Unlimited Billionaires
มีทั้งมหาเศรษฐีที่ไม่อยากเปิดเผยตัวตน มหาเศรษฐีที่ต้องร่อนเร่ หรือมหาเศรษฐีที่ยัง “ขี้งก” คนรวยพวกนี้มีหลากหลายประเภท ขอเชิญทุกท่านทำความรู้จักกับมหาเศรษฐีเหล่านี้ที่เรียกได้ว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
เรามักได้ยินคนพูดกันว่า ไม่มีสูตรสำเร็จในการเป็นเศรษฐี พันล้าน แต่ความจริงแล้ว มันก็พอมีวิธีที่จะทำให้คุณกลายเป็นเศรษฐีพันล้านได้บ้าง ก่อนอื่นเลยขอบอกผู้อ่านว่านี่คือความลับ หากเราดูประวัติของคนที่สามารถทำเงินได้หลักพันล้านหลายคนแล้ว คนพวกนี้ใช้เส้นสายอย่างรอบคอบและรู้จักใช้อำนาจที่พวกเขามีโดยใช้เงินอัดฉีดเป็นล้านเพื่อที่ได้ผลที่ต้องการ เพื่อที่จะได้ความคิดที่หลากหลายหรือแม้แต่ให้ได้เข้าร่วมเล่นการเมือง
จากตัวอย่างผู้ที่มีอิทธิพลในโลกนี้ อำนาจทางเศรษฐกิจอาจจะไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขากลายเป็นใหญ่ได้ ฉะนั้นคนเหล่านี้จะต้องแสวงหาอำนาจทางการเมือง ตัวอย่างนี้เห็นได้ชัดเจนจากนักธุรกิจพันล้านเชื้อสายเลบานอน-ไนจีเรียอย่าง Gilbert Ramez Chagoury (กิลเบิร์ต ราเมซ ชากูรี) ที่ได้ลงสมัครตำแหน่งประธานาธิบดีประเทศไนจีเรีย แต่ก็มีคนประเภทที่เลวร้ายกว่านี้ซึ่งคนพวกนี้มักจะทำเรื่องไม่ดี ตัวอย่างเช่น การยักยอกเงินซึ่งดูไร้เกียรติ แม้ว่าภาพลักษณ์ที่เสนอดูมีเกียรติและมีศักดิ์ศรี ตัวอย่างแรกคือ ลูกหลานของผู้บริหารพรรคคอมมิวนิสต์จีนกว่า 20,000 คนซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มปัญญาชนของประเทศที่เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจลำดับสองของโลก คนพวกนี้มักจะพัวพันกับการเล่นเส้นเล่นสายในเกมการเมืองและเล่นพรรคเล่นพวกเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ทางการเงิน
นอกจากนี้แล้วยังมีเศรษฐีพันล้านที่ไม่อยากเปิดเผยตัวตน ให้เป็นที่รู้จัก จนเมื่อมีสื่อมวลชนนำเสนอความร่ำรวยของเศรษฐีประเภทนี้ แน่นอนว่าพวกเขาอยากสงวนความเป็นส่วนตัวไว้ (อย่างที่โวลแตร์เคยกล่าวว่า “หากอยากอยู่อย่างมีความสุข ให้ใช้ชีวิตอยู่แบบซ่อนตัว”) Lynsi Snyder-Ellingson (ลินซี ซไนเดอร์-เอลลิงสัน) เจ้าของร้านเบอร์เกอร์ In-N-Out เธอใช้ชีวิตอย่างสงบเสงี่ยมและเก็บตัว เธอหวาดระแวงอยู่เสมอ ลินซีบอกว่าเธอกลัวถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ตลอดเวลา
มหาเศรษฐีอีกประเภทหนึ่งที่มักเป็นจุดสนใจและเป็นหัวข้อที่นักข่าวเขียนถึงบ่อยๆ ก็คือมหาเศรษฐีที่พัวพันกับยาเสพติด การโกงและการฟอกเงิน เศรษฐีพวกนี้มักจะมีเล่ห์กลมากมายและมักจะท้าทายอำนาจรัฐ แทบทุกประเทศออกหมายจับ ไปจนถึงคิดแผนการหลบหนีขั้นเทพเมื่อถูกจำคุก ตัวอย่างมีให้เห็นอย่างพ่อค้ายาเสพติดระดับบิ๊กสัญชาติแมกซิกันอย่าง Joaquín Guzmán (ฮัวควิน กูเมซ) ซึ่งเป็น คู่แข่งตัวฉกาจในการค้ายาเสพติดกับคิงพินอีกคนหนึ่งอย่าง Pablo Escobar (พาโบล เอสโคบาร์)
