David Bowie นักคิดนักดนตรีที่มีความสร้างสรรค์สุดโต่ง

Share This Post

- Advertisement -

Never can Say Goodbye

LONDON, ENGLAND - JANUARY 11: A mural of David Bowie is pictured in Brixton on January 11, 2016 in London, England. British music and fashion icon David Bowie died earlier today at the age of 69 after a battle with cancer. (Photo by Carl Court/Getty Images)

ผมเคยเขียนถึง David Bowie (เดวิด โบวี) มาเเล้วในลอปติมัมฉบับแรกๆ ถ้าคุณผู้อ่านพอจำกันได้
โบวีในสายตาของคนฟังเพลง ในสายตาของคนรักดนตรี คือ นักคิดนักดนตรีที่มีความสร้างสรรค์สุดโต่ง นักวิจารณ์ นักเขียนและคอลัมนิสต์มากมายต่างเขียนถึงโบวีกับการจากไปของเขาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ส่วนมากโบวีจะถูกเขียนถึงในเเง่ของเเฟชั่นลีดเดอร์ในเรื่องการเเต่งตัว เเต่งหน้า น้อยคนนักที่จะเขียนถึง
ที่สุดเเห่งความเป็นเดวิด โบวี นั่นคืองานดนตรีสุดฮิปของเขา ผมเคยบอกว่า ถ้าคุณอยากจะเสพเเละสะสมงานของโบวี ให้ลืมงานยุคแรกของเขาไปได้เลย (ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ 
เเต่มันยังไม่ถึงจุดที่สามารถใช้คำว่า “บรรลุโสดาบัน” ได้) ถ้าคุณเป็นเเฟนโบวีตัวจริง ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไร 
เพศไหน งานไตรภาคของโบวีในยุคเบอร์ลิน ไตรโลจี (Berlin Trilogy) ที่โบวีได้ที่สุดของโปรดิวเซอร์อย่าง
ไบรอัน อีโน (Brian Eno) มาเนรมิตสุดยอดงาน
โพสต์พังค์ที่ลงตัวกับเสียงกีตาร์เเละอิเลคทรอนิคส์ซาวด์ ผลงานจากยุคไตรภาคที่มีทั้งอีโนเเละโทนี วิสคอนติ (Tony Visconti) มาเนรมิตให้นั้น ทำให้อัลบั้มทั้ง
สามชุดเป็น Classic Experimental Pop ชั้นครูที่
กลายมาเป็นต้นเเบบของวงรุ่นน้องในยุคต่อๆ มา

lets dance_w1

เคยตั้งคำถามกับตัวเองไหมครับว่าคุณผู้อ่านรู้จักเดวิด โบวีดีเเค่ไหน สำหรับในบ้านเรา ผมเห็นนิตยสารมากมายเขียนถึงเขา ผู้คนในโลกโซเซียลต่างแสดงความคารวะ เเละโศกเศร้าเสียใจกับการจากไปของโบวีมากมาย เเต่เราเคยถามตัวเองไหมว่า ถ้าให้พูดถึงเพลงของโบวี 
คุณฮัมตามได้ไหม คุณรู้จักเพลงอะไรอื่นอีกบ้างนอกจาก Space Oddity กับ Let’s Dance ถ้ามีมากกว่านั้น ถือว่าคุณเริ่มรู้จักโบวีมากขึ้นเเล้ว ผมสังเกตเสมอว่า ไม่ว่าจะเป็นสถานีวิทยุเอง หรือคลับที่เล่นเพลงสากลเอง เเทบจะไม่มีใครเล่นเพลงโบวีเลย ผมสงสัย เลยถามหาคำตอบจาก
นักดนตรีรุ่นพี่ ก็ได้รับคำตอบว่าดนตรีของโบวีเล่นยาก เเกะคอร์ดยาก ผมเลยเข้าใจว่ารากฐานแฟนเพลงของโบวีในบ้านเราคงไม่แข็งแรงมาก แฟนจริงจังแบบไม่รวมพวกที่มองเขาเป็นผู้นำแฟชั่นด้าน Glam Rock บทเวทีคงจะมีไม่มากนัก แต่ถ้าคุณจะเริ่มศึกษา สะสม ผมก็แนะนำนะครับ เพราะมันช่วยพัฒนาการฟังดนตรีของเราขึ้นไปได้ เริ่มจากไตรภาคเบอร์ลินก่อนเลย อีกมุมของโบวีที่ผมชอบมากคือ ความสามารถ
ในการทำซาวด์แทร็คของเขา คุณผู้อ่านเชื่อไหมครับว่าผมไม่เคยผิดหวังกับซาวด์แทร็คที่โบวีทำออกมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว อัลบั้มที่ชอบที่สุดคงจะเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง The Falcon and the Snowman กับเพลง This is Not America ถือเป็นที่สุดของเพลงประกอบภาพยนตร์ ถ้าได้ดูภาพยนตร์ จะยิ่งอินกับท่วงทำนองเข้าไปใหญ่ ถือเป็นเพลงที่เท่อีกเพลงหนึ่ง 
ซึ่งผมยังไม่เห็นนิตยสารหรือนักวิจารณ์ดนตรีท่านใด
ในบ้านเราเขียนถึงอัลบั้มนี้หลังการจากไปของโบวีเลย

