ลอปติมัมได้คัดสรรสุดยอดรถซูเปอร์คาร์ระดับพรีเมี่ยม มาแนะนำให้คุณแบบคันต่อคันกันไปเลย

Share This Post

- Advertisement -

WHEN SUPERCARS SPEAK ITALIAN

สิ่งที่รถซูเปอร์คาร์ชื่อดังสัญชาติอิตาเลียนอย่าง Ferrari, Maserati, De Tomaso, Lamborghini มีเหมือนกันก็คือแต่ละแบรนด์ล้วนมีโรงงานผลิตรถที่ตั้งอยู่ที่เมืองโมเดนา เมืองหลวงของแคว้นเอมีเลีย โรมัญญา ทั้งสิ้น ลอปติมัมได้คัดสรรงานรถซูเปอร์คาร์ระดับพรีเมี่ยมมาแนะนำ

modena

ขอเชิญกระโดดขึ้นรถไปยังแคว้นเอมิเลียโรมัญญาพร้อมกัน หรือจะให้เจาะจงกว่านั้นก็คือเมืองโมเดนา บ้านเกิดของลูซิอาโน   ปาวารอตติ เมืองขึ้นชื่อของน้ำส้มสายชู บัลซามิกและชีสพาร์มาซาน และที่สำคัญเมืองนี้คือแหล่งกำเนิดรถยนต์ซูเปอร์คาร์ เมืองนี้คือฐานผลิตรถยี่ห้อ Ferrari, Maserati, Lamborghini (สำหรับแบรนด์หลังสุดจะผลิตที่เมืองซานอากาตาโบโลนีส ห่างออกไป 20 กิโลเมตร) De Tomaso Pagani รวมไปถึง Ducati (ที่ตั้งอยู่ในเมืองโบโลญาห่างออกไปประมาณ 50 กิโลเมตร) ชื่อที่กล่าวมาคงคุ้นหูบรรดาผู้ที่หลงใหลซูเปอร์คาร์อันสวยงามเหล่านี้ เราอาจจะรู้จักเมืองโมเดนาแค่ในฐานะฐานผลิตรถยนต์เฟอร์รารี่ แต่น้อยคนจะรู้ว่ามันคือบ้านเกิดของเอนโซ เฟอร์รารี่ด้วย เขาเกิด ในปี 1898 และคือที่เขาเริ่มต้นการผลิตรถแข่งก่อนจะย้ายไปเมืองมาราเนลโลที่ห่างออกไปทางตอนใต้ 30 กิโลเมตรในปี 1933 พื้นหลัง สีเหลืองของโลโก้เฟอร์รารี่ก็มีที่มาจากเมืองโมเดนา เรายังสามารถเข้าไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์รถเฟอร์รารี่ที่เมืองนี้ได้ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างขึ้นภายหลัง จากแห่งแรกที่เมืองมาราเนลโลที่อยู่ใกล้กับโรงงานผลิตรถยนต์ของแบรนด์ สำหรับ Maserati นั้นได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1914 ที่เมืองโบโลญา และก็ได้ย้ายโรงงานไปที่เมืองโมเดนาตั้งแต่ปี 1940 ภายใต้การดูแลของอโดลโฟ ออร์ซี เขาก็ได้ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทที่นั่น ผู้ที่ชื่นชอบยี่ห้อมาเซอราติยังสามารถไปชมพิพิธภัณฑ์รถยนต์ปากานี มาเซอราติได้อีกด้วย อย่าลืมว่า ถ้าไปเมืองนี้แล้ว พิพิธภัณฑ์แห่งที่ 3 ที่คอรถยนต์ควรไปเยี่ยมชมก็คือ ‘Stanguellini’ ซึ่งจัดแสดงรถแข่งวินเทจเอาไว้ให้ชื่นชม