และก็มีมหาเศรษฐีอีกประเภทหนึ่งที่ไม่อยากจะใช้จ่ายเงิน สักดอลลาร์ คนพวกนี้เลือกใช้ชีวิตราวกับว่าพวกเขาไม่ได้เป็นมหาเศรษฐี พวกเขาคิดว่าสถานะคนรวยไม่ได้สื่อให้เห็นถึงเกียรติยศ อาจจะเรียกคนพวกนี้ได้ว่ายิ่งกว่าขี้งกเสียอีก เราจึงขอตั้งฉายามหาเศรษฐีตระหนี่เหล่านี้ว่า “มหาเศรษฐีขี้งก” เพราะพวกเขาอาจจะมาจากครอบครัว ที่มีฐานะปานกลางมาก่อน จึงไม่ลืมที่มาของตัวเอง บ้างก็เลือกใช้ชีวิตมัธยัสถ์ รอบคอบและวางแผนงานธุรกิจของพวกเขาต่อไป ตัวอย่างเช่น เศรษฐีดิจิตอลอย่าง Tony Hsieh (โทนี เช) ผู้เป็นเจ้าของร้านรองเท้าออนไลน์อย่าง Zappos ใช้ชีวิตในรถคาราวานและฝันว่าจะสร้าง “เมืองในอุดมคติ” ให้เป็นจริงได้
The Billionaires in Shadow
Charles and David Koch (อายุ 80 ปี และ 75 ปี)
จำนวนเงินที่มี: 41,000 ล้านดอลลาร์ต่อคน เป็นมหาเศรษฐีลำดับที่ 6 ในสหรัฐอเมริกา
แหล่งรายได้: Koch Industries เป็นอาณาจักรที่สองพี่น้องได้รับมรดกจากพ่อแม่มา เป็นอุตสาหกรรมที่เชี่ยวชาญเรื่องน้ำมัน ปุ๋ยและปศุสัตว์ เป็นบริษัทใหญ่ลำดับที่ 2 ของสหรัฐอเมริกาที่ไม่ได้ลงในตลาดหุ้น ซึ่งมีตัวเลขประกอบการธุรกิจ 115,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีพนักงานมากกว่า 100,000 คนและมีสำนักงานอยู่ใน 60 ประเทศ
ลักษณะเฉพาะ: ทั้งสองคนนี้มีความคิดแบบลิเบอรัลได้ให้เงินสนับสนุนองค์กรที่มีแนวคิดเสรีนิยมใหม่และกลุ่มขวาจัดมาตลอด เป็นทั้งผู้นำระบบบริษัทที่มั่นคงและเป็นทั้งหน่วยระดมความคิด ทั้งสองพี่น้องก็กุมอำนาจในการล็อบบีผลประโยชน์ทางเมืองด้วยเช่นกัน
เรื่องโดดเด่น: ในช่วงเลือกตั้งปีค.ศ. 2014 ทั้งสองพี่น้องได้ ทุ่มเงินหลายล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสนับสนุนพรรครีพับบลิกกันให้กลายเป็นพรรคที่มี อำนาจมหาศาลในการเมืองแบบอนุรักษ์นิยม” ในการรณรงค์หาเสียงปีค.ศ. 2016 ทั้งสองพี่น้อง ตั้งใจที่จะลงเงินเพิ่มอีก 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีค.ศ. 2010 พี่น้องทั้งสองคนนี้ได้ ช่วยให้เกิดการเคลื่อนไหวทาง การเมืองที่ทำให้เกิดการเปลี่ยน ขั้วทางการเมืองอย่างที่เรียกว่า การเคลื่อนไหว Tea Party โดยสามารถได้ที่นั่งในสภาสูง เพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นการต่อต้านความเป็น คอมมิวนิสต์” ของประธานาธิบดีโอบามา
Gilbert Chagoury (อายุ 70 ปี)
จำนวนเงินที่มี: 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แหล่งรายได้: บริษัท Chagoury Group ที่มีชื่อเสียงด้านการก่อสร้างตึกและสถานที่สาธารณะ อาคารบ้านเรือน สุขภาพและการท่องเที่ยว (มีพนักงานจำนวน 10,000 คน) เขาได้สร้างบริษัทนี้ขึ้นมาหลังจากที่ผันตัวมาทำธุรกิจโดยการเริ่มจากการสร้างโรงโม่แป้งที่เมืองเบนิน โรงโม่แป้งนี้สามารถผลิตแป้งสาลีได้กว่า 3,700 ตันต่อวัน
ลักษณะเฉพาะ: เขามีอิทธิพลใน ทวีป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และสหรัฐอเมริกา มีเพื่อนฝูงที่มีอิทธิพลอย่างตระกูลคลินตันซึ่งทำให้ธุรกิจงอกเงยทำกำไรได้มากมาย