david-bowie berlin_w1

ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในปี 1985 ตัวภาพยนตร์ได้รับการยอมรับมากมายจากสื่อชั้นครูทั้งจากฝั่งยุโรปและอเมริกา เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มมีอนาคตสองคนที่ก้าวทางผิด หันมาแอบขายความลับทางการทหารของสหรัฐอเมริกาให้กับสหภาพโซเวียต (ในยุคสงครามเย็น) นอกจากจะได้ดาราคุณภาพอย่าง Sean Penn 
(ฌอน เพนน์) มาแสดงนำแล้ว ยังได้ผู้กำกับมือรางวัล
ออสการ์อย่าง John Schlesinger (จอห์น ชเลซิงเงอร์) จาก Midnight Cowboy มาร่วมงาน พร้อมซาวด์แทร็คเมโลดี้สวยงามอย่าง This is Not America ฝีมือร่วมแต่งระหว่างโบวีกับมือกีตาร์สายฟิวชั่นแจ๊ซที่โด่งดังอย่าง 
Pat Metheny (แพท เมเธนี) เจ้าของรางวัลแกรมมี
หลายตัว เพราะมากครับเพลงนี้ซาวด์แทร็คอีกเพลงที่ออกมาไล่เลี่ยกัน แต่อาจจะไม่โด่งดังเท่าได้แก่ The Absolute Beginners เป็นภาพยนตร์เพลงจากฝั่งเมืองผู้ดีที่ได้โบวีมาแต่งและขับร้องเพลงไตเติ้ลให้ ถือว่าเป็นป็อปร็อคที่ฟังง่าย ตัวโบวีเองก็ได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย ถือเป็นก้าวแรกของโบวีที่มาจับงานบนแผ่นฟิล์ม หลังจากนั้นเขาก็รับ
งานแสดงเป็นคาแรคเตอร์ที่หลากหลาย ถือเป็นจุด
ผิดพลาดของชีวิตโบวี เพราะนักวิจารณ์ต่างก็ไม่ปลื้มกับการแสดงของเขา แต่สำหรับผม ผมว่าเขาสอบไม่ตกนะ เขาแสดงดีกว่าดาราบ้านเราหลายคนเลยล่ะ

spaceboy-single_w1

สำหรับงานฝั่งภาพยนตร์ของโบวีที่ผมประทับใจที่สุดนั้นเป็นตอนที่เขามารับงานแสดงของสุดยอดผู้กำกับแห่งทศวรรษอย่าง Christopher Nolan (คริสโตเฟอร์ 
โนแลน) ในเรื่อง The Prestige หรือศึกชิงรักหักเหลี่ยม
ระหว่างแบทแมนและวูล์ฟเวอร์รีน (อันนี้ล้อเล่นนะครับ) ผมมองว่า ถ้าโบวีแสดงหนังห่วยตามที่นักวิจารณ์ว่าจริงๆ โนแลนคงไม่เลือกเขามารับบทหลักที่ผมเห็นว่าโดนที่สุดในชีวิตการแสดงของเขากับบท Nikola Tesla (นิโคลา เทสลา) นักวิทยาศาสตร์ผู้อาภัพ เขามีตัวตนใประวัติศาสตร์ 
เกิดในยุคเดียวกับ Thomas Edison (โทมัส เอดิสัน) 
ทั้งคู่มาตั้งรกรากในสหรัฐอเมริกา ร่วมมือกันคิดค้น
กระแสไฟฟ้า ทฤษฎีสนามแม่เหล็กไฟฟ้า รังสีเอ็กซเรย์ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่เทสลากลับถูกเอดิสันหักหลัง และขโมยไอเดียทั้งหมดไปเป็นชื่อตัวเอง คุณผู้อ่านไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้นะครับ เทสลาคือคนเก่งจริง เพียงแค่เขาไม่ทันคนเท่านั้น…พูดแล้วของขึ้นพาออกทะเลไปไกล…กลับมาเรื่องโบวีดีกว่า

Tin Machine 1.tif

ถ้าคุณผู้อ่านจะเริ่มฟังโบวี อย่าเริ่มที่อัลบั้มรวมเพลงฮิต เพราะจะไม่สามารถซึมซับตัวตนของโบวีได้เริ่มจากไตรภาคเบอร์ลินก่อนจากนั้นก็จงฟังชุด Let’s Dance อาจฟังดูป็อปจัด แต่ก็มีเพลงร่วมสมัยอย่าง Modern Love หลังจากนั้นก็ลองฟังแทร็คที่เขาร่วมงานกับ Pet Shop Boy อย่าง Hello Spaceboy ตบท้ายด้วยเพลงร็อคจัดเต็มที่เป็นโปรเจ็คพิเศษของตัวโบวีอย่าง Tin Machine

Content by Patrick C.

- Advertisement -