IAA ของ Mercedes-Benz คือการผสมผสานโลกดิจิตอลและความหรูหราได้อย่างลงตัว

Share This Post

- Advertisement -

Digital Transformer

เทคโนโลยีการออกแบบรถยนต์ Intelligent Aerodynamic Automobile (IAA) ของ Mercedes-Benz ผสมผสานความทันสมัยของโลกดิจิตอลและความหรูหราให้อยู่ด้วยกันอย่างลงตัว

Mercedes-Benz “Concept IAA” (Intelligent Aerodynamic Automobile). Die Studie schaltet ab einer Geschwindigkeit von 80 km/h automatisch vom Design-Modus in den Aerodynamik-Modus und verändert durch zahlreiche aktive Aerodynamik-Maßnahmen ihre Gestalt. Das Fahrzeug erreicht dadurch einen cw-Wert von 0,19.  The study switches automatically from design mode to aerodynamic mode when the vehicle reaches a speed of 80 km/h, whereby numerous aerodynamics measures alter the shape of the vehicle with a Cd value of 0.19

นี่คือคอนเซ็ปต์คาร์ที่มีแนวคิดล้ำที่สุดเท่าที่โลกเคยสร้างสรรค์มา “Concept IAA” จาก Mercedes-Benz คันนี้ คือรถสองบุคลิกในหนึ่งเดียว กล่าวคือมันเป็นทั้งสปอร์ตคาร์ทรงคูเป้ 4 ประตู และรถยนต์ต้นแบบสุดเพรียวลมที่มีค่าแรงสัมประสิทธิ์การเสียดทานของอากาศ เพียง 0.19 เท่านั้น สามารถเร่งความเร็วจนถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเปลี่ยนรูปทรงของรถโดยอัตโนมัติเมื่อความเร็วเร่งมาถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วยกดปุ่มเพียงครั้งเดียว รถคูเป้สี่ประตูสุดล้ำคั้นนี้แปลงร่างเป็นรถที่มีแอร์โรไดนามิกระดับหัวแถวของโลกไปเลย

2015 Mercedes-Benz IAA Concept

โดยเจ้า Concept IAA นั้นจะยืดและขยายส่วนต่างๆ ของตัวรถทั้งหมดแปดส่วนรอบคัน และในส่วนของท้ายรถ มีการเพิ่มความยาวขึ้นอีก 390 มิลลิเมตร กางครีบอากาศด้านหน้าตัวรถที่ซ่อนอยู่ในกันชนหน้าขยับความยาวออกไปข้างหน้าอีก 25 มิลลิเมตร และด้านหลังอีก 20 มิลลิเมตร ช่วยให้การไหลเวียนของอากาศด้านหน้าตัวรถ และช่วงซุ้มล้อหน้ามีอัตราที่ดีขึ้น ลดแรงเสียดทานโดยรวมได้อย่างดี ส่วนบริเวณขอบซุ้มล้อขยับลดขนาดจาก 55 มิลลิเมตรมาเป็นศูนย์ ช่องบานเกล็ดภายในกันชนหน้าเลื่อนถอยหลังเข้าไปอีก 60 มิลลิเมตร เพื่อปรับทิศทางของอากาศที่ไหลผ่านด้านใต้ตัวรถให้ดีขึ้น

05

การสร้างยนตรกรรมล้ำยุคคันนี้ อาศัยเทคโนโลยีดิจิตอลช่วยอำนวยความสะดวกในการออกแบบ นับเป็นรถยนต์ต้นแบบแห่งยุคอุตสาหกรรม 4.0 อย่างแท้จริง การทำงานร่วมกันของผู้เชี่ยวชาญหลายภาคส่วน ตั้งแต่โครงสร้าง ตัวถัง ไปจนถึงรูปทรงของตัวรถ ที่นำอัลกอริทึมชั้นสูงมาช่วยสร้างฟอร์มทางเรขาคณิตที่ซับซ้อน และยังใช้ซอฟต์แวร์อีกหลายชุดในการออกแบบแบบไดนามิก โดยสร้างเป็นโมเดลสามมิติก่อน ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านอากาศพลศาสตร์ของ Mercedes คำนวณรูปแบบของรถได้มากกว่า 300 รูปแบบ เพื่อค้นหารูปแบบที่ดีที่สุด

08

สำหรับการออกแบบภายใน Mercedes ให้ความสำคัญกับความหรูหรามาเป็นอันดับหนึ่ง นำเส้นสายที่ต่อเนื่องของโมเดล S-Class และ S-Class Coupe มาเป็นแรงบันดาลใจในการดีไซน์ เลือกใช้วัสดุที่ดูเผินๆ ว่าขัดแย้ง แต่เมื่อนำมาอยู่ด้วยกันกลับกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวเช่น หินแอนทราไซต์และสีขาว หรือว่าการผสมผสานของอะลูมิเนียมและวัสดุโปร่งใส หรือแม้แต่พวงมาลัยที่ให้ความรู้สึกว่าความล้ำสมัยราวกับขับอวกาศยาน มีระบบ Optical Finger Navigation (OFN) ที่สามารถใช้เพียงปลายนิ้วสัมผัสที่แป้นบนพวงมาลัย ก็สามารถลากนิ้วสั่งการส่วนต่างๆ ที่ต้องการควบคุมไม่ต่างจากสมาร์ตโฟน ตอบโจทย์ในเรื่องของการขับในแบบที่เรียกว่า ตาดูทางมือจับพวงมาลัย เพราะความปลอดภัยเป็นเรื่องที่ Mercedes นั้นให้ความสำคัญมาโดยตลอด

02

ยานยนต์สองร่างในหนึ่งคันนี้ยังใช้เครื่องยนต์ 2 รูปแบบด้วยกัน ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า ขณะที่รถยนต์จอดยังสามารถชาร์จไฟเก็บไว้ในแบตเตอรีได้เพื่อให้พร้อมในการใช้งานครั้งต่อไปได้อีกด้วย เทคโนโลยีนี้กำลังเป็นที่ได้รับความนิยม เพราะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ดี ด้วยการทำงานผสมผสานกันระหว่างเชื้อเพลิงและไฟฟ้าทำให้ Concept IAA คันนี้มีพละกำลังถึง 279 แรงม้า และยังสามารถทำความเร็วได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อชัวโมง (แต่มันแปลงร่างตั้งแต่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้วล่ะ) ซึ่งก็รู้กันว่ามันสามารถทะยานไปได้มากกว่านี้ได้แน่ๆ ถ้าหากกฎหมายอนุญาต

เทคโนโลยีของ Concept IAA จะไม่ได้เป็นเพียงคอนเซ็ปต์คาร์ แต่ถูกนำเอามาใช้ในการออกแบบและผลิตรถยนต์แล้วในบางรุ่น และนี่เป็นข้อพิสูจน์ที่ว่า Concept IAA คือรถแห่งอนาคตที่อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

Content by Jonut

- Advertisement -