เรื่องโดดเด่น: ในช่วงที่นายอาบาชา ประธานาธิบดีของไนจีเรียบริหารประเทศอยู่นั้น เขาได้ตำแหน่งเป็น ที่ปรึกษา ในช่วงนี้ธุรกิจของเขารุ่งโรจน์เป็นอย่างมาก เขาเป็นผู้แทนเจรจากับบริษัทตะวันตกต่างๆ ที่ต้องการจะลงทุนในด้านน้ำมันและแก๊สในไนจีเรีย อย่างบริษัท Total ที่ได้รับสัมปทานมากที่สุดในปีค.ศ. 1998 เขาได้ให้เงินสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงของ Bill Clinton (บิล คลินตัน) และ Hillary Clinton (ฮิลลารี คลินตัน) ด้วยเช่นกัน บิล คลินตันเองก็เคยเข้าร่วมงานเปิดตัวโครงการก่อสร้างพื้นที่ในเมืองขนาดใหญ่อย่าง Eko Atlantic ที่เมืองลาโกส (ในปีค.ศ. 2013) ของ กิลเบิร์ตด้วยเช่นกัน ซึ่งบิลได้รับการแนะนำจาก David Axelrod (เดวิด อักเซลร็อด) อดีตที่ปรึกษาของ Barak Obama (บารัก โอบามา) ให้เป็นที่ปรึกษาแก่ Muhammadu Buhari (มูฮัมมาดู บูฮารี) ซึ่งเป็นลูกค้าบริษัทให้คำปรึกษาของ เดวิดเอง และสุดท้ายมูฮัมมาดู ก็ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีของไนจีเรียในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2015
George Soros
(อายุ 85 ปี)
จำนวนเงินที่มี: 24,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีเงินมากที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 16
แหล่งรายได้: การเก็งกำไรจาก เงินตราต่างประเทศและหุ้นรวม ทั้งจากบริษัท Soros Fund Management ที่มีเงินของเขา ของครอบครัวเขา ของมูลนิธิ ของเขา จำนวนมากกว่า 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ลักษณะเฉพาะ: เขาเป็นคนอเมริกันที่มีสัญชาติฮังการี เป็นตำนานในวงการธุรกิจจนได้รับฉายาว่า เป็น ชายผู้ทำลายธนาคารอังกฤษ” ฉายานี้ได้จากการที่เขา ได้กำไรจากวิกฤตค่าเงินยุโรปอ่อนแอในปีค.ศ. 1992 เขาสร้างกำไรได้ถึง 1,100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในตอนนั้น
เรื่องโดดเด่น: เขาให้เงินสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงของโอบามา และการปฏิวัติในยูเครน และได้ให้เงินสนับสนุนกับกลุ่มซ้ายจัดถึง 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการประท้วง ที่เมืองเฟอร์กูสัน หลังจากที่วัยรุ่นผิวสีถูกตำรวจผิวขาวสังหาร
Yang Huiyan (อายุ 34 ปี)
จำนวนเงินที่มี: 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีเงินมากที่สุดในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นลำดับที่ 5 จัดโดยลำดับโดยนิตยสาร Hurun
แหล่งรายได้: บริษัทอสังหาริมทรัพย์อย่าง Country Garden ซึ่งเธอได้รับมรดกจากพ่อของเธอเอง พ่อของเธอเคยเป็นชาวนาและแรงงานสร้างตึกมาก่อน เธอดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานบริษัทและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด (ร้อยละ 70)
