Zachary Quinto (แซกคารี ควินโต) ถือเป็นหนึ่งในดาราไฮโพรไฟล์ของวงการฮอลลีวูด โดยบทบาทสร้างชื่อที่แนะนำตัวเขาให้เป็นที่รู้จักในวงการได้แก่บท Adam Kaufman (อดัม เคาฟ์มัน) จากซีรีส์สุดฮิต 24 ต่อมาเขาก็โด่งดังเป็นพลุแตกจากบท Sylar หรือฆาตกรโรคจิตจากซีรีส์ชุด Heroes ที่เรียกได้ว่าเป็นการเปิดตัวชนิดที่ทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักในฐานะ “หนุ่มไซโค” ในวงการ (ซึ่งนั่นอาจจะเป็นเหตุผลให้เขาได้รับบทแนวๆ นี้ อันได้แก่บทตัวละครที่แสดงอารมณ์ด้วยสีหน้าเป็นหลัก) และสามารถสร้างฐานแฟนคลับได้เป็นจำนวนมาก (ซึ่งแฟนคลับของเขาเรียกตัวเองว่า ‘Sylar’s Army’) หลังจากนั้น ควินโตก็เปิดบริษัทโปรดักชั่นของตัวเองที่ชื่อ Before The Door Pictures ร่วมกับเพื่อนร่วมงาน เพื่อสร้างภาพยนตร์อินดี้ที่เขาลุ่มหลง แต่กลับกลายเป็นว่า ภาพยนตร์เรื่อง Margin Call (2011) ที่ตีแผ่วงการการเงินอันเน่าเฟะของประเทศสหรัฐอเมริกาได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง ควินโตจึงถูกจับตามองในฐานะโปรดิวเซอร์ผู้มากความสามารถ นอกเหนือไปจากบทบาทนักแสดงที่ทุกคนคุ้นชินและคงปฏิเสธไม่ได้ว่า บทบาทที่ทุกคนคุ้นตาที่สุดของควินโต ณ เวลานี้ก็คงหนีไม่พ้นบทบาทของ Mr. Spock จากภาพยนตร์ชุด Star Trek ที่ควินโตเองก็ได้เปล่งพลังการแสดงของตัวเองออกมาโดยการสื่ออารมณ์ต่างๆ ผ่านคาแรกเตอร์ที่ต้องไร้อารมณ์ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าหลังจาก Star Trek ถูกปล่อยออกมาเมื่อปี 2009 ควินโตจึงได้รับการยอมรับในฐานะดาราแนวหน้าของวงการฮอลลีวูด
[av_slideshow size=’no scaling’ animation=’slide’ autoplay=’false’ interval=’5′ control_layout=” av_uid=’av-5rzulj4′]
[av_slide id=’12586′ av_uid=’av-573cu1s’][/av_slide]
[av_slide id=’12585′ av_uid=’av-4ut41wg’][/av_slide]
[/av_slideshow]
ซึ่งการได้มาซึ่งการยอมรับนั้นไม่ใช่เรื่องฟลุ้ค หรือโชคชะตาบันดาล เพื่อนร่วมงานของเขาทุกคนต่างก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวว่า ควินโตเป็นดาราหนุ่มที่มนุษยสัมพันธ์ดี(มาก) เขาสามารถแปรเพื่อนร่วมงานให้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของเขาได้ไม่ยากนัก ซึ่งบรรดาเพื่อนสนิทของเขานั้นก็มีทั้ง Milo Ventimiglia (ไมโล เวนติมิกเลีย) และ Kristen Bell (คริสเตน เบลล์) จากซีรีส์ Heroes, Christ Pines (คริสต์ ไพน์) และ Karl Urban (คาร์ล เออร์บัน) จาก Star Trek รวมไปถึง Leonard Nimoy (เลียวนาร์ด นิมมอย) ผู้รับบทมิสเตอร์ สป็อกภาคออริจินัลอีกด้วย ซึ่งมิตรภาพทั้งหลายที่ควินโตสร้างมานั้น ก็ล้วนแล้วแต่ส่งผลด้านบวกให้กับอาชีพนักแสดงของเขาทั้งสิ้น
[av_slideshow size=’no scaling’ animation=’slide’ autoplay=’false’ interval=’5′ control_layout=” av_uid=’av-4l9a81s’]
[av_slide id=’12584′ av_uid=’av-3xp43nk’][/av_slide]
[av_slide id=’12583′ av_uid=’av-3h7ci1s’][/av_slide]
[/av_slideshow]
