Million Dollar Actor + Director + Screen writer & Humorist = Ter Chantavit
เราไม่แน่ใจว่าจะนิยามชายหนุ่มคนนี้ว่าอะไรดี เพราะ เต๋อ – ฉันทวิชช์ ธนะเสวี เป็นทั้งนักแสดงมากความสามารถ (เคยได้รับรางวัลเมขลา สาขานักแสดงตลกชายยอดนิยม) บางคนก็เรียกเขาว่าพระเอกร้อยล้าน อีกทั้งยังเป็นทั้งผู้กำกับ และมือเขียนบท เจ้าของภาพยนตร์ทำเงินหลายเรื่อง พิธีกร และแอ็กติ้งโค้ช
นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ เต๋อ – ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ได้อยู่ บนปกลอปติมัมไทยแลนด์ ก่อนหน้านี้คือ เมื่อธันวาคม 2015 ฉบับสั่งลาของ เหล่านักแสดงชายจาก GTH จังหวะพอดีที่บริษัทสร้างภาพยนตร์ในตำนานจะปิดตัวลง เพราะเหตุผล ในเรื่องทิศทางการบริหารงานของผู้ถือหุ้นหลัก ก่อนที่จะแยกตัวมาเปิดบริษัท GDH 559 จำกัด ในไม่กี่วันต่อมา โดยที่เต๋อ ก็เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและถือหุ้น คงไม่ผิดที่จะกล่าวว่า เต๋อเป็นดาราที่อารมณ์ดีที่สุดคนหนึ่ง เพราะมีบุคคลิก กวน-มึน-ฮา ลอปติมัมนัดพบกับ เต๋อ เช้าวันหนึ่ง หลังจากที่เขาเพิ่งแลนดิ้งถึงเมืองไม่กี่ชั่วโมง ก่อนจะแต่งหน้า ทำผม เปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อถ่ายภาพ แฟชั่นเท่ๆ ให้กับเรา โดยไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อย แถมยังยิงมุกได้ตลอดการสนทนากับเรา
ตั้งแต่วันแรกในวงการบันเทิงจนถึงวันนี้ คุณเปลี่ยนไปแค่ไหน?
แรกเริ่มเดิมทีผมรู้สึกสนุกที่ได้ทำงาน นานวันเข้าก็รู้จักการวางแผนงานและเริ่มตั้งใจทำงานมากขึ้น ไม่ว่างานจะหนักหรือมากแค่ไหน ผมก็จะทำแต่ละชิ้นงานให้ดีที่สุด ถ้าหากนับตั้งแต่วันแรกจนมาถึงวันนี้ ผมรู้สึกว่า ผมโตขึ้น และก้าวไปไกลกว่าที่คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ตอนแรกมาไกลโข
ความแตกต่างระหว่างบทบาทนักแสดง กับผู้กำกับ คุณชอบแบบไหนมากกว่ากัน?
ผู้กำกับเป็นงานที่สนุก ได้เห็นภาพรวมของภาพหรือการแสดงที่เราได้เป็นคนทำมันขึ้นมา แต่บางครั้งผมก็อยากที่จะลงไปเล่นเองเหมือนกัน มันก็แปลกเหมือนกันนะ แต่ถ้าเป็นนักแสดงก็จะต้องมีคาแรกเตอร์ มีการใส่อารมณ์หรือความรู้สึกลงไปในเวลาที่เราแสดงออกมาเพื่อให้สมจริงมากที่สุด แต่เอาจริงๆ แล้ว การเป็นผู้กำกับเหนื่อยกว่า แต่การเป็นนักแสดงจะเครียดกว่า เพราะการเป็นผู้กำกับนั้นพอจบงานก็คือจบ กลับบ้านไปอาบน้ำนอนอย่างสบายใจ บางทีการเป็นนักแสดงเราจะรู้สึกว่าเราจมไปกับบทบาท หากวันไหนที่ต้องเล่นบทเศร้าๆ พอกลับบ้านมาก็ยังเศร้าอยู่ แต่ในสองตำแหน่งก็สนุกไม่ต่างกัน ผมไม่ขอเลือกดีกว่าว่าชอบแบบไหน
สิ่งที่ทำให้มีความสุข?
ผมมีความสุขกับงานที่ผมรัก งานที่ผมชอบ ผมจึงรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขทุกวันอยู่แล้ว แต่หลังๆ มานี้ความสุขที่แท้จริงของผมคือการที่ได้อยู่บ้าน เพราะช่วงหลังมารับบทพิธีกรรายการท่องเที่ยวด้วย ทำให้เรารู้สึกว่าการเที่ยวคืองานของเรา ส่งผลให้เวลาอยู่บ้านผมเลยรู้สึกผ่อนคลายได้เล่นเกมกับน้องบ้าง ได้พักผ่อนทำสิ่งที่เราชอบบ้าง เรียกได้ว่าเป็นความสุขที่แท้จริง
ยีนส์ตัวแรกในชีวิต?