ลักษณะเฉพาะ: เธอแต่งงานกับลูกชายของข้าราชการชาวจีนระดับสูง เธอเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มลูกหลานของผู้บริหารพรรคคอมมิวนิสต์จีนกว่า 22,000 คน ซึ่งมีความสำคัญกับเศรษฐกิจโลกเป็นลำดับที่สอง อำนาจที่เธอได้รับมาจากสายเลือดและการแต่งงานกับอดีตลูกหลานคนใหญ่คนโตของ พรรคคอมมิวนิสต์จีนและการดำเนินธุรกิจในเกาะบริติช เวอร์จิน
เรื่องโดดเด่น: ตอนอายุ 26 ปี เธอกลายเป็นเศรษฐินีที่มีเงินมากที่สุดในประเทศจีน ซึ่งนิตยสาร Forbes ได้จัดลำดับให้ในปีค.ศ. 2007 ก่อนหน้าที่เธอจะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ พ่อของเธอได้โอนอำนาจในการบริหารบริษัท ให้กับเธอก่อนหน้านี้สองปี
The Hidden Billionaires
Lynsi Synder-Ellingson (อายุ 33 ปี)
จำนวนเงินที่มี: 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แหล่งรายได้: เครือร้านอาหาร จานด่วนอย่าง In-N-Out Burger ที่เธอเป็นเจ้าของเอง เดิมเป็นร้านสั่งอาหารแบบไดรฟ์-อินที่ปู่ย่าของเธอสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1948 ที่เมืองบาลด์วิน พาร์ค รัฐแคลิฟอร์เนีย จนกลายเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีกว่า 300 สาขา
ลักษณะเฉพาะ: แต่ก่อนเธอไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนักธุรกิจในอุตสาหกรรมร้านอาหารจนเมื่อนิตยสาร Bloomberg ได้เขียนข่าวเกี่ยวกับเธอในปีค.ศ. 2013 ตอนอายุ 30 ปี เธอกลายเป็นเศรษฐินีพันล้านที่อายุน้อยที่สุดในสหรัฐอเมริกา เธอชอบความท้าทายของงานแต่มักจะเก็บตัวและรักษาความเป็นส่วนตัว เธอเลี่ยงที่จะปรากฏตัวในสื่อเพราะห่วงเรื่องความปลอดภัยของตัวเธอ ตอนที่เธอเป็นวัยรุ่น เธอเกือบถูกลักพาตัวถึงสองครั้ง
เรื่องโดดเด่น: เธอเป็นผู้รับมรดกของบริษัทหลังจากที่ย่าของเธอ ซึ่งเป็นผู้กุมบังเหียนของบริษัท เสียชีวิต ซึ่งก่อนหน้านี้พ่อของเธอก็เสียชีวิต เธอเป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 50 ตอนที่เธออายุ 30 ปี เธอได้ขยายกิจการของ In-N-Out ไปในหกรัฐและครอบครองหุ้นของบริษัททั้งหมด
Hamdi Ulukaya (อายุ 43 ปี)
จำนวนเงินที่มี: 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แหล่งรายได้: บริษัทผลิตโยเกิร์ต กรีก Chobani ที่เขาสร้างขึ้นและคิดหุ้นเป็นร้อยละ 40 ของตลาดโยเกิร์ตในอเมริกาซึ่งมีมูลค่ากว่า 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในสหรัฐอเมริกา บริษัทของเขาจ้างพนักงานกว่า 2,000 คน
ลักษณะพิเศษ: เขาเป็นคนโน้มน้าวคนเก่ง เขาเริ่มจากการโน้มน้าวบริษัทผู้กระจายสินค้าที่ตอนแรกยอมให้เขาขายโยเกิร์ตเพียงร้อยละ 2 ของตลาดโยเกิร์ตทั้งหมดเท่านั้น ปรัชญาของเขาก็คือ ผมชอบเอาชนะ ผมเกลียดความพ่ายแพ้”
