เตรียมพบกับเจสซี่ ไอเซนเบิร์กใน Now You See Me 2 เร็วๆ นี้

Share This Post

- Advertisement -

9 มิถุนายนนี้ เตรียมพบกับ Now You See Me 2 ผลงานใหม่ล่าสุดของเจสซี่ ไอเซนเบิร์ก นักแสดงและนักเขียนบทวัย 32 ปี ชาวอเมริกัน ในภาคต่อของภาพยนตร์แนว “ปล้นด้วยกล” ที่สร้างปรากฏการณ์ถล่มทลาย กวาดรายได้กว่า 350 ล้านดอลลาร์ทั่วโลกไปในภาคแรก กับการกลับมารับบทยอดนักมายากล เจ. แดเนียล แอทลาส เจ้าของฉายา The Showman “อาชญากลลวงตา” แห่งกลุ่ม “สี่อาชญากล” (The Four Horsemen) ผู้เชี่ยวชาญในการใช้มายากลภาพลวงตา ไม่ว่าจะเป็น ”กลเปลี่ยนมือ” ส่งกุญแจมือให้พุ่งตรงไปล็อกข้อมือผู้อื่นที่ทำให้ทุกคนต้องอึ้ง หรือการลวงตาอีกมากมายที่มาพร้อมประโยคเด็ด “ยิ่งเพ่งมองให้ใกล้เท่าไหร่ ยิ่งมองเห็นน้อยเท่านั้น” เรียกได้ว่าหากชายคนนี้อยู่ตรงหน้า จงอย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น คราวนี้เขาจะนำทีมกลับสู่เวทีอีกครั้ง เพื่อปลดปล่อยมายากลที่ผู้คนต่างรอคอยให้ปรากฏต่อหน้าสาธารณชน แต่เหตุการณ์กลับพลิกผันอย่างไม่คาดคิด เป็นเหตุให้ทั้งสี่ ต้องใช้พรสวรรค์ด้านมายากล งัดทุกกลเม็ดเด็ดที่สุดที่พวกเขามีออกมา เพื่อลุยปฏิบัติกล เอาชนะภารกิจสุดโหด ที่ไม่มีใครบนโลกนี้เคยทำได้สำเร็จ และนี่คือบทสัมภาษณ์ที่จะทำให้คุณได้รู้จักผลงานอาชญากลครั้งใหม่ของเขามากขึ้น

JM4_3241.NEF

ภาคใหม่นี้เหตุการณ์เริ่มขึ้นอย่างไร แล้วทำไมพวกเขาถึงไม่ถูกจับหลังจบภาคแรก?

                เราทุกคนหลบซ่อนตัวอยู่ครับ ปล่อยจนเวลาล่วงเลยผ่านไป 1 ปี ซึ่งกลุ่มของผม ตอนนี้มีเหลืออยู่แค่ แอทลาส (เจสซี่ ไอเซนเบิร์ก), เมอร์ริต (วู้ดดี้ ฮาเรลสัน) แล้วก็แจ็ค (เดฟ ฟรังโก) พวกเราอึดอัดใจกันมาก เพราะตอนตัดสินใจเข้าร่วม The Eye ซึ่งเป็นองค์กรลับของนักมายากล เราคิดว่า กลุ่ม The Four Horsemen จะได้แสดงอะไรเจ๋งๆ ไม่ต้องมาหลบซ่อน เอาแต่ฝึกซ้อมอะไรแบบนี้ และเราก็คิดว่าถึงเวลาเสียทีที่จะกลับสู่เวที

จากชื่อที่ฟังมา ดูเหมือนเฮนลีย์ (อิสล่า ฟิชเชอร์) จะหายไป เกิดอะไรขึ้น?

                ผมคงบอกอะไรคุณไม่ได้เพราะไม่จะไม่เป็นผลดีต่อหนังนะครับ ขึ้นชื่อว่ามายากล เราย่อมต้องเก็บความลับไว้เปิดเผยด้วยจังหวะที่จะทำให้ร้องว้าว ดังนั้นคุณจะได้เห็นการเปิดเผยเรื่องนี้ในหนังแน่นอน

จากในตัวอย่าง ดูเหมือนโชว์ครั้งแรกในรอบปีของทีมคุณจะไม่สำเร็จนะ?

