[av_slideshow size=’no scaling’ animation=’slide’ autoplay=’false’ interval=’5′ control_layout=’av-control-default’]
[av_slide slide_type=’image’ id=’13302′ video=’http://’ mobile_image=” video_ratio=’16:9′ title=’Optical Collection’ link_apply=” link=’lightbox’ link_target=”][/av_slide]
[av_slide slide_type=’image’ id=’13301′ video=’http://’ mobile_image=” video_ratio=’16:9′ title=’Bvlgari Hotel London’ link_apply=” link=’lightbox’ link_target=”][/av_slide]
[av_slide slide_type=’image’ id=’13300′ video=’http://’ mobile_image=” video_ratio=’16:9′ title=’L’Eden by Perrier-Jouët’ link_apply=” link=’lightbox’ link_target=”][/av_slide]
[av_slide slide_type=’image’ id=’13303′ video=’http://’ mobile_image=” video_ratio=’16:9′ title=’New Place to sit’ link_apply=” link=’lightbox’ link_target=”][/av_slide]
[/av_slideshow]
[av_one_fourth first min_height=” vertical_alignment=” space=” custom_margin=” margin=’0px’ padding=’0px’ border=” border_color=” radius=’0px’ background_color=” src=” background_position=’top left’ background_repeat=’no-repeat’ animation=” mobile_display=”]
[av_textblock size=” font_color=” color=”]
Optical Collection
ดีไซเนอร์มือรางวัลชาวอังกฤษ Lee Broom (ลี บรูม) จัดแสดงผลงานโคมไฟที่เขาออกแบบภายใต้นิทรรศการ Opticality โดยเป็นงานศิลปะแบบจัดวางภายในร้านของเขาเองที่ย่าน Shoreditch (ชอว์ดิชท์) กรุงลอนดอน เขาเปลี่ยนแปลงผนังธรรมดาเป็นผนังกระจก เมื่อประกอบกับงานศิลปะของเขาแล้วทำให้ร้านนี้เปรียบเสมือนอยู่ในโลกเหนือความเป็นจริง (Surreal) ทำให้คนที่เดินเข้ามาในร้านได้มีส่วนร่วมกับภาพลวงตานั้น กลายเป็น 1 ในองค์ประกอบของงานศิลปะจัดวาง ส่วนตัวโคมไฟนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากงานศิลปะยุค ’60s เป็นโคมไฟที่ตกแต่งลายเส้นแบบกราฟิก สีโมโนโครม ซึ่งสามารถมองเห็นได้ทุกมุมของโคมไฟ จัดวางอยู่บริเวณกลางร้านเพื่อสร้างมุมมองที่แตกต่างแก่ผู้เข้าชมที่อยู่บริเวณรอบๆ
[/av_textblock]
[/av_one_fourth]
[av_one_fourth min_height=” vertical_alignment=” space=” custom_margin=” margin=’0px’ padding=’0px’ border=” border_color=” radius=’0px’ background_color=” src=” background_position=’top left’ background_repeat=’no-repeat’ animation=” mobile_display=”]
[av_textblock size=” font_color=” color=”]
Bvlgari Hotel London
ช่วงลอนดอนดีไซวีคในปีนี้ Bvlgari Hotel (บูลการี โฮเทล) ยังคงจับมือร่วมกับคู่หูดีไซเนอร์ Morag Myerscough และ Luke Morgan ในการสร้างสรรค์ผลงานในแนวที่เรียกว่า Interactive Installation ในรูปแบบของชิงช้า โดยผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมาสามารถนั่งและบังคับการแกว่งผ่านการดึงป้ายที่มีคำพูดต่างๆ โดยดีไซเนอร์ได้รับแรงบันดาลใจจากความขัดแย้งและความวุ่นวายในเมืองใหญ่
[/av_textblock]
[/av_one_fourth]
[av_one_fourth min_height=” vertical_alignment=” space=” custom_margin=” margin=’0px’ padding=’0px’ border=” border_color=” radius=’0px’ background_color=” src=” background_position=’top left’ background_repeat=’no-repeat’ animation=” mobile_display=”]
[av_textblock size=” font_color=” color=”]
L’Eden by Perrier-Jouët
Perrier-Jouët (แพริเอ จูเอ่ท์) แบรนด์แชมเปญหรูจากฝรั่งเศส จัดงานศิลปะจัดวางในลักษณะแขวนในชื่อว่า L’Eden ซึ่งมาจากสวนใน Epernay บ้านเกิดของแชมเปญแบรนด์นี้ งานนี้ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศส Noé Duchaufour-Lawrance และแบรนด์ที่เชื่ยวชาญทางด้านการปลูกสวนในขวด Bompas & Parr
[/av_textblock]
[/av_one_fourth]
[av_one_fourth min_height=” vertical_alignment=” space=” custom_margin=” margin=’0px’ padding=’0px’ border=” border_color=” radius=’0px’ background_color=” src=” background_position=’top left’ background_repeat=’no-repeat’ animation=” mobile_display=”]
[av_textblock size=” font_color=” color=”]
New Place to sit
Sé (เซ) แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ระดับท็อปของยุโรป เตรียมเปิดร้านแห่งใหม่ในกรุงลอนดอนขนาด 680 ตารางฟุตในช่วงเวลาของลอนดอนดีไซน์วีกที่มีผู้ชมหลั่งไหลเข้ามาดูงานดีไซน์จำนวนมาก ซึ่งต้องบอกได้เลยว่าเลือกช่วงเวลาเปิดตัวได้อย่างยอดเยี่ยม
[/av_textblock]
[/av_one_fourth]