เรื่องโดดเด่น: เขาอพยพจากประเทศตุรกีมาตั้งตัวที่สหรัฐอเมริกาในปีค.ศ. 1994 ด้วยเงินติดกระเป๋าเพียง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากนั้นเขาได้สร้างบริษัทผลิตเนยแข็งชนิดฟีต้าก่อนที่จะขายให้กับบริษัทหนึ่งไป และเริ่มขายโยเกิร์ตแบรนด์ตัวเองในปีค.ศ. 2007 ภายในระยะ 7 ปี เขาสามารถนำผลิตภัณฑ์ของเขาไปจำหน่ายใน ซูเปอร์มาร์เก็ตได้ ซึ่งทำให้แบรนด์โยเกิร์ตที่ดังอยู่แล้วอย่าง Danone และ Yoplait มีคู่แข่งใหม่ เขาลงเงิน 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐในการตั้งโรงงาน ที่เมืองทวินฟอลลส์ รัฐไอดาโอ ซึ่งเป็นหน่วยผลิตโยเกิร์ตที่ใหญ่ที่สุดในโลกและทุ่มเงิน 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐในกองทุน TPG Capital ซึ่งคิดเป็นเงินถึงร้อยละ 20 จากเงินที่เขามีปริมาตร การซื้อขายมีมูลค่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้เขายังร่วมบริจาคให้กับผู้อพยพลี้ภัยทั่วทั้งโลกด้วยเงินครึ่งหนึ่งที่เขา มีเลยทีเดียว
The New “Picsou”
Tony Hsieh (อายุ 42 ปี)
จำนวนเงินที่มี: 820 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ
แหล่งรายได้: บริษัท Zappos ซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดบริษัทหนึ่งในด้านการขายรองเท้าออนไลน์ ซึ่งเขาได้ร่วมก่อตั้งและบริหารมาได้ 16 ปีแล้ว เขาจบปริญญาด้านคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และเขาขายบริษัท LikEchange ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่เขาก่อตั้งให้กับบริษัทไมโครซอฟต์ในปีค.ศ. 1999 ในราคา 265 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากนั้นในปีค.ศ. 2009 เขาขายบริษัท Zappos ให้กับบริษัทในเครือ Amazon ในราคา 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ลักษณะเฉพาะ: เขาเป็นมหาเศรษฐีที่ประหยัดมากที่สุดคนหนึ่งในวงการธุรกิจ เขามีเงินพอที่จะอาศัยในปราสาทได้ แต่กลับเลือกอยู่ในรถคารานวานกับอัลปากาสัตว์เลี้ยงของเขาที่ชื่อว่ามาร์ลีย์ บนลาน จอดรถที่เขาเรียกว่า Llamapolis
เรื่องโดดเด่น: เขาเป็นคนใจกว้างมาก เห็นได้จากการยอมควักเงิน 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อปรับปรุงเมืองลาส เวกัสให้ดึงดูดนักธุรกิจเข้ามาลงทุน เขาได้ตั้งระบบการจัดการที่เรียกว่า Holocracy ซึ่งปฏิวัติระบบการทำงานและโครงสร้างทั้งหมดของเมือง
Azim Premji (อายุ 70 ปี)
จำนวนเงินที่มี: 17,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นบุคคล ที่ร่ำรวยที่สุดอันดับที่ 91
แหล่งรายได้: บริษัท Wipro ของครอบครัวที่ดำเนินธุรกิจด้านสบู่และน้ำมันซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศอินเดียในด้านซอฟต์แวร์ มีพนักงานถึง 146,000 คน และมีอยู่ใน 60 ประเทศ ตัวเลข การทำธุรกิจของเขาก้าวกระโดดจาก 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายใน 40 ปี
ลักษณะเฉพาะ: เขาได้รับฉายาว่าเป็น Bill Gates” แห่งบังคาลอร์ อาซิมใช้ชีวิตอย่างมัธยัสถ์ เห็นได้จากการที่เขาเดินไปทำงาน ถ้าขับรถก็จะขับโตโยต้า โคโรลา หากเดินทางไปเที่ยวก็จะนั่งเครื่องบินชั้นประหยัดและไปพักในโรงแรมราคาถูก เขามักจะให้พนักงานที่บริษัทของเขาปิดไฟทุกครั้งก่อนออกจากออฟฟิศ