ในปี 1959 รถยี่ห้อ De Tomaso ได้ถือกำเนิดขึ้นที่  เมืองโมเดนาเช่นกัน (ผู้ก่อตั้งนาม อเลฮานโดร โตมาโซ    เป็นชาวอาร์เจนตินา) รวมไปถึงบริษัท Pagani Automobile  บริษัทยานยนต์ที่ก่อตั้งโดยออราซิโอ ปากานิ อีกหนึ่งผู้ก่อตั้งชาวอาร์เจนตินา แต่สุดท้ายชื่อเดอ โทมาโซก็ถูกขายให้กับจีนและล้มละลายไป ตรงกันข้ามในปี 1999 รถรุ่น Zonda ของปากานีได้ครองใจของผู้คลั่งไคล้รถยนต์นับล้านทั่วโลก และได้ถูกชิงตำแหน่งแชมป์ไปในปี 2011 โดยรถรุ่น Huayra ที่โดดเด่นด้วยโลหะเงาวับทั้งคัน ถัดจากเมืองโมเดนาไปทางทิศตะวันออกประมาณ    20 กิโลเมตรเป็นที่ตั้งของเมืองซานอากาตา โบโลนีส และเมืองนี้ก็คือบ้านเกิดของ Lamborghini ยานยนต์ชื่อดังที่ถือกำเนิดขึ้นจากอารมณ์โกรธชั่ววูบ ในปี 1963 เฟอรุกชิโอ ลัมโบร์กินีได้ออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่เพื่อมาแข่งกับรถของเอนโซ เฟอร์รารี่ ดั้งเดิมลัมโบร์กินีทำอาชีพผลิตรถแทรกเตอร์ รถลัมโบร์กินีถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันหนึ่ง ระหว่างที่เขาขับรถเฟอร์รารี่ของตัวเองอยู่ เขาก็รู้สึกว่าเครื่องยนต์ของรถเฟอร์รารี่มีปัญหา เขาจึงไปบอกกับเอนโซ เฟอร์รารี่ แต่โดนตอกกลับมาว่าคนขับรถแทรกเตอร์อย่างลัมโบร์กินีจะไปรู้อะไรและไม่มีสิทธิมาวิจารณ์รถยนต์ อันสูงส่งของเขา ลัมโบร์กินีได้ยินแบบนี้จึงตัดสินใจที่จะตั้งบริษัทรถยนต์ของตัวเอง และออกรถรุ่น 350 GT ในปี 1963 และอีก 3 ปีให้หลังเขาก็ได้ออกรถรุ่น Miura ซึ่งกลายมาเป็นรถในตำนานอันโด่งดัง นักออกแบบชาวอิตาเลียนผู้นี้เลือกกระทิงมีเขาที่ดูเกรี้ยวกราดมาเป็นตราสัญลักษณ์ เนื่องจากมันเป็นสัตว์ประจำราศีของเขา เพื่อสะท้อนคาแร็กเตอร์    ของแบรนด์ ลัมโบร์กินีจะเลือกชื่อของรถยนต์แต่ละรุ่นให้มีความสอดคล้องกับการแข่งวัวกระทิง (Miura, Murcielago, Gallardo) ทุกวันนี้ลัมโบร์กินีเป็นเจ้าของ Audi และ Ducati (ที่เมืองโบโลญา) และแบรนด์นี้ก็ยังคงเอกลักษณ์ที่แตกต่าง ความดิบและความเร็วที่สะท้อนความเกรี้ยวกราดรวดเร็ว   ซึ่งเราจะเห็นได้จากรถรุ่น Aventador SV ที่มีกำลังถึง    750 แรงม้า …รอบๆ เมืองโมเดนาอันเงียบสงบ แท้ที่จริงแล้วเต็มไปด้วยความเร็วเต็มพิกัดของเหล่ารถซูเปอร์คาร์ทรงพลัง