ตัวแรกของผมเลย คือ ยีนส์ลีวายส์ 501 เพราะตอนนั้นเป็นยุคที่กางเกงยีนส์กำลังฮิต มันจะมีความรู้สึกแบบว่าเรากำลังจะเติบโตไปอีกขั้น เหมือนเวลาคุณใส่แต่กางเกงนักเรียนแล้วมาวันหนึ่งใส่กางเกงแสลค คุณจะรู้สึกได้เลยว่าคุณโตขึ้น
ถ้าคุณตื่นสายแล้วไปประชุมไม่ทัน คุณจะคว้าอะไรมาใส่?
ผมก็คงต้องใส่กางเกงยีนส์ที่มันเข้ากับสไตล์ของเรา เพราะกางเกงยีนส์ จะใส่กับเสื้อผ้าหรือรองเท้าอะไรก็ได้ แต่ถ้าใส่กางเกงแบบอื่นก็คงจะหาเสื้อผ้ายากที่จะใส่ให้เข้ากับกางเกงที่เราหยิบมา เครื่องแต่งกายสำหรับผมคือกางเกง ถ้ากางเกงเอาอยู่ ทุกอย่างก็ผ่านหมด
การแบ่งเวลาของคุณใน 1 วันล่ะ?
แต่ละวันผมต้องพักผ่อนให้ได้ 8 ชั่วโมง เพราะผมต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอ นอกจากนั้นคือเวลางาน แต่ถ้าผมมีเวลาว่างผมจะออกกำลังกายบ้าง โดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนชอบเล่นกีฬาบาสเกตบอลมาก อาทิตย์หนึ่งเล่นสามถึงสี่วัน เล่นหลายสนามด้วย ส่วนมากเล่นรวมกับเพื่อนๆ ที่ทิวไผ่งาม
ตั้งแต่ทำงานมาชอบชิ้นไหนที่สุด?
ผมงานที่ชื่นชอบของผมคือ ภาพยนตร์ กวน มึน โฮ เพราะเป็นครั้งที่ผมเป็นผู้กำกับและเป็นนักแสดงควบกันเลย ได้ตัดต่อ คิดบท เขียนบทหลายๆ สิ่งด้วยตัวผมเอง และเป็นภาพยนตร์ชิ้นแรกของผมที่ได้ไปถ่ายทำที่ ต่างประเทศ ผมรู้สึกภาคภูมิใจและประทับใจเป็นอย่างมาก เพราะวันแรกที่เราคิดถึงหนังเรื่องนี้ยังไม่รู้ว่าจะสามารถถ่ายทำให้มันออกมาอย่างที่ เราคิดได้หรือเปล่า ผมปั้นมันมาตั้งแต่ศูนย์ พอเสร็จสิ้นทุกอย่างแล้วมองย้อนกลับไป มันเป็นการเดินทางที่คุ้มค่ามากๆ
วงการบันเทิงไทยในอีก 5 ปีข้างหน้า?
ผมว่าอนาคตข้างหน้าต้องมีการแข่งขันกันมากขึ้นในวงการบันเทิง ซึ่งจะเป็น การแข่งขันตลอดเวลา คนเบื้องหลังจะทำงานหนักขึ้นและจะต้องเรียนรู้พัฒนาตัวเองตลอดเวลา เพราะถ้าเราหยุดหรือเราคิดว่าตัวเองเจ๋งแล้ว วันหนึ่งเราอาจโดนเจ้าอื่นแซงได้ง่ายๆ สื่อจะมีทางเลือกมากขึ้น แข่งกัน นำเสนอเนื้อหาสาระที่ดีเพื่อครองใจผู้บริโภค แต่ในทางกลับกัน กำไรจะตกอยู่ที่ผู้บริโภคเพราะพวกเขากำลังจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดไป
ถ้าให้เก็บกระเป๋าไปเที่ยวพรุ่งนี้เลยแบบไม่วางแผนคุณอยากไปไหน?
ผมอยากไปซานฟรานซิสโก! (หัวเราะ) ผมอยากไปมาตั้งนานแล้วนะ เพราะผมเป็นแฟนบาสเก็ตบอลทีม Golden State (โกลเด้น สเตท) ของซานฟรานซิสโก ผมอยากจะไปสัมผัสประสบการณ์ขอบสนามซักครั้ง
พอมีคนรุ่นใหม่เรียกคุณว่าเป็นไอดอลคุณรู้สึกอย่างไร?
ผมรู้สึกดีใจมาก สมัยเด็กๆ เองผมก็มีไอดอลไม่นึกว่าวันหนึ่งจะมีคนมาเรียกเราแบบนี้ เราพยายามจะเป็นตัวอย่างที่ดีแก่คนรุ่นใหม่ และหวังว่าสักวันหนึ่งคนรุ่นใหม่เหล่านี้จะเติบโตขึ้นมาเป็นไอดอลให้กับคนรุ่นต่อๆ ไป
Content by L’Optimum Team