เรื่องโดดเด่น: เขาตั้งพัฒนา และปรับปรุงการศึกษาในประเทศอินเดียผ่านมูลนิธิที่เขาทุ่มเงินไปมากกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีค.ศ. 2010 โดยมูลนิธิของเขาให้ความร่วมมือกับสถาบันการศึกษากว่า 20,000 แห่งในประเทศอินเดีย และเขาได้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยของเขาเองในปีค.ศ. 2012 เขาเป็นคนอินเดียคนแรก ที่ลงนามใน สัญญาว่าจะให้” อันโด่งดังของมหาเศรษฐีอย่าง บิลล์ เกตส์ซึ่งสนับสนุนให้เหล่ามหาเศรษฐีทั่วโลกสละเงินอย่างน้อยครึ่งหนึ่งจากเงินที่มีเพื่อใช้ ในการช่วยเหลือผู้อื่น
Ingvar Kamprad (อายุ 89 ปี)
จำนวนเงินที่มี: ได้รับมรดกจาก ครอบครัวประมาณ 40,000 ล้านยูโร ซึ่ง 3 ใน 4 เป็นของเขาเพียงผู้เดียว
แหล่งรายได้: ในเครือบริษัทสัญชาติสวีเดนอย่าง Ikea ที่เขา ได้ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1943 และบริหารมาตั้งแต่ช่วงนั้น บริษัท Ikea เปิดหน้าร้านกว่า 328 ร้าน ใน 28 ประเทศ มีตัวเลขดำเนินธุรกิจกว่า 31,900 ล้านยูโร
ลักษณะเฉพาะ: เขาบอกว่าเขาชอบอยู่กับความเป็นจริงมากกว่า เขาขับรถวอล์โวคันเก่าปี 1993 หากต้องออกเดินทาง เขาจะเลือกชั้นประหยัด เขาชอบสายการบินประเภทโลว์คอสต์และตกแต่งบ้านของเขาที่เป็นสไตล์สวิสด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาถูกจาก Ikea เขามักถูกพนักงานปฏิเสธไม่ให้ เข้าร่วมงานประกาศรางวัลด้านเศรษฐกิจด้วยเหตุผลว่าเขานั่งรถเมล์มาที่งานประกาศรางวัล
เรื่องโดดเด่น: เขาเลิกเนรเทศ ตัวเองหลังจากที่ 42 ปีก่อนหน้านี้ที่เขาถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินบริษัท ปีค.ศ. 2014 เป็นครั้งแรกที่เขาพ้นผิดจากเรื่องคดีภาษีคิดเป็นเงินจำนวน 600,000 ยูโรในประเทศสวีเดน บ้านเกิดของเขาเอง คิดเป็นร้อยละ 34 ของเงินที่เขามีตอน เป็นผู้บริหาร
David Cheriton (อายุ 64 ปี)
จำนวนเงินที่มี: 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นคนร่ำรวย มากที่สุดลำดับที่ 13 ในแคนาดาและเป็นลำดับที่ 628 ของโลก
แหล่งรายได้: เมื่อตอนที่เป็นครูที่มหาวิทยาลัย Stanford เขาได้ลงทุนในบริษัทที่เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ เริ่มต้นจาก Google ซึ่งเขาลงทุนไป 100,000 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อเริ่มสร้างเวบไซต์ในปีค.ศ. 1998 ตอนนี้เขาก็ยังเป็นผู้ถือหุ้นอยู่เช่นกัน
ลักษณะพิเศษ: เขาเกลียดการใช้ชีวิตแบบมหาเศรษฐี เขาจึงใช้ชีวิตอย่างสมถะ ไม่ซื้อบ้านหรูอยู่หรือรถราคาแพง เขาชอบไปโต้คลื่นที่ฮาวายเป็นประจำ ของราคาแพง ชิ้นสุดท้ายที่เขาซื้อคือรถยนต์ Honda Odyssey 2012
เรื่องโดดเด่น: ในปีค.ศ. 2005 เขาได้บริจาคเงิน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับมหาวิทยาลัย Waterloo เพื่อสนับสนุนการวิจัยขั้นสูง และงานวิจัยด้านคอมพิวเตอร์ ในปีค.ศ. 2010 เขาได้บริจาคเงิน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับมหาวิทยาลัย British Columbia เพื่อเป็นการสนับสนุนองค์กร Carl Wieman Science Education
