4 ผลงานศิลปะของ Christophe Chemin ที่ฝากเอาไว้ให้กับคอลเลกชั่นฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2016-17 จาก Prada

Art Meets Fashion

นานมาแล้วที่เรื่องราวของแฟชั่นหลอมหลวมเป็นสิ่งเดียวกับศิลปะจนกลายเป็นวิถีเดียวกันแบบไม่สามารถแยกจากกันได้ และวิธีการเล่าเรื่องและนำเสนอความหมายของตัวดีไซเนอร์ผู้สร้างสรรค์ผลงานเครื่องแต่งกายก็มักใช้บริการของศิลปินเพื่อเป็นสื่อกลางในการเล่าเรื่องราวในแต่ละคอลเลกชั่น เช่นเดียวกับ Muiccia Prada (มิวเซีย ปราด้า) ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์แห่ง Prada (ปราด้า) ที่ได้พาเราไปทำความรู้จักกับ Christophe Chemin (คริสตอฟ เฌอแมง) ศิลปินชาวฝรั่งเศสผู้รังสรรค์ลายพิมพ์บนเสื้อผ้าของฤดูกาลนี้ทั้งหมด โดยเขาเรียนรู้และฝึกฝนฝีมือด้านศิลปะด้วยตนเอง ผลงานของเขาแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานงานศิลปะหลากแขนงและหลายองค์ประกอบเข้าด้วยกัน ที่เปรียบเปรยเป็นนัยยะของการปฏิเสธงานศิลปะพวกแบ่งแยกประเภท เขาสั่งสมประสบการณ์รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นงานวาดภาพ แต่งบทประพันธ์ ถ่ายภาพ กำกับภาพยนตร์ และออกแบบ เขามีนิยายตีพิมพ์แล้วจำนวน 4 เรื่อง อีกทั้งยังเป็นผู้สร้างภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง และเขามักพูดไว้เสมอว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเกี่ยวพันกับการปะติดปะต่อสิ่งหนึ่งไปยังอีกสิ่ง จึงเป็นเหตุผลที่เขาเรียกตัวเองว่า ‘ช่างเย็บผ้า’

Banquet Thieves

Prada FW16_Chemin_Banquet Thieves

ภาพวาดดินสอสีในสไตล์ Still Life และภาพวาดในแนว Vanitas เป็นที่นิยมในช่วงศตวรรษที่ 60-70 ที่มักจะแฝงความหมายเรื่องทางจริยธรรมหรือความไม่เที่ยงของชีวิตผ่านสัญลักษณ์อย่างหัวกะโหลก อาหารที่เน่าเสีย โดยในภาพนี้ได้เลือกโทนสีอบอุ่นเพื่อเสียดสีถึงความหรูหรา ภาพองค์ประกอบอันบิดเบี้ยวผิดองศาสะท้อนให้เห็นถึงผู้คนในปัจจุบัน ซึ่งหมกหมุ่นกับเรื่องอาหาร เช่นการที่พวกเขาชอบถ่ายภาพอาหารที่กำลังจะรับประทานและลงในสื่อดิจิตอล โดยมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างหนูสกปรก มดและหอยทากมาร่วมโต๊ะด้วย

Impossible True Love

Prada FW16_Chemin_Impossible True Love

แนวคิดแบบประชดประชันถูกนำมาใช้ในศิลปะแบบโรแมนติก ภาพชาวหนุ่มและหญิงสาวบรรจงจูบกัน (ซึ่งคาดว่าจะเป็นคลีโอพัตราและเอลวิส เพรสลีย์) เป็นภาพที่ไม่ใช่แค่เป็นไปไม่ได้ หากแต่สถานการณ์ทั้งหมดนั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย ภายใต้ฉากหลังสุดโรแมนติกนี้สวยงามราวดั่งความฝันยามค่ำคืนที่พร่างพราวท่ามกลางหมู่ดาวโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าและดวงจันทร์ 2 ยุค 2 วัฒนธรรม คน 2 คนจะหลอมรวมกันอยู่แต่ในความฝันที่ไม่มีทางจะเกิดขึ้นได้จริงไปตลอดกาล เป็นการสื่อความหมายที่เสียดสีความเพ้อฝันของเหล่าหนุ่มสาวนั่นเอง

The Important Ones

Prada FW16_Chemin_The Important Ones

หากประวัติศาสตร์กำหนดโดยระยะเวลาของปี ใบหน้าของผู้คนก็เปรียบได้กับประวัติศาสตร์เช่นกัน ภาพใบหน้าของบุคคลในประวัติศาสตร์จากยุคสมัยต่างๆ ทั้งวีรบุรุษ ผู้ผดุงความยุติธรรม นักประดิษฐ์ นักรบ มาอยู่ในภาพวาดดินสอสีน้ำเงินในศิลปะสไตล์คลาสสิก เป็นภาพสู้รบและภาพสงครามระหว่างเทพเจ้าในแนวศิลปะยุคบาโรกดั้งเดิมของฝรั่งเศส (Toile de Jouy) ผ่านความหมายและข้อคิดเกี่ยวกับอีโก้และความทะเยอทะยานของผู้คนในปัจจุบัน ที่มีความต้องการที่จะเป็นบุคคลสำคัญ หากแต่ลืมคิดว่าตนเองนั้นควรจะต้องสร้างความดีแทน

Survival Utopia

Prada FW16_Chemin_Survival Utopia

ในภาพวาดหมึกดำนี้ได้พาเรากลับไปพบกับความเชื่อที่เล่าสู่กันฟังในประวัติศาสตร์อย่างเรื่องเรือโนอาห์ (Noah’s Ark) ตามภาพแสดงให้เห็นถึงสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว สัตว์ที่ยังคงสืบพันธุ์อยู่ และสัตว์ในจินตนการล้วนมาชุมนุมกันในย่านอุตสาหกรรมที่เสียดสีว่าเป็นดินแดนที่ไร้สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า ‘มนุษย์’ สัตว์บางชนิดสวมหมวกทรงสูงที่เป็นสัญลักษณ์ของคนนอกศาสนาในยุคโรมันคาทอลิก บางชนิดสวมหน้ากากคาบูกิในสไตล์ญี่ปุ่น สัตว์ทุกชนิดเดินไปในทิศทางเดียวกันเป็นคู่สู่ที่ใดสักแห่ง คำถามคือที่ไหนและนั่นคือความลึกลับอันสวยงามที่ชวนให้เราออกไปค้นหา

Content by Chanond Mingmit, Photography by Courtesy of Prada