Lamborghini Countach

Lamborghi Countouch

ปีที่ผลิต: 1974-1990  จำนวนผลิต: 2,049 คัน  ออกแบบ: มาเซลโล กานดินี จาก Bertone  เครื่อง: V12  กำลัง: 375-455 แรงม้า  จาก 0 ถึง 100 กม./ชม.: 4.7 วินาที  ความเร็วสูงสุด : 295 กม./ชม.  ราคาโดยประมาณ: 300,000 ยูโร  เปิดวงคุยเรื่องรถ… “คำว่า Countach ไม่ได้มีความหมายอะไรโดยเฉพาะ นอกจากเป็นคำอุทานที่แสดงความประหลาดใจ (ในแง่ดี) ตอนที่เบร์โตเนได้เห็นโมเดลของรถคันนี้” *ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงสำหรับเวอร์ชั่นครบรอบ 25 ปี

Ferrari GTO

Ferrari

ปีที่ผลิต: 1962-1964  จำนวนผลิต: 39 คัน  ออกแบบ: แซร์จิโอ สกากลิเอตติ  เครื่อง: V12 3.0  กำลัง: 300 แรงม้า  จาก 0 ถึง 100 กม./ชม.: ประมาณ 5 วินาที  ความเร็วสูงสุด: 295 กม./ชม.  ราคาโดยประมาณ : 30 ล้านยูโร  เปิดวงคุยเรื่องรถ… “รถยนต์เครื่อง GTO มีราคาแพงที่สุดในโลก แล้วราคาก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2014 หลายคนเต็มใจซื้อรถราคามากกว่า 28 ล้านยูโรคันนี้ ทั้งราล์ฟ ลอเรน และนิก เมซัน มือกลองแห่งวงพิงก์ฟลอยด์ 2 หนุ่มผู้คลั่งไคล้รถเฟอร์รารี่ต่างมีรถรุ่นนี้คนละคัน”

Alfa Romeo 8C Competizione

Alfa-Romeo-33-Stradale-2048x2560 w1

ปีที่ผลิต: 1967-1969  จำนวนผลิต: 18 คัน  ออกแบบ: ฟรานโก สกากิโยเน  เครื่อง: V8 2.0  กำลัง: 230 แรงม้า  จาก 0 ถึง 100 กม./ชม. : +/- 6 วินาที  ความเร็วสูงสุด: 260 กม./ชม.ราคาโดยประมาณ: 3,000,000 ยูโร  เปิดวงคุยเรื่องรถ… “ถึงแม้รถรุ่นนี้จะไม่ได้ถือกำเนิดที่เมืองโมเดนา ในเมื่อรถ 33 Stradale รุ่นนี้สูงไม่ถึง 1 เมตร และเป็น 1 ใน 10 ยานยนต์ที่สวยที่สุดในโลก แถมยังคงความแตกต่างจากรถคันอื่นโดยมีลักษณะคล้ายกับยานอวกาศ และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับรถรุ่น 8C Competizione” ++รุ่นนี้สูงไม่ถึง 1 เมตร และเป็น 1 ใน 10 ยานยนต์ที่สวยที่สุดในโลก แถมยังคงความแตกต่างจากรถคันอื่นโดยมีลักษณะคล้ายกับยานอวกาศ

Detomaso Mangusta

Detomaso

ปีที่ผลิต: 1967-1970  จำนวนผลิต: 402 คัน  ออกแบบ: จอร์แจตโต จูจาโร สำหรับ Ghia  เครื่อง: V8 4.7  กำลัง: 305 แรงม้า  จาก 0 ถึง 100 กม./ชม. : 6 วินาที  ความเร็วสูงสุด: 260 กม./ชม.  ราคาโดยประมาณ: 100,000 ยูโร  เปิดวงคุยเรื่องรถ… “รถรุ่น Mangusta อยู่ในภาพยนตร์เรื่อง Kill Bill ถูกขับโดยเดวิด คาราดีน ถึงแม้ว่าเควนติน ตารานติโนผู้กำกับจะอยากให้เขาขับรถปอร์เช่สีเทาในตอนแรก แต่คาราดีนซึ่งไม่ใช่แฟนของรถปอร์เช่ได้ขอรถ คาริลแลค  Cien มาขับ แต่แบรนด์ดังกล่าวปฏิเสธ สุดท้ายจึงได้รถ Mangusta มาเข้าฉากแทน”