Tim Cook (อายุ 55 ปี)
จำนวนเงินที่มี: 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่ง 120 ล้านเป็นมูลค่าจากหุ้นทั้งหมด 700,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แหล่งรายได้: บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple ซึ่งเขาเป็นประธาน เจ้าหน้าที่บริหารหลังจากที่ Steve Jobs (สตีฟ จ็อบส์) ลาออกจากตำแหน่งในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2011 ซึ่งในช่วงปีนั้นเขาเป็นซีอีโอ ที่ได้รับการปูนบำเน็จเป็นเงินถึง 378 ล้านดอลลาร์สหรัฐจาก ผลประกอบการของบริษัท
ลักษณะเฉพาะ: เรื่องเงินเป็นเรื่องที่เขากังวลน้อยที่สุด เขาเลือกใช้ชีวิตอย่างสมถะและอาศัยในอพาร์ตเมนต์ ขนาด 223 ตารางเมตรที่เมืองปาโล อัลโตที่เขาได้ซื้อมาในราคาหนึ่งล้านเก้าแสนดอลลาร์สหรัฐ
เรื่องโดดเด่น: เขาบอกว่าเขา อยากจะลบภาพลักษณ์ของบริษัทที่ดูขี้เหนียวและร่วมบริจาคใน งานการกุศล (ในปีค.ศ. 2012 เขาบริจาคเงินให้กับโรงพยาบาล Stanford ถึง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และให้โครงการสร้าง โรงพยาบาลสำหรับเด็กแรกเกิดจำนวน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เขาจะบริจาคเงินทั้งหมดที่เขามีนี้ ให้กับโครงการทั้งหมดที่กล่าวมา
The Billionaires on the Run
Joaquín Guzmán(อายุ 61 ปี)
จำนวนเงินที่มี: 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉพาะที่สังคม รับรู้นะ แต่ถ้ารวมบัญชีใต้ดินและเงินจากทางอื่นๆ คงจะมากกว่านี้อีกไม่ต่ำกว่าสองสามเท่า
แหล่งรายได้: การค้ายาเสพติด
ลักษณะเฉพาะ: มีฉายาว่า (หรือ เสือเตี้ย” เพราะเขาสูงแค่ 1.65 เมตร) หัวหน้าแกงค์ Sinaloa Cartel ซึ่งเป็นแกงค์ลักลอบค้ายาเสพติดที่ใหญ่ที่สุด ในสหรัฐอเมริกา แคนาดาและยุโรป และเป็นราชายาเสพติดชาวเม็กซิกันที่น่าเกรงขามที่สุดในโลก (นิตยสาร Forbes 2013 ได้จัดลำดับให้อยู่ที่ 67) เขาเป็นบุคคลที่ตำรวจอยากได้ตัวมากที่สุด
เรื่องโดดเด่น: เขาบริหารกิจการของเขาเหมือนเป็นประธานบริษัท เขาคิดวิธีอันชาญฉลาดในการส่งยาเสพติดให้ลูกค้า สร้างความน่าเกรงขามให้กับกลุ่มลูกค้าในแต่ละประเทศ หลบเลี่ยงการลอบสังหารได้ทุกครั้ง จ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่และคิดหาวิธีฟอกเงินได้อย่างแยบยล ในช่วงปีค.ศ. 1990 – 2008 เขาลักลอบนำโคเคนที่มีน้ำหนักกว่า 200 ตันเข้าสหรัฐอเมริกาได้และโกยเงินได้ถึง 5,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากโลดแล่นในวงการยาเสพติดมาได้ 13 ปี เขาก็ถูกตำรวจจับกุมในปีค.ศ. 2014 แต่ก็สามารถหลบหนีไปได้อีกครั้งหนึ่งในเดือนกรกฏาคมปีค.ศ. 2015 โดยขุดอุโมงค์หลบหนีที่มีความยาวมากกว่า 1.5 กิโลเมตร
Sergueï Pougatchev (อายุ 52 ปี)
