอส เซนน่า) เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ TAG Heuer เพิ่งจะเข้าเป็น Official Timekeeper ของลาลีกา ลีกฟุตบอลสูงสุดของประเทศสเปนฤดูกาล 2016/2017 อย่างเป็นทางการ ฌ็อง-คล็อด บีเวอร์ให้เกียรติรับหน้าที่เป็นท่านเปาตัดสินการแข่งขันด้วยตัวเอง หลังจากผู้เล่นทั้งสองฝั่งได้โชว์ทักษะที่ไม่ได้เห็นกันมานาน แต่ผลออกมาสองทีมเสมอกันจึงต้องตัดสินกันด้วยการเตะลูกฟุตบอลเข้าไปที่แผ่นกระดาน Carrera Calibre Heuer 01 Chronograph เพื่อวัดผลการตัดสิน ก่อนจะปิดฉากงานเปิดตัวด้วยดนตรี EDM สุดฮ็อตจากมาร์ติน แกร์ริกซ์ให้แขกผู้มีเกียรติและเหล่าเซเลบริตี้ได้ร่วมสังสรรค์ พร้อมปาร์ตี้ค็อกเทลกันแบบเต็มที่ และที่จะลืมไม่ได้เลยคือชีสสุดพิเศษจากฌ็อง-คล็อด บีเวอร์ที่นำมาให้แขกทุกท่านได้ร่วมลิ้มลองกันโดยเฉพาะ
ค่ำคืนสุดท้ายเราส่งท้ายด้วยการไปปาร์ตี้ที่โรงแรม Ushuaia Ibiza ใจกลางของโรงแรมนั้นจะเป็นไนท์คลับแบบเปิดโล่ง ซึ่งคิว ของมาร์ติน แกร์ริกซ์นั้นจะเริ่ม 4 ทุ่ม ทำให้เราได้วอร์มอัพกับ ดีเจ Marshmello ที่แต่งกายมาในชุดมาร์ชเมลโลว์มาตามชื่อกันไปพลางๆ ก่อนและช่วงใกล้ที่จะจบนั้นเราก็รู้สึกได้ว่าคนในคลับนั้น เริ่มแน่นมากขึ้น ทุกคนมาเพื่อดูมาร์ติน แกร์ริกซ์โดยเฉพาะ และ เมื่อเขาปรากฏตัว ทุกคนก็พร้อมที่จะระเบิดความมันไปพร้อมกับเขา นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาปาร์ตี้นั้นก็อย่างถึก เพราะหลังจากงานจบพวกเขายังสามารถไปต่อที่อื่นกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ มันช่างเข้ากับคอนเซ็ปต์ #DontCrackUnderPressure ตามสไตล์ TAG Heuer จริงๆ ซึ่งทำให้เรารู้แล้วเข้าใจเลยว่าหนึ่งในตัวตนของ TAG Heuer ที่ฌ็อง-คล็อด บีเวอร์ต้องการจะสื่อให้แฟนๆ นาฬิกาของเขาได้รู้นั้นคืออะไร และเราก็แนะนำว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตคุณน่าจะลองบินลัดฟ้าข้ามประเทศมาปาร์ตี้ที่อีบิซ่าดูสักครั้ง จะได้รู้ว่าอะไรคือตัวตนของ TAG Heuer และรู้ว่าเหตุใดอีบิซ่าจึงเป็นสวรรค์แห่งการปาร์ตี้ที่ทุกคนใฝ่ฝัน