Maserati Ghibli

 maserati ghibli

ปีที่ผลิต: 1967-1973  จำนวนผลิต: 1,295 คัน  ออกแบบ: จอร์แจตโต จูจาโร สำหรับ Ghia  เครื่อง: V8 (4.7 และ 5)  กำลัง: 310 และ 335 แรงม้า  จาก 0 ถึง 100 กม./ชม. : ประมาณ 7 วินาที  ความเร็วสูงสุด: 275 กม./ชม.  ราคาโดยประมาณ : 150,000 ยูโร  เปิดวงคุยเรื่องรถ… “รถรุ่น Ghibli เป็นรถของโมริซ โรเนในภาพยนตร์เรื่อง La Piscine (ของฌาค เดอเรย์ ปี 1969) เขาคุยโวว่าด้วยรถคันนี้ล่ะที่ทำให้เขาเดินทางจากปารีสไปแซงต์โทรเปได้ในเวลาเพียง 7 ชั่วโมง 15 นาที”

Pagani Zonda

 Pagani

ปีที่ผลิต : 1990-2010  จำนวนผลิต : ประมาณ 100 คัน  ออกแบบ : ฮอราจิโอ ปากานี  เครื่อง : V12  กำลัง : 394-750 แรงม้า  จาก 0 ถึง 100 กม./ชม. : 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุด: 350 กม./ชม.  ราคาโดยประมาณ : 1.5 ล้านยูโร  เปิดวงคุยเรื่องรถ… “ก่อนออกแบบรถยนต์ยี่ห้อของตัวเอง ฮอราจิโอ ปากานีได้สร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์ลัมโบร์กินี ในวัยหนุ่มเขาก็ได้ออกแบบรถสปอร์ตสองประตูให้กับเรย์โนลต์ด้วย” *ราคาที่ให้เป็นของรุ่น Zonda Cinque

Edonis

 Edonis

ปีที่ผลิต: 2001-2003  จำนวนผลิต: 21 คัน  ออกแบบ: มาร์ค เดชอง  เครื่อง: V12 3.8  กำลัง: 700 แรงม้า  จาก 0 ถึง 100 กม./ชม. : 3.2 วินาที  ความเร็วสูงสุด: 359 กม./ชม.   ราคาโดยประมาณ: รถมีจำนวนน้อยมากจนไม่สามารถบอกราคาที่แน่ชัดได้ (ไม่มีบริษัทตัวแทนจำหน่าย)  เปิดวงคุยเรื่องรถ… “ตัวเครื่องยนต์ Edonis มาจากเครื่อง Bugatti EB110 เพราะบริษัทพยายามกู้ชื่อเสียงของแบรนด์อิตาเลียนในตำนานคืนมา”

Ferrari La Ferrari

 La Ferrari

ปีที่ผลิต 2013-2015  จำนวนการผลิต 499 คัน  ผู้ออกแบบส Centro Stile Ferrari ควบคุมโดย Flavio Manzoni  เครื่องยนต์ V12 ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า  พละกำลัง 963 แรงม้า  0-100 กม/ชม ต่ำกว่า 3 วินาที  ความเร็วสูงสุด มากกว่า 350 กม./ชม.  เปิดวงคุยเรื่องรถ… ก็นับว่าเป็นซูเปอร์คาร์หายากและวีธีการครอบครองนั้นก็ยากเช่นกัน เพราะคุณจำเป็นจะต้องมีรุ่นที่เฟอร์รารี่กำหนดไว้ในครอบครองก่อนถึงจะมีคุณสมบัติพอจะได้ La Ferrari มา และเจ้าซูเปอร์คาร์สายโหดคันนี้ก็คือคู่ต่อกรกับ Lamborghini Aventador SV ที่สูสีนั่นเอง แต่ก็เพราะความหายากของมันทำให้คุณคงได้พบเห็นมันน้อยหน่อย และในเมืองไทยก็มีเพียงแค่คันเดียวเท่านั้น

Content by Editorial Team

- Advertisement -