                ครับ เราทุกคนคิดว่าปลอดภัยที่จะออกมาแล้ว แต่กลางโชว์กลับถูกแทรกแซงโดยใครก็ไม่รู้ พวกเราหนีออกมาจากเวที เพราะรู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติของคนเก่งที่จะถูกหมั่นไส้น่ะนะ แต่เรื่องของเรื่องคือ พอหนีออกมา กลายเป็นว่า เราทะลุจากลอนดอนมาโผล่ที่เมืองจีนเฉยเลย จนเราได้พบตัวละครของแดเนียล แรดคลิฟฟ์ เขาเป็นอัจฉริยะทางเทคโนโลยี เขาอยากเล่นกลมากแต่ไม่มีพรสวรรค์ เลยมองว่าเทคโนโลยีนี่แหละเป็นมายากลของเขา ตัวละครนี้เป็นตัวแปรสำคัญของเรื่อง เขาสั่งให้กลุ่มของผมไปขโมยชิพคอมพิวเตอร์ตัวหนึ่งให้ นั่นแหละเป็นที่มาของภารกิจในภาคใหม่นี้ดูเหมือนมันจะยากจนแทบเป็นไปไม่ได้เลยครับ

การได้ทำงานกับแดเนียล แรดคลิฟฟ์ เป็นอย่างไร?

                ถึงเขาจะมาพร้อมรัศมีดาราดังเต็มตัว ไม่มีใครไม่รู้จักเขา เพราะเขาคือแฮร์รี่ พอตเตอร์ แต่สิ่งหนึ่งที่เราได้เห็นจากเขา และเป็นสิ่งที่ผมชื่นชมมากๆ คือความถ่อมตัวที่เขามี และยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคุณเห็นความเอาใจใส่ในทุกสิ่งที่เขาทำ การซักซ้อม การกลายเป็นตัวละครวอลเตอร์ในเรื่องนี้ คุณจะเห็นได้เลยว่า พ่อหนุ่มคนนี้ไม่ได้รู้สึกหรือสนใจในความดังของตัวเองด้วยซ้ำ เขาเป็นเพียงนักแสดง อยากจะแสดงออกมาให้ดีที่สุด ผมชื่นชมเขามากครับ

JM4_7162.NEF

มายากลใดที่คุณชอบที่สุดในภาคนี้?

                หากถามผมในภาคที่แล้ว ผมคงชอบกลสะกดจิตของวู้ดดี้ ฮาเรลสัน เพราะจนป่านนี้ผมก็ยังอธิบายไม่ได้ว่าตัวละครของเขาทำแบบนั้นได้ไง แต่ถ้าถามถึงภาคนี้ บอกได้เลยว่าผมเลือกไม่ถูก ทั้งกลของแอทลาส ตัวละครของผมเอง ที่พัฒนาจนถึงขั้นหยุดน้ำฝนได้ หรือภาคนี้แจ็ค ไวล์เดอร์ ก็ปาไพ่ได้เทพกว่าเดิมอีกหลายเท่า นี่ยังไม่รวมลูล่า ตัวละครใหม่ที่เข้ามาร่วมทีมกับเรา ที่พามิติด้านความสยองเพิ่มขึ้นมา ผมบอกได้เลยว่าเลือกไม่ถูกจริงๆ ถ้าจะให้บอก คงบอกว่า ชอบมากกว่าเดิมทุกกลครับ

บางทีเราก็รู้สึกว่า พวกคุณไม่ใช่นักมายากล แต่มีพลังพิเศษ?