เนื่องจากเหตุผลที่แท้จริงที่เขาสนิทกับนิมมอยนั้น คือ เขาต้องการที่จะทำความเข้าใจกับบทมิสเตอร์สป็อกให้ได้มากที่สุด นอกเหนือไปจากการนั่งดูซีรีส์ Star Trek ติดต่อกันแล้ว เขายังหาเวลาและโอกาสที่จะไปกินข้าวกลางวันกับนิมมอยเพื่อทำความเข้าใจ มิสเตอร์สป็อกจากนักแสดงรุ่นเก๋าคนนี้ “ความสัมพันธ์แบบเพื่อนร่วมงานของเรานั้นกลายมาเป็นความจริงที่ว่าผมชอบใช้เวลาร่วมกับเขา และผมก็รู้สึกทึ่งในอะไรหลายๆ อย่างในตัวเขาที่ส่งผลต่อผม ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนน่ารัก ฉลาด เข้าอกเข้าใจมนุษย์ และเป็นคนสนุกสนาน” และมิตรภาพนั้นก็เผื่อแผ่ไปถึงภรรยาและลูกๆ ของนิมมอยด้วย “เลียวนาร์ดและผมกลายมาเป็นครอบครัวกันเลยก็ว่าได้”
[av_slideshow size=’no scaling’ animation=’slide’ autoplay=’false’ interval=’5′ control_layout=” av_uid=’av-2zj8zc0′]
[av_slide id=’12582′ av_uid=’av-8gu7fk’][/av_slide]
[av_slide id=’12581′ av_uid=’av-288rgv4′][/av_slide]
[/av_slideshow]
จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ควินโต ซึ่งกำลังถ่ายทำภาพยนตร์เกี่ยวกับ Edward Snowden (เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน) ของผู้กำกับมากฝีมืออย่าง Oliver Stone (โอลิเวอร์ สโตน) ที่เมืองมิวนิคถึงขั้นหัวใจสลาย เมื่อเขาได้ยินข่าวการเสียชีวิตของนิมมอยจากอาการป่วยที่ปอด “จริงๆ ผมก็รู้อยู่แล้วแหละว่าเลียวนาร์ดจะต้องจากโลกนี้ไป เขาเหลือเวลาไม่นานหรอก ผมก็อยากอยู่ใกล้ๆ เขานะ แต่เลียวนาร์ดยืนยันให้ผมโฟกัสอยู่ที่เรื่องงาน และจัดการชีวิตของผมให้ดีที่สุดมากกว่า” ดาราหนุ่มให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย อย่างไรก็ตาม ความเศร้าโศกเสียใจของควินโตนั้นถูกปล่อยออกมากับตัวละครที่เขารับบทบาทอยู่ในขณะนั้นอย่างหมดเปลือก
[av_slideshow size=’no scaling’ animation=’slide’ autoplay=’false’ interval=’5′ control_layout=” av_uid=’av-1nuyps0′]
[av_slide id=’12580′ av_uid=’av-13o0g5c’][/av_slide]
[av_slide id=’12578′ av_uid=’av-t9cd5s’][/av_slide]
[/av_slideshow]
ควินโตรับบทเป็น Glenn Greenwald (เกลนน์ กรีนวาลด์) นักข่าวเกย์ประกบกับ Joseph Gordon-Levitt (โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์) ในบท Edward Snowden (เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน) ซึ่งผู้กำกับอย่างสโตนนั้นก็ไม่ได้สั่งหรือกำชับให้นักแสดงของเขาทำความรู้จักหรือศึกษาตัวจริงของคาแรกเตอร์เท่าไหร่ แต่ควินโตเองก็สำแดงความเป็นมืออาชีพโดยการไล่ตามอ่านบทความของกรีนวาลด์ ตามดูฟุตเทจของเขาบนหน้าจอทีวี นอกจากนั้น เขายังชมภาพยนตร์สารคดีรางวัลออสการ์เรื่อง Citizenfour ของ Laura Poitras (ลอรา พอยทราส) ที่ว่าด้วยเหตุการณ์จริงของสโนว์เดนยามหนีการจับกุมของรัฐบาลอเมริกันไปที่ประเทศฮ่องกงซ้ำไปซ้ำมาหลายต่อหลายรอบเพื่อให้เข้าใจตัวตนของกรีนวาลด์มากที่สุด และเราก็หวังว่าเขาจะสามารถถ่ายทอดฝีมือการแสดงดราม่าออกมาให้เราได้ชื่นชมในบทนี้
ณ เวลานี้ แม้ว่าบทบาททางการแสดงของเขาจะดูรุ่งโรจน์ แบบฉุดไม่อยู่แล้ว แต่เขาก็ยืนยันที่จะ “พักเบรก” หลังจากที่งาน แสดงในมือตอนนี้ปิดกล้องลง “ผมว่าผมเริ่มเอียนกับบทตัวร้าย แล้วแหละ” เขาพูดติดตลก ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบแสดงบทที่ท้าทายหรอกนะ แต่เขาก็อยากจะหันไปจับงานด้านอื่นๆ อย่างเช่นการรับบทคอมเมอดี้ หรือไม่ก็การแสดงละครเวที (เรื่องสุดท้ายที่เขาเล่นให้กับบอร์ดเวย์คือเรื่อง The Glass Menagerie เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปีค.ศ. 2014) ซึ่งเขาเปรยไว้ว่า “ผมอยากจะกลับไปยืนอยู่บทเวทีนั้นอีกครั้งภายในหนึ่งปีนี้”