จำนวนเงินที่มี: มากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ในช่วงจุดพีคที่สุด ในชีวิตของเขา) เขาถูกธนาคารแห่งกรุงมอสโกว ประเทศรัสเซียสั่งห้าม ใช้เงินทั้งหมดที่หมุนเวียนอยู่ในระบบในปีค.ศ. 2009 อันเป็นข่าวอื้อฉาวและกระจายไปทั่วโลก
แหล่งรายได้: การลงทุนหุ้นในธุรกิจก่อสร้างตึก การสร้างเรือและธนาคารชื่อ Mejprombank ที่เขาได้สร้างขึ้น ซึ่งผู้คนสงสัยว่า เขาได้มีส่วนร่วมที่ทำให้ธนาคารของเขาล้มละลายในปีค.ศ. 2010 เพราะการดำเนินธุรกิจอย่าง ไม่ชอบมาพากล
ลักษณะเฉพาะ: เขาเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงในยุค เครมลิน เคยเป็นนักการเมืองที่มีอำนาจในประเทศรัสเซีย ได้รับฉายาจากคริสตจักรว่า คณาธิปไตย” เขาเคยเป็น เพื่อนสนิทที่สุดของประธานาธิบดีปูติน” ในปีค.ศ. 2010 เขาถูกลิสต์ในบัญชีแดงเพราะว่ายักยอกเงิน
เรื่องโดดเด่น: เขาบอกว่าเขาเป็น คนที่สร้างปูติน” เพราะว่าเขาช่วยปูตินให้ได้ตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจาก Boris Yeltsin (บอริส เยลซิน) ในช่วงปลายยุค ’90s และเขาก็มีบทบาทสำคัญในการขายเรือ Mistral สองลำให้กับรัสเซีย เขาถูกเนรเทศไปที่ลอนดอนและหลบซ่อนอยู่ในฝรั่งเศสมาตั้งแต่ฤดูร้อน ซึ่งต่อมาเขาได้รับสัญชาติในปีค.ศ. 2009 ในช่วงปีนี้เขาได้พยายามซื้อหนังสือพิมพ์รายวัน France Soir คืนหลังจากที่เขาลงทุนไป 100 ล้านยูโรในปีค.ศ. 2007 กับร้านขายสินค้าที่ชื่อว่า Hdiard ล่าสุดเขาอยู่ในขั้นตอนการ ฟ้องร้องประเทศรัสเซียในการ อ้างสิทธิ์เงินจำนวน 12,000 ล้านยูโรคืน
Cem Cengiz Uzan(อายุ 55 ปี)
จำนวนเงินที่มี: 1,300 ล้าน (ในช่วงพีคของเขา) ร่ำรวยมากที่สุดเป็นลำดับที่ 4 ในประเทศตุรกี
แหล่งรายได้: จากอาณาจักรธุรกิจของครอบครัวเขาซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทมากกว่า 220 บริษัทในประเทศตุรกีและอีกประมาณ 40 บริษัทในต่างประเทศ (ด้านโทรศัพท์ การธนาคารและก่อสร้าง) ซึ่งเขาเคยกุมบังเหียนบริหารบริษัทดังกล่าวในปีค.ศ. 1992 และในปีค.ศ. 2004 ประเทศตุรกียึดบริษัทของเขาไปเพื่อที่จะเป็นสินทรัพย์หลักประกันในคดีล้มละลายที่เกิดจากการฉ้อโกงในธนาคาร Imar (คิดเป็นเงิน 6,000 ล้านยูโร)
ลักษณะเฉพาะ: ชายผู้นี้ถูกตุรกีตัดสินให้จำคุก 53 ปีในปีค.ศ. 2010 ในคดีฉ้อโกง เขาลี้ภัยมาที่ฝรั่งเศสเพราะว่าถูกหมายจับจากตำรวจสากล
เรื่องโดดเด่น: เขาเป็นเจ้าของบริษัทเครือ Star (รายการโทรทัศน์ วิทยุ และข่าว) และเป็น ผู้จัดการสโมสรฟุตบอลตุรกี สองสโมสร เขาพยายามที่จะ ผันตัวมาเล่นการเมือง ลงเลือกตั้งทั่วไปในปีค.ศ. 2002 และได้รับคะแนนเสียงร้อยละ 7.26 ในนามพรรคเยาวชน ซึ่งเป็นพรรคชาตินิยมและมีเน้นนโยบายแบบ ประชานิยม เขาเป็นเจ้าของเรือยอร์ช รถสปอร์ต เครื่องบินโบอิ้ง 747 และมีสินทรัพย์กระจายอยู่ใน 11 ประเทศทั่วโลกซึ่ง Donald Trump (โดนัลด์ ทรัมป์) ได้ซื้อสินทรัพย์ของเขาที่มีอยู่ในนิวยอร์กในราคา 38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