                ทุกกลที่เกิดขึ้นในเรื่อง มีคำอธิบายครับ ตัวละครทุกคนไม่ได้มีพลังพิเศษอะไร พวกเขาเพียงแค่มีพรสวรรค์ และฝึกซ้อม เตรียมพร้อมในการเล่นกลอย่างหนัก เหล่านักแสดงอย่างพวกเราเอง ก็ต้องเตรียมพร้อมอย่างมากมายเช่นกัน เพื่อจะแสดงกลเหล่านี้ออกมาได้อย่างสมจริงที่สุด เพราะผู้กำกับบอกเราว่า จะใช้ CG เท่าที่จำเป็น เพราะฉะนั้นหลายๆ กลจึงต้องมีการแสดงจริง เล่นจริง เป็นอีกแง่มุมในการแสดงเรื่องนี้ที่ผมชอบมากเลย

เราเคยได้ยินมาว่า คุณเป็นนักแสดงที่ไม่ชอบดูหนังที่ตัวเองเล่น?

                ใช่ครับ ผมเป็นนักแสดง ส่วนที่ผมมีความสุขที่สุดคือตอนได้แสดง ไม่ใช่ตอนได้ดู มันเป็นช่วงเวลาที่ผมปลดปล่อยได้เต็มที่ ได้เข้าไปอยู่ในชีวิตของคนอื่น ขณะที่แสดงผมสามารถตะโกน กรีดร้องอะไรก็ตามออกมา ซึ่งในชีวิตจริงผมไม่สามารถทำแบบนั้นได้เพราะคนจะหาว่าผมบ้า ในช่วงที่อยู่ในกองถ่าย ผมมีความสุขที่สุดแล้ว พอการถ่ายทำจบลง บางทีผมกลัวว่าเมื่อได้ดูหนัง ความสุขในกองถ่ายที่ผมเก็บเป็นความทรงจำไว้ มันอาจมีอะไรมากระทบ หรือหนังออกมาไม่ดี อาจจะทำให้ความสุขของผมลดลง ถ้าเลี่ยงดูได้ผมก็จะเลี่ยง แต่สำหรับ Now You See Me 2 ก็ไม่แน่ ถ้าผมมีอุปกรณ์เล่นกลอยู่ในมือ ผมจะต้องอยากดูมันแน่ๆ เพราะผมมีความสุขตอนได้เล่นกล และอยากจะเล่นมันอีก

คุณชอบการเข้าไปสำรวจชีวิตคนอื่น?

                ใช่เลยครับ ผมชอบการได้เล่นเป็นตัวละครใน Louder Than Bombs กับ Batman v Superman มาก เหตุผลอาจจะฟังดูแปลกๆ แต่ผมชอบการที่ได้ใส่วิกขณะแสดง เพราะมันช่วยให้ผมได้สนุกกับสิ่งใหม่ๆ ในการแสดงมากขึ้น เรียนรู้ลงไปให้ลึกมากขึ้น การศึกษาเกี่ยวกับตัวละครเป็นสิ่งที่ผมรักมากเลย ผมชอบแสดงจริงๆ แต่ผมไม่ได้ชอบเป็นดารา เวลากลายเป็นคนพวกนี้ เหมือนผมได้ไปรู้จักพวกเขา และหน้าที่ของผมก็คือ การเล่าเรื่องของคนพวกนี้ออกมา เพราะตัวเขาเองไม่สามารถมาเล่าให้ฟังได้

ได้ข่าวว่าคุณเป็นนักเขียนด้วย คุณได้อะไรจากแง่มุมของการเขียนบ้าง?

                ที่จริงมันก็คล้ายๆ กับการเล่นหนังนะครับ เพียงแค่มันเป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวผมคนเดียว แต่โดยรวมแล้ว มันก็เหมือนกับการแสดง เป็นการต้องคิดว่าจะพูดอะไรออกไปดี มันเป็นอีกอย่างที่ผมมีความสุขที่ได้ทำครับ ผมชอบตื่นแต่เช้าเพื่อมาเขียนอะไรสักอย่างเสมอ เป็นกิจกรรมที่ผมชอบที่สุดตอนเช้าเลย เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผมได้แสดง โดยไม่ต้องยุ่งกับใคร ไม่ต้องสนใจการตลาดอะไรทั้งนั้น มันสงบดีครับ

Content by Sahamongkolfilm

- Advertisement -