เวลาแพ้ทีนึงเหมือนโลกพังไปเลย นอนไม่ได้เป็นอาทิตย์ ถ้าผมขึ้นชกทั้งๆ ที่ไม่พร้อม ผมยังโกรธตัวเองได้ แต่นี่ผมทำดีที่สุดแล้ว แต่ดีที่สุดของผมก็ยังไม่ดีพอ ผมเลยเจ็บหนักทุกครั้ง”
Antoine Pinto นักมวยไทย สังกัด Thai Fight
หนุ่มฝรั่งเศสวัยเบญจเพศคนนี้เปิดฉากให้สัมภาษณ์เราเป็นภาษาไทยสำเนียงไทยแท้ๆ “อองตวนขึ้นชกมวยไทยครั้งแรกตอนอายุสิบสามปีครับ” เขาตอบเมื่อเราถามว่าเหตุใดเขาถึงเลือกอาชีพนักมวยไทย “จริงๆ มันไม่ใช่ว่าผมเลือกอาชีพหรอก มันเป็นโอกาสที่ผมจะหาเงินได้มากกว่า คือ ตอนที่พ่อแม่ย้ายมาที่เมืองไทยใหม่ๆ อองตวนกับน้องไม่มีเพื่อน เห็นเด็กแถวบ้านไปเล่นในยิม ก็เลยวิ่งตามไป ได้ไปซ้อม จนกระทั่ง วันหนึ่งได้มีโอกาสขึ้นชกและได้เงิน ในตอนนั้นก็เป็นเด็กๆ ได้เงินห้าหกร้อยก็ถือว่าเยอะมากแล้ว ก็เลยชกไปเรื่อยๆ พอยิ่งชกนาน เงินก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยกลายมาเป็นนักมวยอาชีพในปัจจุบัน ไม่เคยหยุดเลยครับ”
ปัจจุบัน นอกเหนือไปจากเป็นนักมวยอาชีพขึ้นชกให้กับ Thai Fight แล้ว อองตวนยังเปิดยิมสอนมวยไทย และเพิ่งจะเซ็นสัญญาไปชกต่างประเทศอีกด้วย “อาชีพนักกีฬาเป็นอาชีพที่ต้องสนุกกับมัน มันไม่ใช่งานที่ทำไปวันๆ จบไปวันๆ เพราะมันคือการแข่งขัน เราต้องรัก ต้องสนุกกับมัน ต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ไม่อย่างนั้นก็อยู่ไม่ได้ ทำไม่ได้หรอก” วันที่มาถ่ายปกให้เรา อองตวนก็เพิ่งจะซ้อมเสร็จ และเมื่อทำงานตรงนี้เสร็จ เขาก็ต้องรีบกลับไปซ้อมต่อ “เรารู้หน้าที่ของเราด้วยประสบการณ์ ถ้าเราขึ้นชกโดยที่ร่างกายไม่พร้อม เราจะเจ็บตัว มันคือบทลงโทษที่มาพร้อมกับอาชีพ ทำให้เรากลายเป็นคนมีวินัยไปเอง เราเจอมาเยอะ เจ็บมา ก็เยอะ เจ็บแล้วเจ็บอีก เจ็บจนกระทั่งเราจำไปเองครับ” และเมื่อเราถามถึงว่าเขาคิดอยากจะไปเที่ยวเตร่สังสรรค์กับเพื่อนตามประสาเด็กวัยรุ่นบ้างไหม อองตวนก็ตอบว่า “ผมโชคดีครับที่ไม่ได้เป็นคนชอบเที่ยว ถ้ามีเวลาว่าง ซึ่งก็ไม่ค่อยมีหรอกครับ เพราะวันๆ ก็ต้องซ้อม ซ้อมตั้งแต่เช้าตรู่ เที่ยงก็พักผ่อนนอนนิดหน่อย เย็นก็มาซ้อมอีก และตอนนี้ผมเปิดยิมก็เข้าไปที่ยิมทุกวัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สอนเอง แต่ก็เข้าไปทุกวันจริงๆ ครับ ดังนั้นถ้าว่าง ผมก็จะอยู่บ้าน ดูทีวี พักผ่อน หรือไม่ก็ไปเตะบอลกับเพื่อนๆ พอแล้ว ไม่เปลืองเงิน และสนุกด้วยครับ”
การแข่งขันกีฬาก็ต้องมีชนะและมีแพ้ แต่สำหรับอองตวน แล้ว ความพ่ายแพ้เป็นเสมือนยาขมสำหรับเขา “ทุกคนจะบอกว่า กีฬามันต้องมีแพ้มีชนะ แต่สำหรับเรามันไม่ใช่นะ เวลาแพ้ทีนึงเหมือนโลกพังไปเลย นอนไม่ได้เป็นอาทิตย์ น้ำหนักลด รับไม่ได้ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะทุกครั้งที่ผมขึ้นชก ไม่เคยไม่พร้อม ผมเลยเจ็บหนัก คือ ถ้าผมขึ้นชกทั้งๆ ที่ไม่พร้อม ผมยังโกรธตัวเองได้ แต่นี่ผมทำดีที่สุดแล้ว แต่ดีที่สุดของผมก็ยังไม่ดีพอ ผมเลยเจ็บหนักทุกครั้ง” เขามองหน้าเราแล้วรีบพูดต่อว่า “ผมไม่ได้รู้สึกโกรธแค้นอะไรคู่ต่อสู้นะครับ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวผมล้วนๆ ผมไม่ดีพอเอง ไม่เกี่ยวกับเขาเลย อาชีพนักมวยเราต้องต่อยกันอยู่แล้ว เราจะไปโกรธอะไรเขา เราต้องโกรธตัวเองที่ปล่อยให้เขาต่อยเราสิ มันไม่มีหรอกครับ อาการโกรธกัน เกลียดกันแบบที่เห็นในหนัง เพราะเวลาขึ้นชก เราไม่ได้เห็นฝ่ายตรงข้ามเป็นศัตรู เขาก็ เป็นแค่เงาลางๆ เราต้องโค่นเขาลงให้ได้ พอระฆังดัง หมดยก ก็จบกัน ไม่ได้มีความแค้นเคืองหรือมีอารมณ์อะไรแน่นอนครับ มันไม่เกี่ยวกันจริงๆ มวยมันคือต้องต่อสู้กับตัวเองล้วนๆ เท่านั้นครับ”
สำหรับอนาคตของอองตวน นอกเหนือไปจากการสร้างครอบครัวเป็นหลักเป็นฐานแล้ว เขายังคิดที่จะขยายมวยไทยไปยังต่างประเทศอีกด้วย “ผมรักเด็กครับ ถ้าพร้อมเมื่อไหร่คงจะมีลูก แต่ตอนนี้อยากจะตั้งใจทำงานในขณะที่ยังมีแรงอยู่ ทั้งในฐานะนักมวย และในฐานะเจ้าของยิม ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ ผมคงวางมือและไปดูแลครอบครัวครับ”
Content by MAYA